ช่วงนี้มีร้านอาหารญี่ปุ่นใหม่ๆ ทะยอยตบเท้าเข้ามาจอย Hungry Hub ก็เริ่มมีความรู้สึกอยากจะพูดถึงอาหารญี่ปุ่นกันสักนิด และเมื่อคิดถึงอาหารญี่ปุ่นก็คงไม่พ้นเมนู ‘ซาชิมิ’ ปลาดิบเนื้อแน่นๆ หั่นเป็นชิ้นหนาๆ แบบเต็มคำ เมื่อกินแล้วให้รสสัมผัสที่นุ่ม ชุ่มฉ่ำ ละลายในปาก พร้อมกลิ่นโชยุผสมวาซาบิอบอวลพุ่งพล่านจนไม่อาจห้ามน้ำตาให้พร่างพรูออกมา ฟินาเล่สุดๆ
ซาชิมิ หรือ ซะชิมิ (刺身) อาหารญี่ปุ่นแบบประณีตที่เป็นที่รู้จักมากว่า 600 ปีนี้ ในตอนแรกเป็นเพียงอาหารของชาวประมงที่นำปลามาแล่เป็นชิ้นบางๆ แล้วกินกันแบบดิบๆ เพียงอย่างเดียว ต่อมาเมื่อโชยุถือกำเนิดขึ้นและมีการนำมากินคู่กับซาชิมิก็เลยกลายเป็นคู่ขวัญกันมานับตั้งแต่นั้น แต่เนื่องจากโชยุในสมัยก่อนถือเป็นวัตถุดิบพรีเมียม ทำให้ซาชิมิอัปเกรดตัวเองกลายเป็นอาหารชั้นสูงสำหรับผู้ที่มีฐานะไปโดยปริยาย จนเมื่อโชยุแพร่หลายมากขึ้นไปสู่ชนชั้นชาวเมืองนั่นแหละ ซาชิมิจึงค่อยๆ กลายเป็นเมนูที่นิยมรับประทานกันโดยทั่วไป ส่วนวาซาบิที่เรากินคู่กับซาชิมินั้น ชาวญี่ปุ่นใช้กันมากนานกว่าพันปีแล้วแต่เพิ่งมากลายเป็นส่วนหนึ่งของการรับประทานกับปลาดิบในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 นี่เอง
จริงๆ แล้วซาชิมิไม่ได้มีจำกัดอยู่แค่อาหารทะเลอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ วัตถุดิบที่นิยมนำมาทำซาชิมิมีมากกว่า 30 ชนิด ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา หรือแม้กระทั่งเนื้อม้า!
แต่ครั้งนี้จะขอพูดถึงเมนูแจ่มๆ ที่ใครหลายคนปลาบปลื้ม และใครที่ยังไม่ลองก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
โอโทโระ (Bluefin Tuna)
เมนูที่ขึ้นชื่อว่าราชันย์แห่งปลาดิบนี้ มาจากท้องส่วนหน้าของปลามากุโระหรือปลาทูน่าเฉพาะที่มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป พบได้แค่ในกระแสน้ำอุ่นใต้ทะเลลึกอย่างมหาสมุทรแปซิฟิกหรือแถบทะเลเมดิเตอเรเนียนเท่านั้น มีเนื้อสีขาวหรือชมพูจากไขมันที่แทรกในทุกอณูจนเป็นลวดลายเหมือนหินอ่อน รสชาติหวานนุ่ม ละมุนละไม และด้วยความอร่อยเลอค่าของมัน ทำให้ค่าเสียหายในการกินโอโทโระแต่ละคำทำเอาเงินในกระเป๋าละลายหายไปพร้อมๆ กับโอโทโระที่ละลายในปากนั่นแหละ ใครที่ชอบซาชิมิแบบเนื้อชุ่มฉ่ำหม่ำแล้วชุ่มชื่นก็ลืมส่วนที่เป็นเนื้อสีแดง (อากามิ) ไปได้เลย แต่ถ้าชอบมันๆ นิดหน่อย ก็ยังมีอีกส่วนที่เรียกว่า ชูโทโระ ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ใกล้กับครีบปลาซึ่งราคาสบายกระเป๋าขึ้นมาอีกหน่อย
อูนิ (ไข่หอยเม่น)
หลายคนเมื่อรู้ที่มาก็อาจจะทำใจกินไม่ลง แต่เมื่อได้ลองอูนิแบบสดๆ ไปแล้ว หลายคนก็เลือกที่จะลืมๆ ไปซะว่ามันคืออวัยวะส่วนไหนของหอยเม่น อูนิ สิ่งล้ำค่าหายากจากท้องทะเล เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในสามอาหารที่เลิศรสที่สุดของชาวญี่ปุ่น มักกินอูนิแบบดิบๆ เป็นซาชิมิ ซูชิ หรืออุนิด้ง (ข้าวราดหน้าหอยเม่น) ด้วยความหวานนุ่มชุ่มลิ้นและหากินได้เฉพาะฤดูของมันเท่านั้นนี่แหละ ทำให้ราคาของมันพุ่งปรี๊ดอีกเช่นกัน
โฮตาเตะ
ส่วนใหญ่แล้วโฮตาเตะที่เราได้กินกันมักจะเป็นแบบแช่แข็งมา แต่ถ้าใครได้ลิ้มเนื้อจากหอยเชลล์ตัวเขื่องแบบสดๆ สีนวลๆ ส่องแสงมลังเมลืองล้อกับแสงไฟแล้วละก็ จะไม่ลืมสัมผัสนุ่มลื่น แน่นหนึบกับรสหวานอันประณีตของมันได้เลย แค่บีบมะนาวเล็กน้อย คีบวาซาบิโปะนิด จิ้มโชยุอีกหน่อย อร่อยฟินไปถึงโลกหน้า โฮตาเตะที่โด่งดังคือโฮตาเตะที่มาจากเกาะฮอกไกโด เป็นอีกหนึ่งเมนูที่คนญี่ปุ่นนิยมทานกันมากๆ อีกเช่นกัน
แซลม่อน
ทั้งๆ ที่เป็นเมนูซาชิมิสุดเบสิกแต่กลับเป็นเมนูโปรดของใครหลายๆ คน จนแทบไม่ต้องการเมนูอื่น แค่เห็นเนื้อสีส้มเปล่งปลั่งกับลายที่พริ้วไหว น้ำลายก็พาลจะไหลคล้ายวิญญาณหมีกริซลี่เข้าสิงยังไงยังงั้น ขอแค่ตัดมาชิ้นใหญ่ๆ เต็มปากเต็มคำ เนื้อสด นุ่ม ชุ่มฉ่ำ ก็ฟินสุดๆ แล้ว แต่ทั้งนี้หากต้องการซื้อแซลม่อนเป็นชิ้นๆ ตามซุปเปอร์มาทำกินเองก็ควรระวัง ไม่อย่างนั้นอาจจะได้พยาธิมาเป็นของแถม ซ้ำร้ายอาหารเป็นพิษต้องโดนหามเข้าโรงพยาบาลอีกต่างหาก ควรสอบถามผู้ขายให้แน่ใจเสียก่อนว่าแซลม่อนที่ซื้อเป็นซาชิมิเกรดหรือไม่ หรือเลือกทานที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เชื่อถือได้เท่านั้น
ชอบซาชิมิแบบไหนมากที่สุด มาแชร์กันได้นะคะ 🙂
อ้างอิง :