หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Fine Dining กับ Chef’s Table ผ่านหูมาบ้างแล้ว เชื่อว่าคงมีคนที่สงสัยว่า 2 คำนี้มันเหมือนกันไหม ต่างกันอย่างไร วันนี้ Hungry Hub จะพาทุกคนไปไขข้อข้องใจ ว่าสองคำนี้มีจุดที่เหมือนหรือต่างกันตรงไหนบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย!
มารู้จัก Fine Dining กับ Chef’s Table เหมือนกันไหม ต่างกันอย่างไร
ก่อนจะไปดูความเหมือนและความแตกต่าง เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสองคำนี้กันก่อน ว่าสองคำนี้คืออะไร หมายถึงอะไร แบบไหนถึงจะเรียกว่า Fine Dining แล้วแบบไหนถึงเรียกว่า Chef’s Table
Fine Dining คืออะไร?
Fine Dining คือ การรับประทานอาหารที่เป็นเลิศในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดี การปรุงอาหารอย่างพิถีพิถันและสร้างสรรค์ให้ทุกเมนูออกมาอร่อย เข้ากัน การตกแต่งจานให้สวยงามด้วยความประณีต ไปจนถึงการเลือกข้าวของเครื่องใช้บนโต๊ะ บรรยากาศที่ดี และการบริการที่น่าประทับใจ
Fine Dining ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ชัดเจนว่าจะต้องเสิร์ฟเป็นคอร์สหรือทีละจาน ไม่ได้กำหนดสัญชาติอาหาร สามารถเป็นอาหารสัญชาติใด หรือเสิร์ฟแบบใดก็ได้ ขอแค่เลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมคุณภาพดี ซึ่งจะเป็นวัตถุดิบราคาแพงอย่างพวกตับห่าน คาร์เวียร์ หรือเป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อของแต่ละท้องถิ่นก็ได้ เพื่อให้ตรงคอนเซ็ปต์คำว่า Fine ที่หมายถึง เลิศ ดีงาม มีความวิจิตร ประณีต พิถีพิถัน และด้วยคอนเซ็ปต์นี้ ร้านอาหาร Fine Dining จึงมีความหรูหรากว่าร้านทั่วไป
Chef’s Table คืออะไร?
Chef’s Table แปลตรงตัวได้ว่า โต๊ะของเชฟ หรือถ้าให้พูดง่าย ๆ Chef’s Table ก็คือการเสิร์ฟอาหารแบบตามใจเชฟที่เราสามารถกำหนดราคาหรือของที่ชอบกิน เพื่อให้เชฟออกแบบคอร์สให้เข้ากับเรา อาหารสามารถเป็นได้หลายสไตล์ อาจจะหรูหราหรือเรียบง่ายก็ได้ แต่จะเน้นการเลือกวัตถุดิบดี ๆ มาทำอาหาร
ความพิเศษของ Chef’s Table คือได้มีส่วนร่วมตอนเชฟทำอาหาร เพราะเป็นครัวเปิดที่เราสามารถเห็นขั้นตอนการปรุงของเชฟ และยังสามารถพูดคุยหรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับอาหารได้ด้วย ที่สำคัญเราจะได้ลิ้มรสเมนูสุดพิเศษที่มีทั้งความชอบของเราและสไตล์ของเชฟอยู่ด้วยกัน
สิ่งที่เหมือนกัน
สิ่งที่เหมือนกัน คือ การเน้นวัตถุดิบคุณภาพ และความพิถีพิถันในการทำอาหารของเชฟ ซึ่ง Chef’s Table บางร้านก็อาจจะเป็นอาหาร Fine Dining ขึ้นอยู่กับคอนเซ็ปต์ของร้านว่าจะเป็น Fine Dining หรูหรา หรือ Home Cook ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน หรืออาจจะเป็นคอนเซ็ปต์อื่นนอกเหนือจากนี้ก็ได้
สิ่งที่ต่างกัน
บรรยากาศของร้าน
- Fine Dining – มีความหรูหรา อลังการ น่าประทับใจ
- Chef’s Table – มีความเป็นกันเองมากกว่า บรรยากาศสบาย ๆ อบอุ่น แต่บางร้านก็อาจจะมีความหรูหราด้วย ขึ้นอยู่กับคอนเซ็ปต์ของร้าน
ที่นั่ง
- Fine Dining – ที่นั่งหรูหรา นั่งสบาย มีที่นั่งรองรับลูกค้ามากกว่า
- Chef’s Table – ส่วนใหญ่มีอยู่โต๊ะเดียว และมักจะเป็นโต๊ะใกล้ครัว หรืออยู่ในครัว ตามคอนเซ็ปต์โต๊ะของเชฟ ทำให้ลูกค้าที่เข้ามารับประทานรู้สึกพิเศษ ได้เห็นภาพบรรยากาศในครัว และได้ใกล้ชิดเชฟขณะทำอาหาร
ลักษณะการสั่ง
- Fine Dining – กำหนดเมนูหรือคอร์สอาหารไว้ชัดเจน สามารถสั่งตามรายการเมนูที่มีได้เลย
- Chef’s Table – เชฟจะทำอาหารตามใจเชฟ แต่เราสามารถบอกว่าเราชอบกินอะไร ไม่ชอบกินอะไร หรือกำหนดราคาที่ต้องการไว้คร่าว ๆ เพื่อให้เชฟไปคิดเมนูที่เป็นสไตล์ของเชฟและเข้ากับความชอบของเราได้
ลักษณะการเสิร์ฟ
- Fine Dining – จะมีพนักงานเสิร์ฟคอยบริการอย่างดี เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์สุดประทับใจกลับไป
- Chef’s Table – พอเชฟทำอาหารเสร็จก็จะเสิร์ฟให้เรา พร้อมกับอธิบายรายละเอียดของอาหารไปด้วย
การแต่งกาย
- Fine Dining – ต้องแต่งกายสุภาพ บางร้านอาจจะมีการกำหนด dress code
- Chef’s Table – สามารถแต่งตัวได้ตามสบาย แต่ก็ขึ้นอยู่กับคอนเซ็ปต์ของร้านด้วย ถ้าเป็นร้านที่หรูหราก็ต้องแต่งกายสุภาพ ให้เกียรติสถานที่เช่นกัน
แนะนำ 10 ร้าน Fine Dining กับ Chef’s Table สุดหรู
ข้าว เอกมัย (มิชลินสตาร์ 1 ดาว)
ร้านแรกเริ่มด้วย Khao ร้านมิชลินสตาร์ 1 ดาว ทำโดยเชฟอาหารไทยมากประสบการณ์ชื่อดังอย่างเชฟวิชิต มุกุระ บรรยากาศสบาย ๆ ตกแต่งคล้ายยุ้งข้าวและฉางเกลือ ร้านนี้จะรวบรวมเมนูอาหารไทยเด็ด ๆ ที่เป็นเมนูโปรดของหลายบ้านเอาไว้ ที่สำคัญร้านนี้ไม่ใส่ผงชูรสและเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นหลัก
- พิกัด : 15 ซอยเอกมัย 10 แขวงคลองตันเหนือ เขตคลองตันเหนือ กรุงเทพมหานคร 10110
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 11.30-22.00 น.
- โปรโมชั่นแนะนำ : Khao Chae for 2 People (Advance 1 Day) ข้าวแช่เย็นในน้ำมะลิ เสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุงรสที่ปรุงด้วยมือนานาชนิด ราคาพิเศษเพียง 2,225.- จากราคาปกติ
2,465.-(ประมาณ 1,113.- ต่อท่าน)
Sopa
มาต่อกันที่ร้าน Sopa ร้านของเชฟที่เคยทำงานในร้านอาหารสเปนที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 3 ดาว ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากสเปน อาหารรสชาติเข้มข้น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใครอยากกินอาหารสเปนสุดหรู บรรยากาศดี ๆ ห้ามพลาด!
- พิกัด : 80 ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700
- เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ 18.00-23.00 น. หยุดวันจันทร์
- โปรโมชั่นแนะนำ : NEW: Fine Dining 9 Courses/ 1 Person ราคาพิเศษเพียง 1,565.- จากราคาปกติ
2,800.-
ซาเวลเบิร์ก (มิชลินสตาร์ 1 ดาว)
ต่อไปจะเป็นร้าน ซาเวลเบิร์ก ร้าน Fine Dining ฝรั่งเศส มิชลินสตาร์ 1 ดาว ขนาดไม่ใหญ่ บรรยากาศเรียบหรูอบอุ่น คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศจากยุโรปและวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยมาทำ มีเทคนิคการปรุงและลูกเล่นที่ทันสมัย ไม่ตกยุค ทำให้อาหารมีความอร่อยและน่าสนใจ
- พิกัด : 136/1 ซอยเย็นอากาศ 2 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120
- เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์/อังคาร/พุธ/ศุกร์ 18.00-22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 12.00-22.00 น. หยุดวันพฤหัสบดี
- โปรโมชั่นแนะนำ : Savelberg Vegetarian 7-Cours/ 1 Person ราคาพิเศษเพียง 5,300.- จากราคาปกติ
8,797.-
Molino Bangkok
ร้านที่สี่ Molino Bangkok ร้านอาหารเม็กซิกันสุดเก๋ ตกแต่งด้วยหัวกะโหลก แสงสวย เหมาะกับการถ่ายรูป บรรยากาศร้านชวนให้นึกถึงหนังเรื่องโคโค่ มีอาหารเม็กซิกันให้เลือกหลายเมนู เสิร์ฟมาแบบคุณภาพเต็มเปี่ยม ปริมาณล้นจาน คนที่มาจะได้อิ่มอร่อยกับอาหารและบรรยากาศของที่นี่แน่นอน
- พิกัด : 21/4 ซอยสุขุมวิท 11 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 12.00-22.00 น.
- โปรโมชั่นแนะนำ : 1 Dish with 3 Alcohol for 2 People ราคาพิเศษเพียง 1,450.- จากราคาปกติ
1,752.-(ประมาณ 725.- ต่อท่าน)
ลาบาเช่ เอกมัย
ร้านที่ห้า La Brace Ekamai ร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน ตกแต่งเน้นโทนน้ำตาลทอง บรรยากาศเรียบหรู โรแมนติก มีโซนครัวเปิดให้เห็นเชฟทำอาหาร ร้านนี้จะเด่นเรื่องการย่าง ตามชื่อร้านที่แปลว่า ถ่านไฟที่กำลังคุ และที่พิเศษที่สุด คือ เราสามารถเลือกวัตถุดิบที่ชอบจากเคาน์เตอร์ร้านได้ตามต้องการ เพื่อให้เชฟออกแบบจานพิเศษให้เราโดยเฉพาะ
- พิกัด : 7, 1 ซอยสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 12.00-22.00 น.
- โปรโมชั่นแนะนำ : Sharing Set for 2 People เช่น Wagyu Beef Kebab Chimichurri เป็นต้น พร้อมเครื่องดื่ม ราคาพิเศษเพียง 2,290.- จากราคาปกติ
3,813.-(ประมาณ 1,145.- ต่อท่าน)
Suaninsee 2 Table By The Nest
ถัดมา คือ ร้าน Suaninsee 2 Table By The Nest ร้านอาหารไทยออร์แกนิก ใช้วัตถุดิบที่ปลูกเอง ปลอดสารพิษ 100% มีเชฟมาทำอาหารให้แบบต่อหน้า ครัวสะอาด ตกแต่งสบายตา ถ้าอยากกินร้านอาหารไทยอร่อย ๆ คุณภาพดี มีความปลอดภัย ร้านนี้ตอบโจทย์สุด ๆ
- พิกัด : 30/19 ซอยสุขแก้ว ถนนบางนา-ตราด กม.17 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 10.00-21.00 น.
- โปรโมชั่นแนะนำ : Chef Table 13 Course [Package A] ราคาพิเศษเพียง 1,200.-
Chada Chef's Table (Samui)
ร้านที่เจ็ด Chada Chef’s Table (Samui) ร้านที่เด่นเรื่องอาหารใต้แท้ ๆ ร้านนี้เคยเป็นร้านขายของชำ ร้านซ่อมวิทยุ ขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ซึ่งเป็นร้านอาหารร้านแรกและร้านเดียวของสมุยในสมัยก่อน รสชาติอาหารมีความเผ็ดร้อนแบบทางใต้ นำเสนออาหารด้วยเทคนิคใหม่ ๆ โดยเชฟมากฝีมือ ทำให้จานอาหารออกมาสวยงาม น่ารับประทาน
- พิกัด : 89 เมืองเก่าหน้าทอน อ่างทอง เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี 84140
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 13.00-21.00 น.
- โปรโมชั่นแนะนำ : Chef Table 8 Courses ราคาพิเศษเพียง 3,800.-
เทส เทส
ต่อไปเป็น Test Taste ร้านของเชฟเติ้ล เชฟจากร้านมิชลินชื่อดังอย่างร้าน Water Library ซึ่งเชฟเติ้ลได้รับฉายาเชฟปากแจ๋วประจำรายการ The Next Iron Chef ร้านนี้บรรยากาศจะสบาย ๆ ค่อนข้างเป็นกันเอง ราคาน่ารัก วัตถุดิบคุณภาพดี ปรุงด้วยความพิถีพิถัน รับรองว่าอาหารที่นี่เด็ดไม่แพ้ฉายาที่เชฟได้รับแน่นอน
- พิกัด : 318 ซอยเจริญนคร 40 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600
- เวลาเปิด-ปิด : วันพฤหัสบดี-อังคาร 12.00-18.15 น. / วันพุธ 12.00-20.45 น.
- โปรโมชั่นแนะนำ : NEW: Special Set Dinning for 1 Person เซ็ตอาหาร 3 คอร์ส เสิร์ฟความหรูหราระดับพรีเมียมให้ได้ลิ้มลอง! พิเศษสำหรับลูกค้า Hungry Hub รับ Sparkling Wine 1 แก้ว ราคาพิเศษเพียง 999.-
Valse.studio
ร้านที่เก้า Valse.studio ร้านอาหารฟิวชั่นคุณภาพดี เป็นร้านที่ให้บรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเอง ได้ใกล้ชิดกับเชฟ อาหารไม่ซับซ้อน เข้าถึงง่าย เน้นวัตถุดิบในประเทศกับวัตถุดิบนำเข้าตามฤดูกาล เชฟจัดคอร์สอาหารออกมาดีมาก รสชาติทุกเมนูเข้ากันลงตัว เสริมกันได้ดี
- พิกัด : 69/24 ถนนพญาไท แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
- เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ 18.00-20.15 น. หยุดวันจันทร์
- โปรโมชั่นแนะนำ : Standard Set เซ็ตพรีเมี่ยม 7 คอร์ส เสิร์ฟความหรูหราระดับพรีเมียมให้ได้ลิ้มลอง! ราคาพิเศษเพียง 2,935.- จากราคาปกติ
3,190.-
Chef Naree
ร้านสุดท้าย คือ ร้าน เชฟนรี หรือเชฟแอ้ม เชฟจากรายการชื่อดัง Hell’s Kitchen Thailand ที่พึ่งจบไป เป็นร้านอาหารไทย Chef’s Table รสชาติจัดจ้านถึงเครื่องสมกับที่เชฟมาจากรายการครัวนรก ถ้าใครอยากมาลองกินฝีมือเชฟมากประสบการณ์ที่ผ่านการแข่งขันมาหลายรายการก็ต้องมาลองร้านนี้เลย
- พิกัด : 66/9 เสนานิคม 1 ซอย 23 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
- เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ 12.00-20.00 น. หยุดวันจันทร์
- โปรโมชั่นแนะนำ : Personalised Thai Fine Dining ราคาพิเศษเพียง 2,500.-
เป็นยังไงบ้าง ตอนนี้ทุกคนน่าจะพอเข้าใจแล้วว่า Fine Dining กับ Chef’s Table เหมือนกันไหม ต่างกันอย่างไร สรุปง่าย ๆ ก็คือ Fine Dining จะเป็นร้านหรูที่มีความเป็นเลิศในทุกด้าน ส่วน Chef’s Table จะเป็นร้านสไตล์ไหนก็ได้ แต่หัวใจสำคัญ คือ ได้เห็นเชฟปรุงอาหาร ได้สนทนาเรื่องอาหารกับเชฟ และสามารถบอกสิ่งที่ชอบกินกับเชฟได้ ถ้าอยากได้ประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดประทับใจแบบนี้ รีบมาจองที่ Hungry Hub กันเลย!
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่
- 10 ร้าน Fine Dining งบ 2000 มีทอน 2024 อร่อยฟิน อิ่มคุ้ม ในราคาไม่แพง
- 10 ร้าน Fine Dining อาหารอินเดีย 2024 มื้อพิเศษ อร่อยว้าว สุดคุ้ม
- 20 ร้านอาหาร Fine dining กรุงเทพ 2024 คุณภาพพรีเมี่ยม เหมาะกับทุกมื้อพิเศษ
- Fine Dining คือ อะไร? ประเภทอาหารยอดฮิต ที่คนชิคๆ เขากินกัน
- chef’s table คืออะไร? ต่างจากการกินอาหารทั่วไปยังไง?