โอโทโร่ (Otoro) นับว่าเป็นวัตถุดิบที่หลาย ๆ คน ทั้งชาวไทย และ ญี่ปุ่น ยกให้เป็นเนื้อปลาที่มี เนื้อสัมผัสนุ่ม ละลายลิ้น ไม่ว่าจะรับประทานแบบสด ๆ สไตล์ซาชิมิ หรือข้าวปั่นแบบซูชิ วันนี้ Hungry พา Eat จะพาไปล่องเรือ ไปค้นหาความลับของเนื้อโอโทโร่กัน ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย
ปลาทูน่า หรือ ปลามากูโร่ คืออะไร?
ปลาทูน่า หรือ ปลามากูโร่ เป็นปลาที่มีหลากหลาย สายพันธุ์ โดยได้รับความนิยมเป้นอย่างมากใน เมนูประเภทปลาดิบ เพราะ เนื้อสัมผัสของมากูโร่นั้น มีความใกล้เคียง กับ เนื้อวัว ส่วนรสชาติจะมีความหวาน ชุ่มฉ่ำ สดชื่น โดย Blue fin Tuna จะเป็นพันธุ์ที่มีคุณภาพดี มีราคาที่ค่อนข้างสูง ส่วน ในร้านอาหารไทย มักจะนิยมใช้ Yellow fin Tuna ที่มีราคาวัตถุดิบที่ถูกกว่า
ส่วนต่าง ๆ ของมากูโร่
โดยมากูโร่จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน หลัก ๆ ที่มีคุณภาพและราคาแต่แตกต่างกันออกไป ได้แก่
1. อากามิ (Akami)
ส่วนของ อากามิ จะเป็นส่วนของเนื้อปลาที่มีลักษณะ สีแดงสด ไขมันน้อย หรือ อาจจะไม่มีไขมันอยู่เลย อยู่ในส่วนท้องปลาย ๆ ใกล้แถวหาง สามารถหาได้ง่าย และมีราคาที่ไม่แพง โดยเนื้ออากามิ จะมีรสชาตินุ่มและเนื้อที่แน่น นิยมย่างเพื่อ มาทำเมนูต่าง ๆ เช่น ข้าวหน้าปลาดิบ เป็นต้น นอกจากนี้ ส่วนที่มีลักษณะเนื้อแดง ในปลาชนิดอื่น ๆ นอกจากโอโทโร่ เช่น ปลาซันมะ ปลาโอ ปลาซาบะ ก็นับว่าเป็นอากามิ ได้เช่นเดียวกัน
2. ชูโทโร่ (Chutoro)
ชูโทโร่ หรือ เนื้อปลาส่วนท้องที่อยู่ใกล้กับ บริเวณครีบ และ ท้องส่วนหลัง เนื้อจะมีสีชมพูเข้ม เนื้อจะมีความแน่น นุ่ม รสหวานจาก ไขมันแทรกปานกลาง เหมาะกับการทำเมนูอาหารประเทภ ดิบ และ ย่าง
3. โอโทโร่ (Otoro)
มาถึงพระเอกของเรา โอโทโร่ หรือ ส่วนท้องหน้าของ ปลามากุโร โดยจะมีเนื้อสีชมพูอ่อน และ ไขมันแทรกตัวสวยงาม เป็นลายหินอ่อน รสชาติของเนื้อ มีความนุ่ม จากไขมันในเนื้อปริมาณที่สูง เมื่อรับประทานจะให้ความรู้สึกที่บางเบา ละลายในลิ้น โดยเนื้อโอโทโร่จะเป็นส่วนที่อร่อยที่สุด แต่จะหาพบได้ยากเนื่องจาก เนื้อส่วนนี้มีปริมาณเพียง 20% ในปลา 1 ตัว จึงทำให้เป็นวัตถุดิบที่มีราคาที่สูง นอกจากนี้โอโทโร่มักนิยม นำมาทำเมนู ประเทท ซูชิ ซาชิมิ เป็นต้น
ประโยชน์ของ โอโทโร่ ?
1. มีโปรตีนสูง
ปลาทูน่า หรือ ปลามากุโร่ เป็นปลาที่อยู่ในแหล่งทะเลน้ำลึก ที่เป็นศูนย์รวมแหล่งโปรตีนชั้นยอด ในปริมาณใกล้เคียงกับไข่ หรือเนื้อประเภทอื่น ๆ ซึ่งโปรตีน จะไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ของร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วย บำรุงเส้นผม ผิว และเล็บ ดังนั้น ผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก ดูแลสุขภาพ ก็สามารถทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม
2. มีโอเมก้า
รู้หรือไม่ นอกจากความอร่อยที่นุ่มละมุนแล้ว ยังมีโอเมก้า เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งจะส่วนในการ ซ่อมแซม บำรุงเซลล์ต่าง ๆ และยังพัฒนาระบบสมองให้สามารถพร้อมลุยกิจกรรมใหม่ ๆ ในแต่ล่ะวันได้ แถมยังช่วยสร้างความสมดุล ให้กับหลอดเลือด ลดความเสี่ยงจากอาการไขมันโลหิตสูงได้อีกด้วย
3. มีคลอเรสเตอรอลต่ำ
ถึงแม้ว่า ไขมันของเนื้อโอโทโร่ จะมีในปริมาณที่สูง แต่ไขมันชนิดนี้ เป็นไขมันชั้นดี หรือ High Density Lipoprotein (HDL) เป็นผลดีกับหลอดเลือดแดง และ ช่วยลดการสะสมของไขมันอิ่มตัว ที่เป็นสาเหตุของ อาการ เส้นเลือดอุตตัน และโรคหัวใจ
4. มีไอโอดีน
ไอโอดีนนับว่าเป็น สารอาหารที่จำเป็นอย่างมากต่อร่างกาย เพราะไอโอดีน เป็นสารอาหารที่ไม่สามารถผลิตขึ้นเองในร่างกายได้ สามารถได้รับจากการรับประทานอาหาร เท่านั้น ดังนั้น โอโทโร่ จึงมีประโยชน์กับระบบการทำงานต่อมไทรอยด์ ในการสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน และสำคัญกับการควบคุมการใช้พลังงานภายในร่างกาย การทำงานและเติบโตของเซลล์ทุกชนิด
แนะนำร้านเอาใจคนรัก โอโทโร่
แน่นอนอีกเช่นเคย กับช่วงแนะนำร้าน จาก Hungry พา Eat ที่ได้เลือกร้านสำหรับคนรัก เนื้อโอโทโร่โดยเฉพาะ กับเมนูที่หลากหลาย จะมีร้านอะไรกันบ้างมาดูกันได้เลย
1. คิสโสะ @ เดอะเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท
ร้านบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น ย่านสุขุมวิท ได้รับรางวัลการันตีในความอร่อย “ห้องอาหารญี่ปุ่นยอดเยี่ยม” ด้านคุณภาพอาหารและการบริการ จาก นิตยสารบางกอก เบสต์ ไดนิ่ง แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ โดยมีเมนูอาหารญี่ปุ่นแบบ พร้อมเมนูตามฤดูกาล ต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ข้าวหน้าโอโทโร่สับ โรยด้วยไข่ปลาแซลมอล , ทูน่าเกรดพรีเมี่ยม 6 คำ ที่มีทั้ง อากามิ ชูโทโร่ และ โอโทโร่ ได้ได้ลิ้มลอง เริ่มต้นที่ 1,490 .- / แพ็ค
2. คุรุมะ ซูชิ วันวัน ฟู้ดอเวนิว
ต่อกันที่ร้าน คุรุมะ ซูชิ วันวัน ฟู้ดอเวนิว ใน นนทบุรี ที่มาพร้อมกับ วัตถุดิบพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น เซ็ตข้าวปั้น ชูโทโร่ โอโทโร่ อากามิ ขาปูซูไว หอยเชลล์ , แซลมอน ท้องปลาแซลมอน ฮามาจิ ทูน่า ครีบปลาตาเดียว หอยนางรม กุ้งหวานตัวใหญ่ หอยเชลล์ , โอมากาเสะ และเมนูอื่น ๆ ในแบบฉบับบุฟเฟ่ต์ ที่อิ่มได้ไม่อั้น เริ่มต้นเพียง 990.- / ท่าน เท่านั้น
3. Ronin Japanese Restaurant (Pattaya)
ปิดท้ายกันที่ร้าน ในพัทยา กับร้าน Ronin Japanese Restaurant ที่มีบรรยากาศร้านที่มีความผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็น สวนเซ็น โต๊ะไม้โอ๊ค เสื่อทาทามิ นอกจากนี้เมนูอาหาร ที่ให้ความรู้เหมือนกับรับประทานอาหารอยู่ในโอซาก้า ไม่ว่าจะเป็น เซ็ทนินจา ที่รวมปลาดิบต่าง ๆ เช่น ฮามาจิ แซลม่อน โอโทโร่ เอ็นงาวะ ทามาโกะ และเมนูอื่น ๆ เริ่มต้นเพียง 2,000.- / แพ็ค
แค่เห็นภาพก็มีกลิ่นอาย ความเป็นญี่ปุ่นกันแล้วใช่ไหมเอ๋ย แต่แค่มองยังคงไม่พอ ในโลกของใต้ทะเลยังมีอะไรให้ได้ลิ้มลองอีกเยอะ แต่ถ้าอดใจไม่ไหวแล้ว ลองแวะมาดูที่ Hungry Hub กันได้ ยังมีร้านอร่อย และเมนูอีกหลายรายการให้สำรวจกันด้วยนะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รวม 10 ร้านอาหารญี่ปุ่น บุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม การันตีคุณภาพ รสชาติดีเยี่ยม !
Salmon ส่วนไหน อร่อยสุด? เบสิกแซลมอนที่คอปลาส้มต้องรู้!
ติดตามโปรโมชั่น และร้านที่คนชอบ Eat ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แหล่งรวมบุฟเฟ่ต์อันดับหนึ่งของไทย