ถ้าพูด Art Toys ก็ยังคงกระแสมาแรงไม่หยุดแบบฉุดไม่อยู่กันจริงๆ สิ่งในวันที่เราก็จะขอพาทุกคนไป Frame Cafe & Restaurant ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านอาหารแนวฟิวชั่นไทย-ตะวันตก ที่ให้ความรู้สึกแบบมิวเชียม สไตล์ Art Gallery ที่เต็มไปด้วยคอลเลคชั่น Art Toys จากทั่วโลกที่หาดูได้ยาก งั้นอย่ารอช้าตาม Hungry Hub ไปดูพร้อมกันได้เลย
มาทำความรู้จักกับ Frame Cafe & Restaurant
สำหรับ Frame Cafe & Restaurant เป็นร้านอาหารแนวฟิวชั่นไทยและตะวันตก ที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรม Frame Hotel ซึ่งเป็นโรงแรม 4 ดาวที่อยู่ถนนงามวงศ์วาน 47 โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 10 โมงเช้าไปจนถึง 4 ทุ่มตรง ซึ่งถ้าหากใครอยากจะเดินทางมารับประทานอาหารที่ร้าน สามารถขับรถส่วนตัวมาจอดภายในโรงแรม หรือ นั่งรถไฟฟ้าเส้นสีเขียวมาลงที่สถานีเสนานิคม แล้วเรียกรถให้เข้าไปส่งที่หน้าร้านก็ได้เช่นเดียวกัน
เมื่อเข้ามาภายในร้านก็จะพบกับบรรยากาศที่ตกแต่งไปด้วยความลักชูรี่ ของเฟอร์นิเจอร์ที่นั่งแบบไม้ที่เน้นไปทางโทนสีดำเข้ากับโทนสีทองที่ให้ความรู้สึกเรียบหรูแต่ว่ายังแฝงไปด้วยความอบอุ่น และรอบๆร้านนั้นก็จะมีการประดับประดาไปด้วยของตกแต่งมากมายไม่ว่าจะเป็นภาพวาดแขวนบนผนัง หุ่นโมเดล ของเล่น ของสะสม หรือ Bearbrick จากคอลเล็กชั่นต่างๆ ซึ่งของสะสมเหล่านี้ก็เป็นของสะสมของเจ้าของร้านที่ต้องการจะสร้างบรรยากาศให้การมาทานอาหารที่ร้านเป็นดั่งเหมือนกับการมานั่งชม Art Gallery โดยที่ไม่ต้องไปไหนไกล
นอกจากของสะสมที่จะมีให้ชมภายในร้านแล้ว หากเดินมาดูโซนทางเข้าภายในโรงแรม หรือ แม้กระทั่งบริเวณห้องน้ำ ก็จะพบกับของสะสมอีกมากมาย ที่ก็ต้องบอกเลยว่าของแต่ละชิ้นที่นำมาแสดงนั้นก็ล้วนเป็นของสะสมจากศิลปินและเจ้าพ่อป็อปอาร์ตชื่อดังทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ฮาจิเมะ โซรายามะ ผู้ที่เคยรังสรรค์ผลงานอย่าง “Sony AIBO” หุ่นยนต์สุนัขแสนรู้, คอวส์ (Kaws) หรือ เจ้าพ่อสตรีทแฟชั่นและอาร์ตทอย, โยชิโตโม นาระ, Andy Warhol, Todd james, Javier Calleja, หรือ Ron English เป็นต้น
นอกจากจะมีโมเดลสไตล์ Art Toys แล้ว ก็ยังมีโซนลับๆ ที่จะมีแสดงรถโมเดลคันโปรดของเจ้าของร้าน ซึ่งส่วนมากนั้นก็จะเป็นคอลเล็กชั่นรถ “ม้าลำพอง” หรือ เฟอรรารี่ รถซุปเปอร์คาร์สุดหรูในรูปแบบของสเกล 1:18 ที่ก็มีให้ดูตั้งแต่ Ferrari 488GTB, Ferrari 488 Spider, Ferrari 488 Spider และรุ่นอื่นๆ ที่มีให้ดูเกือบๆ 40 รุ่นกันเลยทีเดียว
โดยสำหรับในส่วนของเมนูอาหารนั้น จะมาในรูปแบบของอาหารแนวฟิวชั่นอาหารไทย และ อาหารตะวันตก ที่มีให้เลือกกว่า 70 รายการ ซึ่งจะเน้นในด้านของคุณภาพ รสชาติที่ถูกใจคนไทย และที่สำคัญในทุกๆจานที่รังสรรค์ออกมานั้นทางร้านจะเป็นสูตรลับเฉพาะ ที่ไม่มีการใช้ผงชูรส หรือ ผงปรุงรสเลยแม้แต่น้อย
เริ่มกันด้วยอาหารไทยอันเลื่องชื่ออย่าง ต้มข่าไก่ย่าง (Roasted Chicken in Coconut Soup) เมนูเด็ดประจำร้าน ซึ่งเมนูนี้ก็เคยได้ไปออกในรายการ ครัวคุณต๋อย โดยทางเจ้าของร้านได้เคยบอกไว้ในรายการว่าเมนูนี้เกิดจากความบังเอิญที่ในระหว่างกินต้มข่าแล้วในมื้อนั้นทานไก่ย่างไปด้วย แต่ด้วยความที่ไก่ย่างดันตกลงไปในต้มข่าเจ้าของร้านจึงได้นำทั้งสองอย่างมาทานด้วยกัน จึงกลายเป็นเมนู ต้มข่าไก่ย่าง ขึ้นมา ซึ่งในส่วนของไก่นั้นก็ได้เลือกใช้ในส่วนสะโพกที่นำโรยเกลือและพริกไทย แล้วนำไปย่างให้หนังมีความกรอบ แต่เนื้อข้างในยังนุ่ม ส่วนของต้มข่าก็จัดหนักด้วยเครื่องแกง กะทิ ผักโรย และน้ำมันพริกเผา เมื่อนำมาเสิร์ฟด้วยกันก็จะได้เป็นเมนูแกงที่เหมาะกับการคู่กับข้าวสวยร้อนๆ สักจานกำลังดี
เมนูที่ยอดฮิตที่เหมาะสำหรับการสั่งมาทานแบบครอบครัว ก็ต้องขอแนะนำ ปลากระพงทอดน้ำปลา Fried Sea Bass with Fish Sauce ที่ให้ปลากระพงทอดมาชิ้นใหญ่พอสมควร ซึ่งก็จะมีความกรอบนอก นุ่มในของเนื้อปลา แต่ถ้าเกิดราดซอสน้ำปลาและชุดยำลงไปด้วย ก็จะยิ่งเพิ่มรสชาติเปรี้ยว เผ็ดที่มากยิ่งขึ้น
ไปกันต่อกับ เบอร์เกอร์ปูนิ่ม Soft Shell Crab Burger เบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่เต็มคำ ชิ้นขนมปังจะมีความนุ่ม พร้อมกับผักสดๆ ที่ล้างสดสะอาด ตามมาด้วยพระเอกของเราอย่างปูนิ่มที่ทั้งกรอบนอกและนุ่มใน และปิดท้ายด้วยซีสและซอสสุดพิเศษของทางร้าน ที่เลือกนำซอสพริกมาผสมกับมายองเนสจึงได้เป็นซอสที่มีทั้งความเผ็ดและความหวานกำลังพอดี
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแซลมอนจากท้องทะเล มาเจอกับสปาเกตตี้จากอิตาลี่ และซอสโหระพาแบบไทยๆ เมื่อทั้งสามอย่างมารวมกันจึงกลายเป็นเมนูอย่าง สปาเกตตี้ซอสโหระพาแซลมอน Pesto Salmon Spaghetti ที่เสิร์ฟพร้อมกับปลาแซลมอนชิ้นใหญ่เต็มคำ เส้นสปาเก็ตตี้ที่เหนียวนุ่ม และปิดท้ายด้วยซอสโหระพาที่เป็นซอสสุดพิเศษ หากคุณเป็นคนนึงที่ชอบสปาเก็ตตี้ เมนูนี้จดลิสท์ไว้เป็นเมนูหลักๆ ที่ต้องลองเลย
และนี้ก็คือ Frame Cafe & Restaurant ร้านอาหารฟิวชั่นไทย-ตะวันตก ที่นอกจากจะมีเมนูอาหารที่ให้ได้ทานแบบจุใจ ยังมีคอลเล็กชั่น Art Toys สวยๆให้ได้ไปเดินชมราวกับอยู่ใน Art Gallery พร้อมกับโซน Kids Zone ที่จะมีเครื่องเล่นให้น้องๆ หนูแวะไปเล่นระหว่างรับประทานอาหาร ส่วนใครที่อยากจะไปสัมผัสกับประสบการณ์แบบนี้ ก็สามารถจองได้ผ่าน Hungry Hub เริ่มต้นเพียงคนละ 350 บาท เท่านั้น
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่