วันนี้จะชวนไปสัมผัสรสชาติของราชาผลไม้ไทย ที่กลายคอร์สโอมากาเสะสุดหรู กับ ทุเรียนโอมากาเสะ จาก Gourmet Fruit First ณ Emsphere เทศกาลคัดเฟรชอิ่มฟรุ๊ต ที่เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Gourmet Market Thailand, Tanaa Fruits และ Hungry Hub งานนี้จะอลังการแค่ไหน ตามไปดูพร้อมกันได้เลย
สำหรับงาน Gourmet Fruit First หรือ เทศกาลคัดเฟรชอิ่มฟรุ๊ต เป็นงานที่ร่วมมือกันระหว่าง Gourmet Market Thailand พรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่ยกระดับสุดยอดราชาผลไม้ไทยอย่าง “ทุเรียน” สู่คอร์สโอมากาเสะสุดพรีเมียมตามแบบฉบับของญี่ปุ่น ดดยจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2567 ไปจนถึง 23 มิถุนายน 2567 ณ ชั้น G โซน EM MARKET ห้างสรรพสินค้า Emsphere
โดย ทุเรียน ที่ได้เลือกใช้ทำเมนูคอร์สโอมากาเสะสุดพรีเมียมในครั้งนี้ ก็จะส่งตรงมาจากธนา ฟรุตส์ (Tanaa Fruits) ที่ยกสายพันธุ์ทุเรียน 4 จตุรทิศของประเทศไทย จากฤดูกาลที่ดีที่สุดส่งตรงจากสวน มาให้ได้ลองกันแบบ Exclusive ไม่ว่าจะเป็น
- ทุเรียนหมอนทองป่าละอู จังหวัดประจวบคิรีขันธ์
- ทุเรียนพวงมณี ทุเรียนโอวฉี ทุเรียนมูซันคิง – จังหวัดจันทบุรี
- ทุเรียนนกหยิบ จังหวัดอุตรดิตถ์
- ทุเรียนสาลิกา จังหวัดพังงา
ซึ่งในการเสิร์ฟจะมาแบบเป็นคอร์ส โดยจะมีทั้งหมด 11 คอร์สให้ได้ลิ้มลอง ผ่านที่นั่งแบบบาร์ที่ได้จัดไว้ให้เหมือนกับนั่งทานโอมากาเสะ และในระหว่างรอแต่ละคอร์สก็ยังสามารถนั่งชมการทำของเชฟได้ ให้ฟิลลิ่งที่เหมือนกับการไปนั่งทานโอมากาเสะแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ กันเลยทีเดียว
สำหรับใน 6 คอร์สแรกจะเป็นการเสิร์ฟทุเรียนสายพันธุ์พรีเมียม พร้อมกับชาอู่หลง โดยเริ่มต้นด้วย “นกหยิบ” ที่จะเนื้อเนื้อเยอะ มีรสชาติหวานและติดมันกำลังพอดี ตามมาด้วย “หมอนทองป่าละอู” ซึ่งเป็นสายพันธุ์พระราชทาน จาก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยจะมีเนื้อหนา สีเหลืองอ่อน พร้อมกับรสชาติที่มัน-หวาน “สาลิกา” เป็นสายพันธู์พื้นเมือง ที่มีชื่อจาก นกสาลิกา อีกทั้งยังปลูกในพื้นที่ของบางปะกงที่มีแร่ธาตุ และน้ำพุร้อนธรรมชาติ ทำได้ได้เอกลักษณ์ของทุเรียนที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากสายพันธุ์อื่นๆ
คอร์สที่ 4 “โอวฉี” นับว่าเป็นทุเรียนสายพันธุ์หายาก ด้วยเนื้อสัมผัสที่แตกต่างจากพันธุ์อื่นๆ เพราะไม่มีเส้นใยอยู่ในเนื้อทุเรียน ไม่ส่งกลิ่นที่แรงมาก อีกทั้งยังมีรสชาติที่หอมเนียน และมีความหวานที่มากกว่าทุเรียนก้านยาว คอร์สที่ 5 “มูซันคิง” ที่เดิมทีเป็นราชาทุเรียนของประเทศมาเลเซีย ก่อนที่จะมาปลูกในภาคตะวันออกของประเทศไทย อย่าง จันทบุรีซึ่งจะมีเนื้อที่หวานหอม และคอร์สที่ 6 “พวงมณี” ซึ่งเป็นสายพันธุ์น้องใหม่มาแรง ที่จะมีผลขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ เนื้อสีเหลืองนวลทองละเอียด และมีรสชาติที่หวานอร่อย
มาดูในฝั่งของหวานกันบ้าง เริ่มต้นกันด้วย ทุเรียนครีมซีสเค้ก (Cream Cheese Durian Cake) เป็นคอร์สที่ 7 ที่เลือกใช้ทุเรียนสายพันธุ์นกหยิบมารังสรรค์ให้เข้ากับซีสเค้กที่มีรสชาติอันหอม มัน และหวานกำลังพอดีไม่จัดจนเกินไป เหมาะสำหรับใครที่ทานทุเรียนที่มีกลิ่นไม่แรง และยังเป็นการทานเพื่อเปิดต่อมรสชาติอีกด้วย
คอร์สที่ 8 มิวเฟยทุเรียนเผาเบิร์นไฟ (Mille Feille Durian) เป็นเมนูฟิวชั่นที่ผสมผสานกันระหว่างแป้งพายกรอบที่นำมาซ้อนกันหลายชั้นโดยใช้เนยสดจากฝรั่งเศส ผสมกับเนื้อทุเรียนก้านยาวที่นำไปเบิร์นไฟให้มีกลิ่นและรสสัมผัสที่เป้นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้เพิ่มมิติรสชาติของหวานชิ้นนี้ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
คอร์สที่ 9 มาเติมความสดชื่นกันสักหน่อย กับ มังคุตลิ้นจี่ซอร์เบท์ (Mangosteen Lychee Sorbet) ที่คัดสรรเนื้อมงคุตเกรดส่งออกคุณภาพดี นำมาแปรรูปให้กลายเป็นเครื่องดื่มเกร็ดน้ำแข็ง ตกแต่งด้วยดอกไม้สวยงาม และด้วยรสชาติที่เปรี้ยวอมหวาน ทำให้เหมาะกับการทานตัดเลี่ยน หรือ ล้างปากก่อนที่จะไปเมนูต่อไป
เกือบสุดท้าย แต่ยังไม่ท้ายที่สุด กับคอร์สที่ 10 มูสข้าวเหนียวทุเรียน (Mousse Durian Sticky Rice) เมนูของหวาน 3 เลเยอร์ ที่จะประกอบไปด้วยข้าวเหนียวมูนใบเตยที่อยู่ชั้นล่างสุด รองมาด้วยครีมกะทิที่มีรสชาติเค็มกำลังพอดี ก่อนที่จะท็อปด้วยทุเรียนเนื้อกรอบ จากทุเรียนสายพันธุ์พวงมณี ทำให้เป็นการผสมผสานที่ลงตัว ไม่รู้สึกว่ารสชาติหนักมากจนเกินไป
ปิดท้ายกันด้วยที่คอร์สที่ 11 เนื้อทุเรียนพรีเมียม ห่อทองคำเสิร์ฟคู่กับชาอู่หลง (Premium Durian Wrapped in Gold 24K Serve with Oolong Tea) เมนูสุดเซอร์ไพรส์ ที่อัดแน่นไปด้วยความหรูหรา เพราะจะเป็นการนำทุเรียนแปะไปด้วยทองคำเปลว 24K แบบ Food Grade 99.99% และยังมาพร้อมกับชาอู่หลง เพื่อเพิ่มความสดชื่น
และสำหรับใครที่อยากจะสัมผัสกับประสบการณ์ ทุเรียนโอมากาเสะ จาก Gourmet Fruit First ที่ Emsphere ตอนนี้ก็มีเปิดให้จองแล้วผ่าน Hungry Hub ซึ่งก็สามารถจองได้ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน จนถึง 23 มิถุนายน 2567 ในราคาเพียง 1,290 บาท โดยจะเปิดให้ได้ทานทั้งหมด 4 รอบต่อวัน ทั้งรอบ 11.30 – 13.00 น. รอบที่ 2 13.30 – 15.00 น. รอบที่ 3 16.00 – 17.30 น. และรอบสุดท้าย 18.00 – 19.30 น.
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่