วันนี้ Hungry Hub จะพาไป รีวิว Shabu King ร้านอาหารญี่ปุ่นที่นำเสนอชาบูและอาหารญี่ปุ่นในสไตล์อลาคาส จากดาราและนักร้องชืื่อดังของไทย โดยมีทีเด็ดอยู่ที่ King Size! Shabu Set ชาบูไซส์ใหญ่สะใจถึง 18 นิ้ว (45 ซม.) กันเลยทีเดียว เหมาะสำหรับการสังสรรค์เป็นกลุ่มหรือมื้อพิเศษของครอบครัว ด้วยวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมจากทั้งในประเทศและนำเข้า ที่จะทำให้ทุกคำที่ทานเต็มไปด้วยความฟิน! งั้นอย่ารอช้าไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีทีเด็ดอะไรบ้าง
รีวิว Shabu King พระราม 9 สวรรค์ของคนรักชาบูคุณภาพพรีเมียม

สำหรับ Shabu King หรือ ชาบูคิง ตั้งอยู่ใน เป็นสาขาที่สองของร้านอาหารชาบูสไตล์ญี่ปุุ่นที่ก่อตั้งโดยคู่รัก ดาราไทยและศิลปินไทยระดับตำนานอย่างคุณบอย อนุวัฒน์ หรือ (Boy Peacemaker) และ คุณเจี๊ยบ พิจิตตรา สงวนศักดิ์ภักดี โดยสาขาแรกนั้นก็ได้เปิดที่ศาลายา แตวันนี้เราจะพาไปดูสาขาพระราม 9 ซึ่งจะตั้งอยู่ในซอยพระราม 9 ซอย 37 เมื่อลงจากถนนใหญ่ให้ เลี้ยวซ้ายเข้า พระราม 9 ซ.37 ขับตรงเข้าไป ร้านจะอยู่ทางขวามือ สามารถเดินทางมาได้สะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีที่จอดรถกว้างขวางรองรับลูกค้าได้จำนวนมาก




ภายในร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบ คลีน ๆ เน้นโทนสีไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบายตา เสริมด้วยภาพวาดญี่ปุ่นที่ประดับบนผนัง และของตกแต่งแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมี มุมถ่ายรูปสุดชิค ด้านหลังร้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวน Zen รายล้อมด้วย ต้นบอนไซและต้นซากุระ ที่ช่วยเพิ่มความเป็นญี่ปุ่นแท้ ๆ ให้กับบรรยากาศของร้าน และมีโซนต่าง ๆ ให้เลือกนั่งได้ตามต้องการ ทั้ง ห้องอาหารหลัก, โซน VIP 6-10 ห้อง และโซนบาร์ โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 11:00 – 22:00 น.

Shabu King ให้บริการอาหารญี่ปุ่นแบบครบวงจร ตั้งแต่ ชาบู ซูชิ ซาชิมิ และเมนูของทอด โดยมีวัตถุดิบหลักเป็น เนื้อนำเข้าคัดพิเศษ ที่ผ่านการคัดสรรคุณภาพอย่างดี รวมไปถึงซีฟู้ดสด ๆ และเครื่องเคียงที่หลากหลาย จุดเด่นของร้านคือ King Size! Shabu Set สำหรับสายชาบูที่ต้องการสัมผัสความอลังการ นอกจากนี้ยังมี ซาชิมิและซูชิพรีเมียม รวมไปถึงเมนูของทอดที่กรอบอร่อย เมนูแต่ละจานถูกออกแบบมาให้ครอบคลุมทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสายเนื้อ สายซีฟู้ด หรือคนที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นแบบครบเครื่อง

ไฮไลต์ของร้านต้องยกให้ King Size! Shabu Set ที่มาในไซส์ใหญ่จุใจ เหมาะสำหรับการแชร์กับเพื่อนและครอบครัว โดยเมนูยอดนิยมคือ เบคอนหมูคุโรบุตะ (489 บาท) ที่เสิร์ฟพร้อมกระหล่ำปลีซอยในปริมาณจัดเต็ม นอกจากนี้ยังสามารถเลือกทานชาบูแบบจานเดียวหรือเลือกแบบชุดที่มีเนื้อไซส์ใหญ่พิเศษได้อีกด้วย ทางร้านยังมี น้ำซุปให้เลือกหลายแบบ ทั้งน้ำซุปใส ซุปโชยุ หรือซุปสไปซี่ที่เข้มข้น จึงสามารถเลือกให้เข้ากับเนื้อหรือซีฟู้ดที่ต้องการได้อย่างลงตัว

ใครที่เป็นสายเนื้อต้องลอง Japanese Wagyu A4 Sirloin เนื้อวากิวญี่ปุ่นระดับ A4 ที่คัดสรรมาอย่างดี เนื้อนุ่มละลายในปาก ให้รสชาติหอมหวานและเต็มไปด้วยความพรีเมียมสุดฟิน นอกจากนี้ยังมี เนื้อออสเตรเลียนวากิว และเนื้ออเมริกันพรีเมียม ที่ให้รสสัมผัสและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ไม่ว่าจะลวกในน้ำซุปหรือนำไปจิ้มกับซอสสูตรพิเศษของทางร้านก็อร่อยไม่แพ้กัน

สำหรับคนรักอาหารทะเล 5 Kinds Sashimi เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด รวมซาชิมิสดใหม่ 5 ชนิด ได้แก่ มากุโร่ (Maguro), หอยปีกนก (Hokigai), ปลาหมึกยักษ์ (Tako), ฮามาจิ (Hamachi) และปลาสดอื่น ๆ ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี เสิร์ฟบนจานน้ำแข็งที่ช่วยคงความสดใหม่ของวัตถุดิบได้อย่างยอดเยี่ยม

ที่นี่มีเมนูซูชิและมากิให้เลือกมากกว่า 50 เมนู ไม่ว่าจะเป็น ซูชิปลาแซลมอนเผา, ซูชิวากิว และเมนูพิเศษอย่าง Spicy Salmon Crunchy Sandwich ที่นำมากิไปชุบกับเกร็ดขนมปังและเทมปุระจนได้สัมผัสกรุบกรอบสุดพิเศษ นอกจากนี้ยังมี ซูชิหน้าไข่ปลาแซลมอน, อูนางิ และซูชิโฟร์ชีส ที่เอาใจคนรักชีสโดยเฉพาะ


หากคุณเป็นสายเฮลตี้ ต้องลอง Spicy Sauce Salmon Salad สลัดปลาแซลมอนราดซอสสไปซี่ที่ให้รสชาติจัดจ้าน แต่ยังคงความสดชื่นและดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังมี สลัดเต้าหู้ญี่ปุ่น และสลัดอโวคาโด ที่อุดมไปด้วยสารอาหารดี ๆ สำหรับคนรักสุขภาพ

สำหรับคนที่ชอบของทอด Cheese Tonkatsu เป็นเมนูที่ต้องลอง หมูสันนอกพันชีสทอดจนกรอบ หอมเยิ้มในทุกคำ และ Ebi Tempura หรือกุ้งเทมปุระที่นำไปชุบแป้งบาง ๆ ทอดจนได้สัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ยังมี ปลาหิมะเทมปุระ และ ไก่คาราอาเกะสูตรพิเศษ ที่เพิ่มตัวเลือกให้กับคนที่ชอบของทอดอีกด้วย
และนี้ก็คือ รีวิว Shabu King พระราม 9 ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีครบทั้งชาบู, ซูชิ, ซาชิมิ และของทอดคุณภาพเยี่ยม โดดเด่นด้วย King Size! Shabu Set ขนาดใหญ่ และวัตถุดิบระดับพรีเมียมที่คัดสรรมาอย่างดี นอกจากนี้ร้านยังมีบรรยากาศที่อบอุ่น ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมมุมถ่ายรูปสวย ๆ ที่ไม่ควรพลาด หากคุณเป็นคนรักอาหารญี่ปุ่นและกำลังมองหาสถานที่ดี ๆ สำหรับมื้อพิเศษ Shabu King คือร้านที่คุณต้องมาลอง! พร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษที่สามารถจองได้ที่ Hungry Hub เท่านั้น
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่