สวัสดีค่าทุกคน ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อ ออกัส ♡ ตอนนี้อยู่ปี 4 สถาบันเทคโนโลยีไทย – ญี่ปุ่น คณะบริหารธุรกิจ สาขา Creative and Digital Marketing วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ ฝึกงาน Hungry Hub ให้ฟังว่าต้องเตรียมตัวยังไง สัมภาษณ์ยากไหม ได้ทำอะไรบ้าง แค่มาถ่ายเอกสารรึเปล่า หรือโดนใช้ชงกาแฟให้พี่ ๆ พูดเลยตรงนี้ว่าไม่ใช่แน่นอน
ต้องบอกก่อนว่าทำไมถึงสนใจอยากฝึกที่นี่ หลัก ๆ คือเรื่องกินเลยค่ะ ฮ่า ๆ เพราะตอนที่หาที่ฝึกก็คิดกับตัวเองว่าชอบอะไร สนใจอยากทำด้านไหน และคิดว่าด้านไหนที่จะทำออกมาได้ดี และนี่แหละคือทำเกี่ยวกับอาหาร เป็นเรื่องที่เราอินกับมันที่สุด
และที่เลือก Hungry Hub อีกอย่างหนึ่งก็เพราะเรื่ององค์กรเลยค่ะ เพราะด้วยความเป็น ธุรกิจ Startup องค์กรจะไม่ได้ใหญ่มาก เลยสามารถเข้าถึงพนักงานได้โดยตรง พี่ ๆ เป็นกันเองมากก ย้ำนะว่ามาก ๆ
ที่สำคัญเวลาทำงานที่นี้คือปัง 10 โมงถึง 1 ทุ่ม ดังนั้นเหมาะมากสำหรับใครที่ไม่ชอบตื่นเช้ามากเจอ Rush Hour ที่ทุกคนต้องแย่งกันขึ้น BTS , MRT กันเนอะ ตัวออฟฟิศไม่ได้ไกลจากบีทีเอสมากดังนั้นใครสะดวกเดินก็สามารถเดินได้เช่นกัน หรือจะนั่งวินก็ได้น้า
สัมภาษณ์ยากไหม จะโดนดุรึเปล่า ?
วันที่ไปสัมภาษณ์ก็ได้เจอกับพี่สิทธิ์ CEO โดยตรงเลย คำถามก็ประมาณว่าทำไมถึงอยากทำที่นี่ รู้จักได้ยังไง เคยใช้บริการแอพพลิเคชั่น Hungry Hub ไหม รวมไปถึงถามข้อดีของเราว่าทำไมถึงต้องรับ อะไรประมาณนี้ แต่เอาจริง ๆ ก็คือพยายามตอบให้เป็นตัวเองที่สุด มั่นใจเข้าไว้ดีกว่า บางคนอาจจะไม่ได้โดยถามแบบเรา แต่แนะนำให้เตรียมข้อมูลมาดีกว่าน้า
ฝึกงาน Hungry Hub เป็นไงบ้างเริ่ดไหม
ขอบอกเลยว่าไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดเลยที่เลือกฝึกที่นี่ ตำแหน่งที่เราสมัครมาก็คือ Content Marketing งานหลัก ๆ ก็จะมีคิดคอนเทนต์ลงในช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook , Instagram รวมไปถึงการเขียน Blog ด้วย ที่นี่เปิดกว้างมาก ๆ ว่าอยากลองทำอะไร สนใจเรื่องไหนเป็นพิเศษก็สามารถไปคุย ถ้าน่าสนใจพี่ ๆ ก็ให้ทำได้เลยย
แต่ไม่ได้ทำแค่นี้นะ จะได้ลองทำหน้าที่อื่น ๆ ด้วย อย่างตอบแชทดูแลลูกค้า Customer Services ช่วยตอบให้บ้างแต่ไม่ต้องกลัวนะ ไม่เข้าใจอะไรก็สามารถสอบถามพี่ ๆ ได้เลย และไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินเลยนะ เพราะบริษัทนี้ไม่ปล่อยให้หิวเเน่นอน จะมีวลีเด็ดคือ “ยูกิน ๆ ๆ”
อย่างวันแรกที่เราไป คือขนม นม เนย พร้อมมาก ๆ พี่ ๆ เรียกให้ไปหยิบ ถ้าไม่หยิบก็คือจะมีพี่อีกคนวนมาบอกให้ไปหยิบ คืออยู่ดีกินดีมาก หรือใครที่ดื่มกาแฟที่นี่ก็ทีเครื่องชงกาแฟให้พร้อมเลย ที่โซน Hungry Kitchen ? อ๋อ มาม่า โจ๊ก หรือข้าวต้มก็พร้อมนะบอกแล้วว่าเลี้ยงดีมาก
และทุกวันที่ 1 , 15 หน้าที่อีกอย่างหนึ่งก็คือสั่งขนมมาตุนไว้ในออฟฟิศ ก็เดินไปถามพี่ ๆ แต่ละคนว่าอยากทานอะไร อยากได้อะไรกันบ้าง แต่ทุกครั้งที่สั่งต้องมี ไส้กรอกหนังกรอบ และโบโลน่า ที่ขาดไม่ได้เลย
ขอแอบบอกอีกนิดว่าถ้าใครกังวลว่าจะหาข้าวกลางวันทานยาก บอกได้เลยว่าใต้อาคารคือมีพร้อม Foodroot ชั้นใต้ดินคือมีอาหารให้เลือกทานได้เลย ราคาไม่แพงแถมให้เยอะมาก ๆ ยิ่งร้านอาหารตามสั่งคือแบ่งทานได้สองมื้อได้คุณพี่ เกินเบอร์มาก
และใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว และสนใจอยากมาฝึกงานที่ Hungry Hub อยู่ก็สามารถลองส่ง Resume มาได้เลยน้า เพราะที่นี่เข้ารับ Intern ทั้งปี ได้ทั้งประสบการณ์และน้ำหนักเพิ่มขึ้นแน่นอน ฮ่า ๆ
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากรู้เพิ่มเติมว่า Hungry Hub คืออะไร ก็สามารถกดอ่านได้เลยจ้า
สามารถอ่านบทความอื่นที่น่าสนใจอีกเพียบได้ที่นี่!
- Kin Shabu Sukiyaki สุดยอดเนื้อวากิว A5 ที่สายเนื้อไม่ควรพลาด !
- Invite restaurant and bar คาเฟ่ลับ ๆ ที่ยกสวนสไตล์อังกฤษสู่อโศกแลนด์
- Masala Art ร้าน อาหารอินเดีย ที่ได้รับรางวัล The Best Indian food 9 ปีซ้อน
- รีวิว ซีฟู้ด เยาวราช ??? ??????? ????́ & ?????????? ร้านอาหารซีฟู้ดรูปแบบคาเฟ่สุดชิค สถานที่เช็คอินใหม่ใจกลางเยาวราช