หากใครที่มาเดินเล่นแถวเจริญกรุง แต่ไม่รู้ว่าจะแวะร้านไหนดี วันนี้ Hungry Hub ขอแนะนำร้าน 168 YĪ LIÙ BĀ (ยี่ ลิ่ว ปา) เป็นหนึ่งในร้านอาหาร ที่อยู่ในอาคารประวัติศาตร์ ท่ามกลางถนนเจริญกรุง ย่านเยาวราช ที่ให้กลิ่นอายความโมเดิร์นไชน่าทาวน์แบบเรียบหรู แถมยังเป็นโซนที่มีคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปเดินเล่นเยอะพอสมควร ภายในร้านจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง มาติดตามไปพร้อมๆกันเลย
168 YĪ LIÙ BĀ (ยี่ ลิ่ว ปา) ร้านลับสุดคลาสสิค ใกล้เยาวราช
สำหรับ 168 YĪ LIÙ BĀ (ยี่ ลิ่ว ปา) เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมอาหารไทย – จีนตะวันตก และ Wine Bar ซึ่งร้านจะใกล้กับถนนเยาวราช ถ้าหากเดินทางมาด้วย MRT สามารถมาลงที่สถานีวัดมังกร และออกทางออกที่ 2 หลังจากนั้นเดินต่ออีก 450 เมตร ใครที่นำรถส่วนตัวมาสามารถจอดได้ตามซอย แต่ต้องดูป้ายห้ามจอดดีๆ ด้วยนะ
บรรยากาศภายในร้าน
ภายในร้านอาหารของ 168 YĪ LIÙ BĀ มี 2 ชั้น ซึ่งชั้นล่างเป็นพื้นที่สำหรับ 2-6 คน แต่ชั้นที่สองจะเหมาะสำหรับคนที่พาครอบครัว กลุ่มเพื่อนหรือแฟน ทั้ง 2 ชั้น จะให้ความรู้สึกพาเราย้อนวัยไปยุค 90 ตัวร้านถูกตกแต่งด้วยสไตล์กำแพงอิฐสีแดง แนววินเทจร่วมสมัย ที่มีกลิ่นอายแบบโมเดิร์นไชน่าทาวน์ ผสมผสานกับงานอาร์ต และสร้างบรรยากาศภายในร้านด้วยเทียนแก้วเรียบหรู รวมถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้กลมกลืมไปกับร้าน ใครสายคอนเทนต์รับรองว่าปังแน่นอน เพราะที่นี่สามารถถ่ายรูปได้หลายมุมเลยทีเดียว
เอาใจสายดื่ม สายแฮงค์เอาท์กันบ้าง ที่นี่มีโซนบาร์ให้นั่งดื่มชิลกันได้ ไม่ว่าจะเป็น Cocktail, mocktail และใครที่ชอบดื่มไวน์ ที่นี่ก็มี Wine Bar ให้เลือกหลายสายพันธ์ ทั้งสเปน อิตาลี ฝรั่งเศส อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย ใครอยากดื่มเครื่องดื่มชนิดไหนก็สามรถสอบถามบาร์เทนเดอร์ได้เลย
นอกจากการตกแต่งภายในร้านและโซนบาร์ ก็ยังมีการเล่นดนตรีสดช่วงเวลา 20:00 – 22:00 น. แนวเพลงจะเป็นสากล ไทย ป็อบ & ร็อค ให้ทุกคนได้นั่งฟังเพลงเพลินๆ ได้ตลอดทั้งคืน
เมนูแนะนำ ที่อยากให้มาลอง
เมนูอาหารของที่นี่ตอบโจทย์ทุก Lifestyle รังสรรค์โดยเชฟมือทองที่ได้รางวัลระดับนานาชาติ ด้านอาหาร มีการตกแต่งจานอาหาร เพื่อให้อาหารมีคุณภาพและเป็นอาหารที่ดีที่สุดในแต่ละจาน อีกทั้งได้สัมผัสกับรสชาติของอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร บอกเลยว่าอร่อยและบรรยากาศคลาสสิคอีกด้วย
เปิดมาด้วยเมนูแรก “ปีกไก่เสฉวน” เป็นการนำปีกไก่กรอบเคลือบซอสเสฉวนซูวี เป็นเมนูยอดฮิตของทางร้าน มีรสชาติจัดจ้านของพริกไทยเสฉวน จะให้ความเผ็ดชาลิ้น แต่ก็ยังคงมีความกลมกล่อม หวานละมุนสุดๆ เนื้อไก่กรอบ เคี้ยวกรุบๆ ได้เพลินๆ ข้างๆจะโรยด้วยเผือกและเมล็ดงาที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
ต่อกันมาติดๆ กับ เมนู ”แก้มเนื้อและสตูว์จีน“ ทางร้านได้นำแก้มเนื้อหมูปรุงสุกแบบด้วยซูวีเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ข้างจะมีโรยด้วยกุนเชียง รากบัวกรอบ แครอท และเห็ด จับคู่กับข้าวหอมมะลิสมุนไพร เสิร์ฟพร้อมผักกาดขาวและผักดอง ตกแต่งหน้าด้วยดอกไม้เดซี่ เป็นอีกเมนูที่ต้องลองให้ได้นะ
เมนู “ซี่โครงหมูซูวี” ทางร้านนำซี่โครงมาหมักในซอสสมุนไพร จากนั้นก็นำมาปรุงสุกด้วย ซูวี เพื่อเป็นการเก็บความสด นุ่ม ของเนื้อหมู ข้างๆก็จะตกแต่งด้วยผักที่มีประโยชน์หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ผักสลัด แครอท มะเขือเปราะสีม่วง มะเขือไข่เต่าสีขาว มะนาว เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วสไตล์อีสานแท้ๆ คู่กับข้าวเหนียวเบอร์รี่หอมๆ และตกแต่งหน้าด้วยดอกเดซี่
”ข้าวหน้าเป็ดปักกิ่งราดข้าว“ เป็นเมนูอาหารจีนที่บอกได้เลยว่าน่ากินมาก ทางร้านจะนำข้าวมาตักใส่จาน หลังจากนั้นก็นำเนื้อเป็ดที่ย่างมาจัดจาน เสิร์ฟพร้อมท็อปปิ้ง อย่าง ผักกาด ไข่ต้มเยิ้มๆ ขิงดอง เป็นต้น แถมเนื้อเป็ดยังนุ่มด้วยนะ เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตที่ต้องสั่งเลย
เมนู “ไส้กรอกไก่สะเต๊ะ” เป็นไส้กรอกเนื้อไก่บดผสมกับเครื่องเทศ มีน้ำจิ้มเนยถั่วตรงกลาง เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังปิ้ง ตกแต่งหน้าด้วยพริกหยวก หอมแดง และแตงกวาบนขนมปัง สร้างสัสันด้วยการตกแต่งหน้าด้วยดอกเดซี่และใบบัวบก ใครอยากลองทานหรือชื่นชอบเนื้อไก่ก็สั่งได้เลยค่า
(แกงระแวงเป็ด) เสิร์ฟมาพร้อมข้าวที่อบด้วยใบมะกรูด ราดด้วยตัวแกงที่มีรสชาติเผ็ดร้อนคล้ายๆกับแกงเขียวหวาน แต่มีการใส่ขมิ้นไปเพื่อเพิ่มสีสันและความหอมของแกงให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้รสชาติของเนื้อเป็ดจะมีความนุ่ม หอม และฉุ่มฉ่ำแบบสุดๆ
“อกเป็ดหอมกรอบและแป้งตอร์ติญ่านึ่ง” ซึ่งซูวีนำอกเป็ดซูวีเนื้อนุ่ม มาทานคู่กับซอสพริกไทยหวานบนแผ่นแป้งตอร์ติญ่าโฮมเมด เนื้อเป็ดนุ่ม ส่วนข้างๆตกแต่งด้วยแตงกวา ต้นหอม พริกยาว ขิงดอง
มาดูเมนูอาหารเส้นกันบ้าง อย่าง “บะหมี่ซูวีกะปิ” ที่นำเอาเส้นบะหมี่มาคลุกเคล้ากับกะปิให้เข้ากัน ข้างๆจะโรยด้วยพริกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ มะม่วง หอมแดง ถั่วงอก แตงกวา หมูหวานตุ๋น และไข่ข้น หรือจะเพิ่มความเปรี้ยวโดยการบีบมะนาวลงไปในเส้นบะหมี่ก็ได้นะ รสชาติของเมนูนี้จะกลมกล่อมและมีความเข้มของะปิ บอกเลยว่าเป็นเมนูที่ลงตัวสุดๆ
อีกหนึ่งเมนูอาหารเส้นที่ถือได้ว่าขึ้นชื่อสุดๆในประเทศไทย กับเมนู “ผัดไทยปักษ์ใต้“ ทางร้านจะนำบะหมี่มาผัดแบบสไตล์ไทยภาคใต้ คลุกเคล้าผสมผสานกับถั่วงอก ต้าหู้ ถั่วลิสง กะทิมะขามและซอสพริก ข้างๆจานจะเป็นการตกแต่งด้วยแตงกวาหั่นชิ้นเล็กๆ กุยช่าย และตบท้ายด้วยเนื้อกุ้งฉ่ำๆ
อีกหนึ่งเมนู อย่าง “หมั่นโถวทูน่าและทรัฟเฟิล” เป็นเมนูที่ใครมาก็ต้องสั่ง เพราะทางร้านใช้วัตถุดิบที่พรีเมี่ยมสุดๆ และเชฟได้ใช้แป้งหมั่นโถวทอดกรอบ พร้อมสอดไส่ทูน่าและครีมทรัฟเฟิลมาเสิร์ฟเป็นอาหารว่าง โรยหน้าด้วยทูน่าบรูนัวร์ดิบและแยมสับปะรด ตกแต่งบนอาหารด้วยดอกเดซี่อย่างสวยงาม
“เกี๊ยวซ่าทอดใส้ผักโขมและชีส” ผสมผสานกันอย่างลงตัว เสริมด้วยซอสสตอเบอร์รี่รสหวานและเผ็ด แป้งกร๊อบกรอบ ส่วนรสชาติก็จะออกเค็มมัน กินง่ายสุดๆ ลองสั่งเลยนะ
“ทาร์ตไข่เค็ม” บอกเลยว่าถ้าลองแล้วต้องติดใจแน่นอน เพราะเขาเป็นทั้งของคาวและของหวาน ที่มาพร้อมเปลือกอันอ่อนโยน ปกปิดแกนไข่เค็มที่หลอมละลายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ข้างๆจะตกแต่งด้วยฝอยทอง สตรอเบอร์รี่ และดอกไม้อย่างสวยงาม
ของคาวไปแล้วก็ขอตบท้ายด้วยเมนูของหวาน อย่าง “ข้าวเหนียวมะม่วง พานาคอตต้า” ที่ทางร้านนำพานาคอตต้าทำผสมผสานกับมะม่วงและนำมาบดให้ละเอียด ราดด้วยข้าวเหนียวไทยแสนหอม โรยหน้าให้สวยงามด้วยมะม่วงหั่นชิ้นเล็กๆ ตามด้วยถั่วลิสง เป็นเมนูของหวานอีกเมนูหนึ่งที่ต้องลองสั่งมากินสักครั้งเมื่อถึงร้าน
นอกจากเมนูอาหารคาวและของหวาน ทางร้านก็มีไวน์ไว้ให้บริการสำหรับลูกค้าด้วย ซึ่งลูกค้าสามารถสอบถามบาร์เทนเดอร์ได้ถ้าหากต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับรสชาติของไวน์ก็ เพื่อให้เข้ากับอาหารที่เราลือกทานในมื้อสุดพิเศษนั้น รับรองว่าถูกอกถูกใจคนที่ชอบเที่ยวตอนกลางคืนสุดๆ
เป็นยังไงกับบ้าง กับรีวิวร้าน 168 YĪ LIÙ BĀ (ยี่ ลิ่ว ปา) ที่บรรยากาศเรียบหรู พร้อมอาหารที่หลากหลายรสชาติ หลากหลายวัฒนธรรมที่เรานำมาฝากทุกคน ถ้าใครยังไม่เคยสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ก็ต้องมาลองดู นอกจากจะได้ลิ้มรสชาติอาหารยังได้ฟังเพลงจิบเครื่องดื่มไปด้วยนะ แถมได้มุมถ่ายรูปที่ไม่ซ้ำใครลงไอจีตัวเองแบบสวยๆ ชวนครอบครัว ชวนเพื่อน ชวนคู่รัก มาสัมผัสเลย และอย่าลืมมาแชร์บอกต่อชาว Hungry Hub ด้วยนะ
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
