ใครไปพัทยา บางคนก็อยากจะหาคาเฟ่สวยๆไปถ่ายรูป วันนี้ขอพาไปดูคาเฟ่สุดคิวท์อย่าง Great&Grand Sweet Destination หนึ่งในคาเฟ่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพัทยา ที่จะพาทุกคนไปตะลุยดินแดนของหวานในจินตนาการ ที่เรียกได้เลยว่าหากใครอยากได้รูปสวยๆ กลับไปอวดในโซเชียลมีเดีย ได้รูปกลับไปจุใจแน่นอน และที่สำคัญของหวานที่นี้ก็โดนใจมากๆ เอาละอย่ารอช้าไปติดตามพร้อมกันได้เลยจ้า
Great & Grand Sweet Destination เป็นคาเฟ่ที่มี่ขนาดกว่า 36 ไร่ อยู่ในถนนสาย 36 เส้นแยกกระทิงลาย (พัทยา-ระยอง) ใกล้กับเมืองน้ำแข็งและฟาร์มแกะพัทยา ซึ่งถ้าเกิดขับรถส่วนตัวมาสามารถสังเกตุได้จากอาคารทางเข้าสีเหลือง พร้อมกับไอศกรีมยักษ์ด้านบนที่ดูสะดุดตา โดยในส่วนของทางเข้าจะมีร้านของหวาน 2 ร้านด้วยกันในฝั่งซ้ายจะเป็นร้านไอศกรีม และฝั่งขวาจะเป็นร้านมิลค์บาร์ โดยในแต่ละร้านก็จะสามารถมองวิวของด้านในได้อย่างชัดเจน
ในส่วนของมิลค์บาร์ หรือ ไอศกรีมก็จะมีป้ายเขียนหน้าร้านไว้อย่างชัดเจน พร้อมกับจุดเด่นของร้านที่เลือกใช้โทนสีเหลืองสีสันโดนใจ นอกจากนี้กรอบประตู หน้าต่างยังเลือกใช้โทนสีชมพูที่ให้ความรู้สึกเข้ากับบรรยากาศได้เป็นอย่างดี เรียกไได้เลยว่าแค่ทางเข้าก็มีมุมให้ได้ถ่ายรูปแล้วหนึ่งจุด ลืมบอกไปอย่างหนึ่งถ้าใครที่ไม่ได้มาถ่ายรูป ก็สามารถเข้าคาเฟ่ได้เลยโดยที่ไม่ต้องซื้อตั๋วนะ
เริ่มกันด้วยโซนของหวาน โซนแรกที่เราจะไปกันคือโซนไอศกรีมด้านซ้าย ซึ่งตกแต่งด้านในด้วยโทนสีเหลือง พร้อมกับโคมไฟไอศกรีมน่ารักๆประดับประดาไว้รอบๆ โดยวันบางช่วงก็จะมีแขกนักท่องเที่ยวมาสั่งไอศกรีมรับประทานกัน ถือว่าเป็นสีสันของคาเฟ่อย่างนึงเลย
ซึ่งในส่วนของไอศกรีมที่นี่ก็จะมีให้เลือกกว่า 36 รสชาติเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ Raspberry Yogurt, Cherry Crush, Rose Pink Pony Milk, Double M, Matcha, Toffee หรือ Caramel Ribbon เป็นต้นนอกจากนี้ยังสามารถเลือกโคนตามที่ต้องการได้อีกด้วยนะ ทั้งโคนปกติ โคน 2 ชั้น (Double) โคนสามชั้น (Triple) หรือโคนเคลือบน้ำตาลสีๆ เพื่มความฟินเข้าไปอีก
แต่วันที่เราไปเราเลือกเป็นโคนชั้นเดียว แต่เคลือบด้วยเกล็ดช็อกโกแล็ต เพราะตัวเองเป็นคนชอบช็อกโลแล็ตอยู่แล้ว ส่วนเนื้อไอศกรีมเราเลือกเป็น Raspberry Yogurt รสนี้ก็จะมีความหวาน เปรี้ยว ของราสเบอรี่และความนุ่มของโยเกิร์ต เหมาะกับการทานในอากาศร้อนสุดๆ ส่วนเวลาทานจะทานแบบปกติก็ได้ หรือ ทานโดยโช้ช้อนที่เขาให้มาก็ได้เช่นเดียวกัน แต่แนะนำว่าไอศกรีมถ้าเกิดอากาศร้อนมากๆ ไอศกรีมจะละลายไวให้รีบทานจะดีที่สุด ไม่งั้นของอร่อยไม่เหลือแน่นอน
หลังจากสั่งแล้วได้ไอศกรีมมาแล้ว ก็สามารถมานั่งที่โต๊ะก่อนได้เลย โต๊ะนั่งของฝั่งนี้ก็จะให้อารมณ์แบบที่นั่งชิงช้า ตามสไตล์แบบโซนของเล่น สามารถมานั่งเม้าส์มอยกับเพื่อนๆก่อนไปลุยถ่ายรูปกันได้
ส่วนใครอยากกินน้ำหวานแสนอร่อยก็มีโซนมิลค์บาร์ โซนนี้จะตกแต่งในโทนสีชมพูพาสเทล ให้ความรู้สึกนุ่มละมุน ทั้งแต่ผนังยันไปถึงที่นั่งที่ก็ใช้สีโทนนี้เช่นเดียวกัน ส่วนที่นั่งก็มีหลากหลายแบบ แต่ที่นั่งบางจุดก็ได้มีการใช้ถังนมมาพ่นสีใหม่ให้ดูเก๋มากยิ่งขึ้น แถมยังสามารถนั่งได้ด้วยนะ นอกจากนี้โซนมิลค์บาร์จะเน้นเสิร์ฟเมนูเครื่องดื่มต่างๆ รวมไปถึงเค้กที่มีให้เลือกหลากหลายเมนูด้วยกัน
อีกจุดหนึ่งในโซนทางเข้าที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั้นก็คือโซน Take The Photo หรือโซนตู้ถ่ายรูป บอกได้เลยว่าโซนนี้เอาใจชาว Y2K แบบสุดๆ เพราะว่าจุดนี้เราสามารถเข้าไปถ่ายรูปซึ่งรูปหนึ่งราคาเพียงแค่ 100 บาทเท่านั้น แต่สามารถโพสท่าได้ 3 ช่อง และได้รูปถ่ายมาถึง 2 ใบ ถือว่าคุ้มสุดๆ ใครอยากได้รูปแบบ Y2K เป็นที่ระลึกจุดนี้ไม่ควรพลาดเลย
เติมพลังด้วยของหวานกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาไปหามุมถ่ายรูปสวยๆกันเลย คือต้องบอกก่อนเลยว่าแค่เข้าไปจุดแรกก็ร้องว้าวแล้ว เพราะนานๆทีเราจะเจอคาเฟ่ที่มีมุมถ่ายรูปอลังการงานสร้างขนาดนี้ โดยจุดแรกที่เราไปเจอก็คือต้นไม้ไอศกรีมยักษ์!! ที่รายล้อมไปด้วยไอสกรีมและลูกกวาดรสชาติต่างๆ สีสันสดใส และประดับไปด้วยบันไดขนมปังที่ชวนให้หิวแบบสุดๆ
หากเราเดินขึ้นไปใกล้ๆกับต้นไม้ไอศกรีมยักษ์ก็จะพบกับสไลเดอร์สีเหลือง อันนี้บอกเลยว่าเด็กๆน่าจะชิ้นชอบอย่างแน่นอน แม้กระทั่งเราเองก็ยังแวะไปเล่นกับเขาเลย 5555 สไลเดอร์ของทีนี่ถือว่าไม่เร็วจนเกินไป เด็กตัวโตๆสามารถเล่นได้อย่างสบายใจ แต่ถ้าเกิดไปน้องตัวเล็กๆก็ต้องอาจจะมีผู้ปกครองคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายนั้นเองครับ
ถัดมาจากโซนต้นไม้ไอศกรีมยักษ์ ก็มาเจอกับโซนวิปครีม 3 สี ที่ตกแต่งไปด้วยเกล็ดน้ำตาลน่ารักๆ รวมไปถึงโทส และของหวานสีพาสเทล โซนนี้เราสามารถขึ้นบันไดที่อยู่ข้างหลังของครีมไปถ่ายรูปได้ อารมณ์เหมือนกับว่าเรากำลัง ยืนอยู่บนวิปครีมนุ่มๆกันเลยทีเดียว
ส่วนโซนนี้มองผ่านให้ความรู้สึกเหมือนเสาหิน สโตนเฮนจ์ (Stonehenge) ในเกาะอังกฤษ แต่ของที่ Great&Grand Sweet Destination ดูเหมือนจะเป็น Sweethenge ซะมากกว่าเพราะเปลี่ยนจากหินให้กลายเป็นเค้กหน้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าสตอเบอรี่ ช็อกโกแล็ต วานิลา แถมบางเสายังมีการใส่ท็อปปิ้งอย่างเชอรรี่ หรือ ช็อกโกแล็ตรูปหัวใจเข้าไปอีก ดูน่ากินไม่ใช่ย่อยเลยทีเดียว
ในโซนตรงกลางจะมีโคนไอศกรีมขนาดใหญ่ ในจุดนี้เราสามารถขึ้นบันไดไปชั้น 2 เพื่อถ่ายรูปมุมสูงได้ ส่วนข้างล่างใกล้ๆกันนั้นก็จะมีลานน้ำพุไอศกรีมและเค้ก รวมไปถึงบ้านขนมหวานที่สามารถแวะไปถ่ายรูปกันได้
ใครอยากเป็นราชาขนมหวานต้องแวะมาถ่ายรูปที่จุดนี้เลย ตรงนี้เราจะเรียกว่าบัลลังก์ของหวาน ที่เกิดมาจากของหวานหลากชนิดทั้งโดนัท แพนเค้กราดช็อกโกแล็ต มาการอง คัพเค้ก มาชเมลโล่ ลูกกวาดและไอศกรีมเล็กๆด้านบน ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ในโลกของขนมหวาน แต่แนะนำว่าถ้าอยากจะมาถ่ายในจุดนี้ ให้ถ่ายช่วงที่แดดไม้ร้อน เพราะว่าจะได้นั่งสบายๆ ก้นจะได้ไม่ร้อน
โซนนี้ก็คือดีงามเป็นโซนที่เราค่อนข้างชอบมากที่สุด เพราะว่ามันน่ารักมากกกก มีทั้งน้องขนมผิงตัวน้อยๆ เค้กชิ้นเล็กที่เรียงรายกันเต็มไปหมด และน้ำตกที่ไหลออกมาคล้ายกับน้ำสตอเบอรี่ จุดนี้สามารถหามุมถ่ายรูปได้หลากหลายมากๆ แต่แนะนำว่าหากใครคิดที่จะไปปีนถ่ายตรงกลางน้ำพุ ต้องระมัดระวังลื่นกันหน่อยนะครับ ไม่งั้นอาจจะตกน้ำตัวเปียกกลับบ้านกันได้
เดินย้อนกลับมาอีกนิดนึงจะเจอกับบ้านขนมเค้ก 7 เลเยอร์ ที่ราดด้วยซอสบลูเบอรี่ พร้อมกับท้อปปิ้งเบอรี่ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสตอเบอรี่ บลูเบอรี่ หรือ อัลมอนด์ สามารถถ่ายรูปได้ทั้งด้านนอกและด้านใน นอกจากนี้ข้างๆกันก็ยังมีลูกกวาดยักษ์ที่ตั้งเรียงกัน 5 สี ดูไปดูมาก็น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย
ส่วนโซนนี้เอาใจน้องๆหนูๆ ที่เหมือนกับจำลองบ้านของเล่นธรรมดาๆ ให้กลายเป็นบ้านของเล่นแห่งเมืองของหวาน ที่ประดับไปด้วยไอศกรีม โดนัท ลูกกวาด และมีสไลเดอร์เล็กๆ ที่ให้เด็กๆสามารถเข้าไปเล่นได้ จริงๆแล้วไม่ได้มีเพียงเด็กๆเท่านั้นนะที่สามารถไปเล่นได้ ผู้ใหญ่ก็สาารถเข้าไปเล่นแล้วก็ถ่ายรูปได้ด้วยเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ก็ยังมีบ้านขนมหวาน ที่อยู่ในจุดต่างๆของโซนถ่ายภาพ มีทั้งบ้านขนาดเล็ก บ้านขนาดใหญ่ โดยในแต่ละจุดนั้นก็จะรายล้อมไปด้วยขนมหวานและน้องขนมผิงที่ออกมาต้อนรับเราอย่างดี
หลังจากถ่ายรูปเสร็จแล้ว ใครที่อยากได้ของที่ระลึกกลับบ้านในโซนทางเข้าที่เราเข้ามาก็จะมี จุดขายของที่ระลึกด้วยนะ ซึ่งก็มีของที่ระลึกสำหรับผู้ใหญ่และสำหรับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสำหรับเด็ก เสื้อสำหรับผู้ใหญ่ หมวกแก้ป หรือ ร่มสวยๆเอาไว้กางกันแดด
นอกจากของที่ระลึกที่เป็นเสื้อผ้า หรือ ร่มแล้ว ที่ Great&Grand Sweet Destination ยังมีบริการถ่ายรูปพร้อมกรอบสีชมพูพาสเทล เริ่มต้นที่ 150 บาท คือต้องบอกว่าจะมีช่างภาพเข้าถ่ายรูปให้เรา ไม่ต้องกลัวเลยว่ารูปจะไม่สวย เพราะเขาจะช่วยแนะนำท่าโพส และมุมให้กับเรา พอได้รูปที่ถูกใจแล้วเขาก็จะเอารูปไปใส่กรอบ ซึ่งใช้เวลาในการทำไม่นานประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเอง ก็จะได้รูปพร้อมกรอบไปเก็บเป็นที่ระลึกสวยๆกันแล้ว
คาเฟ่จะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ โดยวันธรรมดาจะเปิดตั้งแต่ 8 โมงครึ่งไปจนถึง 6 โมงเย็น และในวันหยุดสุดสัปดาห์รวมไปถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเปิดตั้งแต่ 8 โมงครึ่งไปจนถึง 1 ทุ่ม ค่าเข้าไปชมส่วนของโซนถ่ายรูปถือว่าไม่แพงเลย
- เด็กเล็กที่ส่วนสูงต่ำกว่า 100 ซม. เข้าฟรี
- เด็กที่ส่วนสูง 101 – 135 ซม. ทุกวันราคาเพียง 66 บาท
- ส่วนผู้ใหญ่ในวันธรรมดาเพียง 99 บาท และ เสาร์-อาทิตย์ เพียง 120 บาท
- สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปถ่ายรูปด้วยได้
แต่ว่าเราแอบบอกนิดนึงว่าที่ Great&Grand Sweet Destination เขาก็มีโปรเด็ดๆใน Hungry Hub ด้วยนะเออ เพราะว่านอกจากจะได้บัตรเข้าชมแล้ว ยังสามารถเลือกระหว่างไอศกรีมแซนวิชเลือกรสชาติได้ตามใจ อันนี้จ่ายรวมแค่ 253 บาท แล้วก็ยังมีแพ็กเกจสำหรับไปกัน 2 คน ที่จะมีทั้งบัตรเข้าชมโซนถ่ายรูป และเครื่องดื่มจากโซนมิลค์บาร์ 2 แก้ว เลือกรสชาติได้ตามใจ เพียง 462 บาทเท่านั้นเอง! ถือว่าคุ้มสุดๆไปเลยละ
เป็นยังไงกันบ้างกับการพาไป รีวิว Great&Grand Sweet Destination บอกเลยว่าที่นี่เป็นดั่งคาเฟ่ที่เอาใจคนรักขนมหวาน และชื่นชอบการถ่ายรูปอย่างแท้จริงเพราะมีโซนให้ถ่ายรูปมากมาย แถมของหวานก็ยังอร่อยเหมาะกับการชวนเพื่อน คนรู้ใจ หรือ ครอบครัว ไปเที่ยวในช่วงวันหยุด หรือ ช่วงหน้าร้อนสุดๆ ถ้าเกิดใครที่อ่านจบแล้ว อย่าลืมแชร์บอกต่อให้กับเพื่อนๆกันด้วยนะ
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่