ณ ย่านการค้าที่มีร้านอาหารเปิดใหม่มากมาย แต่มีอยู่ร้านหนึ่งที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่นาน คือ ร้าน GYU EN SIAM YAKINIKU ร้านบุฟเฟต์วากิว A5 สไตล์ญี่ปุ่นที่บินมาไกลจากออสเตรเลีย เพื่อเสิร์ฟเนื้อวากิว A5 คุณภาพที่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลียให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติแบบจุใจ ณ สาขาแห่งแรกในประเทศไทย ใจกลางพร้อมพงษ์ เราจะพาไปรู้จักร้านสาขาแห่งแรกในประเทศไทยกัน
GYU EN SIAM YAKINIKU บุฟเฟต์วากิว A5 เปิดใหม่ ณ พร้อมพงษ์
ร้าน GYU EN SIAM YAKINIKU เป็นร้านบุฟเฟ่ต์วากิวปิ้งย่างสัญชาติญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 33/2 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ เดินทางมาที่ร้านสะดวก เมื่อเดินลงจากมาจากสถานีรถไฟฟ้าและเดินเท้าต่อเข้าในซอยอีกประมาณ 500 เมตร (8 นาที) แถมตัวร้านยังตั้งอยู่ใกล้ละแวกห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง EMSPHERE EMQUARTIER และ EMPORIUM อีกด้วย เป็นร้านที่เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งช้อปปิ้งเสร็จและต้องการหาร้านเนื้อย่างดีๆนั่งทานพร้อมกับเครื่องดื่มดีๆ เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายจากย่านการค้าในคราวเดียวกัน
หากใครเดินทางมาที่ร้านด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถนำรถยนต์มาจอดได้ที่บริเวณโรงแรม The Bless Hotel and Residence ซึ่งคิดค่าจอดรถ ตกอยู่ที่ชั่วโมงละ 50 บาท ถ้านำบัตรจอดรถมาให้ที่ร้านเซ็นให้ สามารถจอดรถฟรีได้ 2 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ดี ถ้าเดินทางมาที่ร้านด้วยรถยนต์ส่วนตัว ควรเตรียมใจสำหรับการจราจรที่หนาแน่แถวย่านพร้อมพงษ์ในชั่วโมงเร่ง (Peak Hour) หรือช่วงเย็นด้วย
แต่ก่อนที่พวกเราจะเดินเข้าไปในร้าน เรามาทำความรู้จักกับเรื่องราวที่น่าสนใจของร้านแห่งนี้กันสักหน่อย
จากออสเตรเลียสู่สาขาแห่งแรกในประเทศไทย
จุดเริ่มต้นของร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างนี้ เริ่มต้นเปิดร้านสาขาแรกติดกับถนนแห่งหนึ่งในเมือง Perth ประเทศออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2019 เพื่อเสิร์ฟและคัดสรรเนื้อวากิวคุณภาพให้กับลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติของเนื้อวากิวญี่ปุ่นและออสเตรเลีย จนกลายเป็นร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างวากิวที่คนในละแวกแถวนั้นแวะเวียนมาลิ้มลองรสชาติของเนื้อวากิวอยู่กันเรื่อยๆ
1 ปีต่อมา ทางร้านได้เปิดร้านเพิ่มอีก 1 สาขาที่เมือง Willetton ทางตอนใต้ของเมือง Perth เพื่อรองรับลูกค้าที่แวะเวียนมาลิ้มลองรสชาติของเนื้อวากิวกันมากขึ้น ปัจจุบันร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 สาขา ได้แก่ ร้าน Gyu-En Japanese BBQ Yakiniku ที่เมือง Perth และ GYU En DOS Japanese BBQ-Willetton ที่เมือง Willetton
เวลาล่วงเลยเข้าสู่ปี 2024 ทางร้านได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ เมื่อทางร้านต้องการขยายสาขาไปยังต่างประเทศ และ เลือกมาเปิดสาขาแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อเสิร์ฟและคัดสรรเนื้อวากิวคุณภาพให้กับลูกค้าชาวไทยได้ลิ้มลองรสชาติ ณ ใจกลางย่านการค้าที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ แถมสาขาในประเทศไทยถือว่าเป็นร้านสาขาต่างประเทศแห่งแรกของทางร้านอีกด้วย
เปิดร้านสาขาแรกในประเทศไทย
เมื่อเดินไปถึงด้านหน้าร้าน เราจะสังเกตเห็นป้ายหน้าร้านได้อย่างชัดเจน แม้ว่าตัวร้านจะซ่อนอยู่ภายในตึกก็ตาม
พอเดินเข้ามาด้านในร้าน เราจะเห็นการตกแต่งภายในร้านที่ตกแต่งร้านแบบเรียบง่าย ดูดีมีสไตล์ ซึ่งแตกต่างจากร้านอื่นๆในละแวกใกล้เคียง
แสงสว่างจากโคมไฟในยามค่ำคืนให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย ทำให้บรรยากาศภายในร้านชวนน่านั่งเข้าไปอีก
ที่นั่งส่วนใหญ่จะเป็นแบบโซฟา นั่งสบาย เหมาะสำหรับการนั่งทานอาหารแบบสบายๆ หลังจากช้อปปิ้งเสร็จ ในส่วนของโต๊ะอาหารจะเป็นโต๊ะเตาย่างแบบเตาถ่าน มาพร้อมกับเครื่องดูดควันภายในเตา ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นอาหารติดตัว
แพ็คเกจเมนูอาหาร
มาพูดถึงเมนูอาหารของทางร้านกันดีกว่า ทางร้านได้จัดเมนูอาหารในรูปแบบบุฟเฟต์ All You Can Eat ที่ให้ผู้ทานสามารถลิ้มลองรสชาติของเนื้อวากิวได้อย่างเต็มที่ตามใจชอบ โดยทางร้านจะแบ่งเมนูอาหารออกเป็น 5 แพ็คเกจ ได้แก่ แพ็คเกจราคา 399 บาท แพ็คเกจราคา 499 บาท แพ็คเกจราคา 699 บาท แพ็คเกจราคา 999 บาท และ แพ็คเกจราคา 1,990 บาท ซึ่งแต่ละแพ็คเกจจะเสิร์ฟเนื้อวากิวและเมนูอาหารแตกต่างกันไป เนื้อวากิวทั้งหมดที่เสิร์ฟในร้านล้วนเป็นเนื้อวากิวคุณภาพที่ถูกเลือกสรรและนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ออสเตรีเลีย และ อเมริกา
สำหรับแพ็คเกจเมนูอาหารแล้ว เราเลือกทานเมนูอาหารแบบแพ็คเกจราคา 1,990 บาท ซึ่งสามารถทานเนื้อวากิว และ เมนูอื่นๆของทางร้านได้ทั้งหมด แต่วันนี้ทางเรามีโอกาสได้ทานเนื้อวากิว A5 จากญี่ปุ่นและออสเตรเลีย
เริ่มจากเนื้อวากิว A5 จากญี่ปุ่น โดยทางร้านจะเสิร์ฟเนื้อวากิวเป็นในส่วนของเนื้อริบอาย (Ribeye) ที่เสิร์ฟมาในแบบเนื้อสไลด์บาง เนื้อสไลด์แบบหนา และ เนื้อหั่นเต๋า ซึ่งเราสามารถขอให้เซฟหั่นเนื้อวากิวและยกออกมาเสิร์ฟตามแบบที่เราชอบได้
เมื่อเรานำเนื้อสไลด์วากิวลงไปย่างบนเตาถ่าน เราจะได้กลิ่นหอมของเนื้อวากิวและกลิ่นหอมไหม้เตาถ่านอ่อนๆชวนให้น่ารับประทาน พอเนื้อสไลด์วากิวสุกกำลังได้ที่ แล้วค่อยรับประทานเข้าไปในปาก และ กัดเข้าไปเนื้อสไลด์ย่างแบบเบาๆ ทำให้สัมผัสถึงความบางนุ่มของเนื้อวากิว และ รสชาติของเนื้อวากิวที่กำลังละลายอยู่ในปาก ถ้าทานคู่กับซอสของทางร้าน ก็จะช่วยทำให้รสชาติของเนื้อวากิวมีความอร่อยมากขึ้น
ถ้าเลือกทานเนื้อสไลด์แบบหนา ก็จะได้รสชาติกับรสสัมผัสอร่อยไปอีกแบบ เมื่อนำเนื้อสไลด์แบบหนาไปย่างบนเตาถ่านจนเนื้อสุกกำลังดี แล้วรับประทานเข้าไปในปาก จากนั้นก็ค่อยๆเคี้ยวเนื้อวากิวย่างอย่างช้าๆ ให้ลิ้นได้สัมผัสถึงรสสัมผัสความนุ่มของเนื้อวากิว และ ความเข้มข้นของไขมันเนื้อวากิวที่ละลายในปาก ทุกครั้งเวลาที่เคี้ยว
ส่วนถ้าใครเลือกทานเนื้อวากิว แบบเนื้อหั่นเต๋า ก็สามารถเข้าถึงความอร่อยได้ไม่แพ้กัน เพราะนอกจากเราจะสามารถย่างเนื้อวากิวตามระดับความสุกที่เราชอบได้แล้ว เรายังจะสามารถสัมผัสถึงรสสัมผัสความหนานุ่มของเนื้อวากิว และ รสชาติความเข้มข้นของเนื้อที่อัดแน่นอยู่เต็มปาก เพียงแค่ออกแรงเคี้ยวเล็กน้อยเท่านั้น
เนื้อริบอายวากิวออสเตรเลีย Marbling Score 8-9 เนื้อสันวากิวออสเตรเลีย Marbling Score 8-9
หลังจากลองทานเนื้อวากิวจากญี่ปุ่นแล้ว ก็มาต่อกันที่เนื้อวากิวออสเตรเลีย Marbling Score 8-9 ทางร้านได้เสิร์ฟเนื้อวากิว A5 จากออสเตรเลียมาให้ 2 ส่วน ได้แก่ เนื้อสัน (Loin) และ เนื้อริบอาย (Ribeye) ซึ่งจะถูกเสิร์ฟเป็นแบบเนื้อสไลด์ โดยเราจะเริ่มทานจากเนื้อริบอายก่อน
แม้ภายนอกเนื้อริบอายวากิวออสเตรเลียจะดูคล้ายกับเนื้อริบอายวากิวญี่ปุ่น แต่เมื่อมองดูใกล้ๆแล้ว เนื้อริบอายวากิวออสเตรเลียจะมีไขมันแทรกน้อยกว่าเนื้อริบอายวากิวญี่ปุ่นอยู่เล็กน้อย เมื่อนำเนื้อริบอายวากิวออสเตรเลียไปย่างบนเตาถ่านจนสุกกำลังดี แล้วลองทานเนื้อริบอายวากิวออสเตรเลียย่างที่เพิ่งคีบออกจากเตาถ่านร้อนๆ จะได้สัมผัสถึงรสชาติความเข้มข้นของเนื้อวากิวออสเตรเลียที่ค่อยๆละลายอยู่ในปาก
ส่วนเนื้อสันจะถูกหั่นเป็นเนื้อสไลด์แบบชิ้นหนา แต่เมื่อนำเนื้อไปย่างกับเตาถ่าน แล้วรับประทานเข้าไป จะสัมผัสถึงความหนานุ่มของเนื้อ และ รสชาติความเข้มข้นของเนื้อวากิวที่เอ่อล้นออกมา เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสสัมผัสและรสชาติความเข้มข้นของเนื้อออสเตรเลียแบบเพียวๆ
ทางร้านไม่ได้มีแค่เมนูเนื้อวากิว A5 จากญี่ปุ่นและออสเตรเลียเป็นเมนูชูโรงของทางร้านเพียงอย่างเดียว แต่ทางร้านยังมีเมนูชูโรงอีก 1 เมนู นั่นก็คือ ลิ้นว้วญี่ปุ่น นั่นเอง ทางร้านจะเสิร์ฟลิ้นว้วญี่ปุ่นเป็นแบบ เนื้อสไลด์บาง เนื้อสไลด์แบบหนา และ แบบสเต็ก ซึ่งเราสามารถเลือกทานลิ้นว้วญี่ปุ่นตามแบบที่เราชอบได้
ลิ้นวัวญี่ปุ่นแบบสไลด์บาง ลิ้นวัวญี่ปุ่นแบบสไลด์หนา ลิ้นวัวญี่ปุ่นแบบสเต็ก
ถ้าเลือกทาน ลิ้นว้วญี่ปุ่นแบบเนื้อสไลด์บาง แล้วนำไปย่างบนเตาถ่านร้อนๆ ตามระดับความสุกที่เราชอบ และ รับประทาน ลิ้นว้วญี่ปุ่นแบบเนื้อสไลด์บางเข้าไป เราจะสัมผัสถึงความนุ่มลิ้นของลิ้นวัวที่เด้งสู้ฟัน ถ้าบีบน้ำเลมอนลงไปด้วยจะทำให้ลิ้นวัวมีรสชาติอร่อยและสดชื่นมากยิ่งขึ้น
หากต้องการเลือกทานลิ้นว้วญี่ปุ่นแบบเนื้อสไลด์แบบหน้า หรือ สเต็ก ก็ได้รับรสสัมผัสความนุ่มลิ้นของลิ้นวัวที่เด้งสู้ฟันที่เพิ่มมากขึ้น สามารถใช้กรรไกรหั่นเนื้อ มาหั่นชิ้นลิ้นว้วญี่ปุ่นที่ใหญ่เกินไป เพื่อสัมผัสถึงความอร่อยของลิ้นวัวได้แบบพอดีคำ
ถ้าใครอยากลิ้มลองรสชาติของเนื้อแบบเข้มข้นขั้นสุด ทางร้านยังมี Yukhoe เมนูเนื้อวากิวดิบโปะไข่แดงดิบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อวากิวและอยากสัมผัสรสชาติของเนื้อดิบแบบเข้มข้น
ในส่วนเมนูอาหารทะเล ทางร้านจะมี กุ้งแม่น้ำ กุ้งแดง หอยนางรม หอยเชลล์ หอยแลงภู่ หอยเป๋าฮื้อ และ เมนูอาหารทะเลอื่นๆ มาเสิร์ฟให้เลือกทาน แบบไซส์ใหญ่ ใครเป็นคนที่ชอบทานอาหารทะเล หากมาทานอาหารที่ร้านนี้ รับรองว่าไม่ผิดหวัง
แต่ถ้าใครชอบทานเมนูปลาดิบหรือซาซิมิ ทางร้านก็มีเมนูซาซิมิให้เลือกทานอีกเช่นกัน และ ซาซิมิสดมากๆ
กุ้งเทมปุระ ไก่ทอดคาราเกะ
เมนูของทอด หรือ เทมปุระของทางร้านก็มีให้ทาน โดยเฉพาะ กุ้งเทมปุระ ที่ทอดออกมาแบบกรอบนอกนุ่มใน และ ขนาดของเนื้อใหญ่กำลังพอดีคำ เช่นเดียวกับ ไก่ทอดคาราเกะของทางร้านที่ทอดออกมาแบบกรอบนอกนุ่มใน และ ให้จำนวนไก่ทอดเยอะพอสมควร
เมนูของทานเล่นอื่นๆ ทางร้านก็มีให้เลือกทานเช่นกัน เราจึงมีโอกาสทานบางเมนู
เมนูของทานเล่นและเมนูอื่นๆ จะมี ข้าวห่อสาหร่ายไข่ปลาแซลมอนอุนิ เอาใจคนรักทานไข่ปลาแซลมอนและอุนิ
A5 Wagyu Ikura Toast ขนมปังปิ้งเนื้อวากิวที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยซอสแสนอร่อย เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานเมนูขนมปังปิ้งและสัมผัสกับรสชาติของเนื้อวากิวไปพร้อมกัน
แถมทางร้านยังมีเมนู ปลาไหลย่าง นำมาเสิร์ฟให้ทานด้วย ถ้าใครชอบทานปลาไหลย่าง บอกเลยว่าจะรักร้านแห่งนี้มากๆเพราะ ทางร้านเสิร์ฟปลาไหลย่างไซส์ใหญ่มาก
เบียร์ เครื่องดื่ม Cocktail ไวน์แดง
แม้ว่าเมนูอาหารของทางร้านจะเอร็ดอร่อย แต่ระหว่างมื้ออาหารนั้น หากขาดเครื่องดื่มดีๆสักแก้ว คงไม่อาจทำให้เราดื่มด่ำกับบรรยากาศร้านอาหาร และ เพลิดเพลินไปกับมื้ออาหารมื้อนั้นได้ ทางร้านยังมีเครื่องดื่มดีๆให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น เบียร์ Cocktail และ ไวน์แดง สามารถเลือกได้ตามใจชอบ
ถ้าใครอยากจะทานมื้ออาหารดีๆ และ ดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆไปพร้อมกันในคราวเดียว บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่ตอบโจทย์เรื่องการดื่มสังสรรค์ระหว่างคุณกับเพื่อนได้ดีมากๆ
ไอศกรีมรสชาไทย ไอศกรีมรสชาไทย
ถ้าทานอาหารเสร็จแล้ว ทางร้านจะเสิร์ฟ ไอศกรีมชาไทย เป็นเมนูของหวานปิดท้ายอีกด้วย
ทั้งหมดนี้คือ ร้าน GYU EN SIAM YAKINIKU ร้านบุฟเฟต์วากิว A5 สไตล์ญี่ปุ่นเปิดใหม่ ใจกลางพร้อมพงษ์ ที่เสิร์ฟความอร่อยของเนื้อวากิวคุณภาพจากญี่ปุ่น และ ออสเตรเลียให้ทุกคนได้ลิ้มลอง และ เมนูอื่นๆที่อร่อยไม่แพ้กัน เครื่องดื่มดีๆที่ให้คุณได้ดื่มด่ำกับมื้อพิเศษของคุณได้อย่างเพลิดเพลิน แถมตอนนี้ยังมี โปรโมชั่น มา 4 จ่าย 3 ราคาเริ่มต้นเพียง 399 บาท เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดร้านสาขาแรกในประเทศไทย ผ่านโปรโมชั่นและแพ็กเกจสุดพิเศษที่ไม่เหมือนใครจาก Hungry Hub เท่านั้น
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่
- เนื้อวากิว คืออะไร มีกี่ระดับ มาจากเมืองไหน? ข้อมูลที่คนรักเนื้อห้ามพลาด
- Kin Shabu Sukiyaki สุดยอดเนื้อวากิว A5 ที่สายเนื้อไม่ควรพลาด !
- Meisaku Premium Yakiniku บุฟเฟต์ปิ้งย่างยากินิกุพรีเมียม เนื้อวากิว A5 ไม่อั้น!
- วันค็อกเทลโลก ชี้เป้า 10 ร้านค็อกเทล เอาใจสายปาร์ตี้