หลังวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาเราได้ทราบกันดีว่ามีการเปิดประเทศ อาจเคยได้ยิน SHA หรือ SHA+ กันมาบ้างซึ่งแน่นอนว่าอาจจะเป็นอะไรที่ดูไม่คุ้นเคยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ทั้งฝั่งของธุรกิจ หรือ ผู้ที่มาใช้บริการวันนี้ Hungry hub จะมาหาคำตอบกันว่าสัญลักษณ์ทั้งสองอย่างคืออะไร
"SHA" คืออะไร?
Amazing Thailand Safety and Health Administration หรือตัวย่อสั้นๆว่า (SHA) เป็นโครงการที่ร่วมมือระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ) เพื่อสร้างความมั่นใจในด้านสุขอนามัย ของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย
โดยเป็นการนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขผนวกกับมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพของสถานประกอบการ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 รวมไปถึงการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างชาติ
SHA แบ่งออกเป็นกี่ประเภท?
กิจการที่สามารถตรวจประเมินมีทั้งหมด 10 ประเภทด้วยกันได้แก่
- ประเภทภัตตาคาร/ร้านอาหาร
- ประเภทโรงแรม/ที่พัก
- ประเภทสถานที่จัดประชุม ประเภทนันทนาการ
- ประเภทสถานที่ท่องเที่ยว
- ประเภทยานพาหนะ
- ประเภทบริษัทนำเที่ยว
- ประเภทสุขภาพและความงาม
- ประเภทห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า ประเภทกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว
- ประเภทโรงละคร โรงมหรสพและการจัดกิจกรรม
- ประเภทร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ
"SHA+" คืออะไร?
หลังจากที่ผู้ประกอบการ ได้รับมาตรฐาน SHA แล้ว และพนักงานได้รับวัคซีน COVID-19 ครบโดสอย่างน้อย 70% ของพนักงานทั้งหมดในองค์กร จะได้รับสัญลักษณ์ “SHA Plus” หรือ “SHA+“
โดยการได้รับ SHA Plus สถานประกอบการนั้นจะต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน SHA ก่อน หลังจากนั้นให้เตรียมข้อมูลและหลักฐานการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 70% ขึ้นไปของพนักงานในสถานประกอบการของ เพื่อใช้ในการลงทะเบียนรับ SHA Plus ผ่านเว็บไซต์ Thailandsha
แล้วสัญลักษณ์ทั้งสองอย่างแตกต่างกันอย่างไร?
สรุปอย่างง่ายๆ เลยก็คือทั้งสองเครื่องหมายจะมีความแตกต่างกันในด้านมาตรฐานในการควบคุม ดูแลความปลอดภัยในด้านสุขอนามัยของผู้ที่มาใช้บริการ ไม่ว่าจะวิธีการต่างๆ ตั้งแต่ก่อนเข้าร้าน ไปจนถึง ออกจากร้าน อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิในจุดทางเข้า-ออกของร้าน การเว้นระยะหว่างของผู้ที่มาใช้บริการ เป็นต้น
ส่วน SHA+ จะเป็นบริการที่มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยร้านที่ได้นั้น พนักงานจะต้องฉีดวัคซีนมากกว่า 70% เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่มาใช้บริการนั้นเอง
หากร้านที่ต้องการขึ้นทะเบียนจะต้องทำอย่างไร?
ผู้ให้บริการร้านอาหารขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครที่ต้องการให้บริการในร้านได้ จนถึงเวลา 21.00 น. หรือ 3 ทุ่ม จะต้องลงทะเบียนเพื่อการรับรอง ตรวจประเมินความพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA ก่อนจึงจะให้บริการได้
**หมายเหตุ : ร้านที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน SHA สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่ไม่สามารถให้ดื่มในร้านได้
ในการพิจารณาเกณฑ์มาตรฐาน SHA ดำเนินการโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งจะแจ้งผลประเมินภายใน 1 วัน โดย ททท. จะเป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมการออกตราสัญลักษณ์ โดยมีการระบุหมายเลขของตราสัญลักษณ์ SHA ให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อบันทึกเป็นฐานข้อมูลรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ทั้งนี้ ททท. สามารถเพิกถอนตราสัญลักษณ์SHA ได้ในกรณีผู้ประกอบการไม่สามารถรักษามาตรฐานให้เป็นไปตามมาตรฐาน SHA
ผู้ประกอบการจะต้องทำอย่างไรเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ในการใช้บริการ?
- มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิบริเวณทางเข้า-ออก
- ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ
- ให้บริการเฉพาะผู้ที่สวมหน้ากากอนามัยเท่านั้น
- มีระบบระบายอาการที่เพียงพอ
- มีระบบไทยชนะหรือลงทะเบียนเข้าสถานประกอบการ
- มีจุดบริการสำหรับล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์
- เว้นระยะห่างของผู้ใช้บริการ 1-2 เมตร
- มีถังขยะที่ปิดมิดชิด แปละคัดแยกประเภทขยะ
ผู้ใช้บริการจะใช้บริการอย่างไรให้ห่างไกลจาก Covid-19
- ลงทะเบียนก่อนเข้าใช้บริการสถานประกอบการ
- ตรวจอุณหภูมิก่อนเข้าใช้บริการทุกครั้ง
- สวมหน้ากากผ้า หรือ หน้ากากอนามัยเมื่อเข้าใกล้ผู้คนจำนวนมาก
- เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร
- ล้างมือก่อนและหลังการเข้าใช้บริการ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ที่จัดเตรียมไว้
- หลีกเลี่ยงการชำระเงินด้วยเงินสด ให้ใช้วิธีการอื่นแทย อาทิ QR Code โอนเงินผ่านแอพลิเคชั่นธนาคารต่างๆ หรือ พร้อมเพย์ เป็นต้น
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของสถานประกอบการอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไวรัส Covid 19
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้บริการ ดังนั้น SHA และ SHA+ จึงเป็นสัญลักษณ์ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่ใช้บริการ และนอกจากนี้ World Travel & Tourism Council ยังได้ให้การรับรองสถานประกอบการที่ได้รับสัญลักษณ์มาตรฐานนี้ ตามข้อกำหนดของ Safe Travels ดั้งนั้นสถานประกอบการสามารถใช้ควบคู่กันเพื่อประชาสัมพันธ์ได้ด้วยนั้นเอง
ที่มา