หลายคนอยากจะลองสวมชุดยูกาตะ แล้วไปนั่งชิบชาเขียวแบบคนญี่ปุ่นแท้ๆ แต่ก็กลัวเรื่องค่าเดินทาง ค่าท่พักโน้นนี่นั้น แต่วันนี้ลืมความคิดเหล่านั้นไปได้เลย เพราะว่า Hannari Cafe de Kyoto Thonglor จะพาทุกคนไปดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ๆ แถมเดินทางง่ายๆ ไม่ต้องบินไปไหนไกล และที่สำคัญยังมีเครื่องดื่มมัทฉะแสนอร่อยให้ได้ลิ้มลองอีกเพียบ แล้วจะเป็นยังไงกันบ้างมาติดตามกันได้เลย
Hannari Cafe de Kyoto Thonglor เรโทรคาเฟ่ ใจกลางทองหล่อ
ฮันนาริ คาเฟ่ เดอ เกียวโต ทองหล่อ เป็นหนึ่งในร้านคาเฟ่ สุดเรโทรสไตล์ญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 10 ที่ ณ ปัจจุบันก็เปิดมาได้ 3 ปีแล้ว โดยสำหรับเวลาเปิด-ปิด จะเปิดตั้งแต่ 10 โมงครึ่งไปจนถึง 3 ทุ่ม หากใครจะเดินทางมาสามารถขับรถส่วนตัวมาจอดที่ Donki Mall Thonglor แล้วเดินมาอีกไม่กี่เมตรก็จะถึงหน้าร้าน หรือ ถ้าใครไม่ได้ขับรถมาก็สามารถนั่ง BTS มาลงที่สถานีเอกมัย หรือ ทองหล่อ แล้วนั่งรถต่อเข้ามาก็ได้เช่นเดียวกัน
เมื่อก้าวเข้ามาตรงหน้าร้านก็จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแบบฉบับญี่ปุ่น ด้วยทางเดินที่ปูด้วยหินอ่อนตลอดทาง ตัวหนังสือชื่อร้านที่เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น และในระหว่างทางเดินนั้นเราก็จะพบกับที่นั่งพักสบายๆ สไตล์เซน (Zen) เหมาะสำหรับใครที่แวะมาสั่งเครื่องดื่มแล้วอยากนั่งมุมนี้ ตามวัฒนธรรมคอนเซปต์แบบ “คิสสะเต็น” ที่แปลว่า ร้านสำหรับดื่มชา
เมื่อเข้ามาภายในร้านก็จะพบกับโซนขายของ หรือ Lifestyle Shop ที่มีให้เลือกทั้งขนมหวาน เครื่องดื่มพร้อมทาน รวมไปถึงของตกแต่งต่างๆ ที่สามารถเลือกซื้อ เลือกช้อปไปฝากให้กับเพื่อนๆที่ทำงาน คนรู้ใจ ครอบครัวได้ แถมมีให้เลิอกเยอะมากตั้งแต่ตุ๊กตาดารุมะ ตุ๊กตาแมวน้อยน่ารัก กระเป๋าเงิน ไปจนถึงกระเป๋าสะพายข้าง แต่ทว่าความสุดของที่นี่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะว่าตัวร้านก็ยังมีอีก 2 ชั้นที่รอให้เราไปสำรวจกันต่อ
สำหรับชั้น 2 และชั้น 3 จะเป็นชั้น Takami Room ที่จะเป็นโซนที่นั่งแบบเสื่อทาทามิ ที่นอกจากจะเต็มไปด้วยที่นั่งแบบเสื่อที่มีเบาะนั่งนุ่มๆ และโต๊ะเล็กรองรับมากมาย การตกแต่งโดยรอบก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปนั่งอยู่ที่ญี่ปุ่นแบบแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดแขวนบนผนัง กระจกทรงเหลี่ยมและทรงกลม หนังสือที่วางอยู่บนชั้น และที่สำคัญด้วยโทนสีแบบเอิร์ธโทน จึงทำให้รู้สึกดูสบายตา นั่งทานได้เพลินตา เพลินใจเลยทีเดียว
เมนูของทางร้านก็จะเน้นไปทางของหวานเป็นหลัก ที่จะเลือกใช้ อุจิมัทฉะ (Uji Matcha) ซึ่งเป็นใบชาแท้เกรดพรีเมี่ยมจากเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ที่จะมี สีเขียวสด พร้อมความลึกและมัน และมีกลิ่นหอมหวานออกสาหร่าย โดยก็ได้นำมาทำเป็นเมนูต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเค้ก มัทฉะเย็น กาแฟ และอีกมากมาย
เมนูแรกที่แนะนำเลยก็คือ Uji Matcha Bread Cream Toast หรือ ขนมปังอุจิมัทฉะ เป็นเมนูโทสต์ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับความหนานุ่มของตัวขนมปัง โรยด้วยผงมัทฉะหรือโฮจิฉะ และตามมาด้วยครีมสดที่ราดแบบจัดเต็มเอาใจคนรักของหวาน ถ้าใครที่ยังรู้สึกว่ายังไม่จุใจก็ยังสามารถเพิ่มท็อปปิ้งได้ตามใจชอบทั้งไอศกรีม ถั่วแดง หรือ ว่าเนย
นุ่มละมุนกันต่อกับ Homemade Shiratama Dango หรือ ดังโงะสไตล์โฮมเมด ที่เต็มไปด้วยความเหนียวหนึบเพราะว่าทางร้านปั้นขึ้นมาเองแบบสดๆ นำไปคลุกกับผงที่สามารถเลือกได้ตามความต้องการไม่ว่าจะเป็นผงมัทฉะ ผงคินาโกะ (ผงถั่วเหลืองคั่วบด) หรือ ผงโฮจิฉะ เสิร์ฟแบบออนท็อปด้วยถั่วแดง และไอศกรีมที่สามารถเลือกรสได้เช่นเดียวกัน
สายพาร์เฟ่ต์เขาก็มีเมนูสำหรับคนรักมัทฉะด้วยนะเออ สำหรับ Uji Matcha Mont Blanc Kyo Parfait พาร์เฟ่ต์มัทฉะที่จัดเต็มมาด้วยเลเยอร์ที่ใส่อัดแน่นมาแบบเต็มแก้ว ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีมมัทฉะเย็นฉ่ำ ครีมบัวยญี่ปุ่นนุ่มละมุน วุ้นถั่วแดง ถั่วเคสเน็ตกรอบๆ และผลไม้สดนานาชนิด เพิ่มความสนุกสนานด้วยการราดซอสต่างๆ ตามชอบ ไม่ว่าจะเป็นซอสสตรอว์เบอร์รี หรือซอสช็อกโกแลต รับรองว่าอร่อยจนวางช้อนไม่ลงแน่นอน
สายเค้กนุ่มละมุน ก็มี Uji Matcha Roll Cake มัทฉะโรลเค้ก ที่ยั่วยวนให้ชิมสักชิ้น เพราะว่าเมนูนี้เป็นเมนูที่รังสรรค์โดยเชฟผู้มากประสบการณ์จากการทำขนมในโรงแรม 5 ดาวที่ประเทศญี่ปุ่น โดยตัวเนื้อเค้กก็เน้นความเข้มข้น มากกว่าความหวาน เสิร์ฟด้วยถั่วแดง วิปครีม และสตอเบอรี่แบบสดๆ จึงกลายเป็นคอมโบ้ที่เข้ากกันแบบสุดๆ
นอกจากจะมีจุดเด่นในด้านของของหวานที่มีให้เลือกหลากหลายแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ที่โดดเด่นเลยก็คือ ถ้าจองผ่าน Hungry Hub มากกว่า 590 บาทขึ้นไปจะได้สิทธิพิเศษเช่าชุดยูกาตะฟรี แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้เติมเต็มประสบการณ์แบบญี่ปุ่นเพิ่มเข้าไปอีก และนอกจากนี้หากจอง 1,500 บาทขึ้นไปจะได้รับกระเป๋า Anello x Kyoto Limited Edition ฟรี 1 ใบ ซึ่งเป็นลายที่ไม่มีขายทั่วไปอีกด้วย
และนี้ก็คือ Hannari Cafe de Kyoto Thonglor เรโทรคาเฟ่บรรยากาศดี ที่มาพร้อมกับกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ในย่านทองหล่อ ที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงประเทศญี่ปุ่นก็สามารถสัมผัสกับกลิ่นอายแบบนี้ได้ อีกทั้งยังมีเมนูของหวานอีกมากมายที่รอให้ลิ้มลอง พร้อมโปรดมชั่นสุดพิเศษจาก Hungry Hub เร่มต้นเพียงคนละ 199 บาท เท่านั้น รู้แบบนี้แล้ว เรียบชวนเพื่อนไปกันด่วนๆเลย
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่