ไปพระราม 3 กินอะไรดี? วันนี้ขอเอาใจชาวบางคอแหลม กับ 30 ร้านอาหาร เซ็นทรัลพระราม 3 ซึ่งแน่นอนว่าห้างนี้ ก็เป็นแหล่งรวมแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ต่างๆ มจกลางเมืองพร้อมกับแหล่ง Co-Working Space สำหรับสายทำงาน โซนสำหรับเด็กๆ และที่สำคัญก็ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย นานาชาติ หรือบุฟเฟ่ต์ก็มาครบ แล้วจะมีร้านไหนเด็ดๆบ้าง มาติดตามพร้อมๆกันได้เลยจ้า
30 ร้านอาหาร เซ็นทรัลพระราม 3 ที่ไม่ควรพลาด
1. Hoshi Japanese Restaurant
ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่พร้อมจะมอบรอยยิ้มให้สำหรับทุกคน กับ โฮชิ เจแปนนิช เรสเตอรอง ซึ่งเป็นร้านบรรยากาศ เหมือนทานข้าวร่วมกันกับครอบครัว โดยที่นี่ก็มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “”Taste of Happiness รับประทานพร้อมกับรอยยิ้ม และวัตถุดิบที่มีความสดใหม่ ส่งตรงจากญี่ปุ่น ที่รังสรรค์เป็นเมนูสไตล์ญี่ปุ่นมากมาย อาทิ เนื้อมัตสึซากะ ซาชิมิ ปลาหิมะย่างซอสเมนไทโกะ ข้าวหน้าปลาดิบรวมพรีเมี่ยม เป็นต้น
- พิกัด : ชั้น 6
- เวลาเปิด-ปิด : 10 โมง – 3 ทุ่ม
- แพ็กเกจแนะนำ : Set 5 menus for 2 Persons เซ็ตเมนู 5 เมนู เช่น ข้าวหน้าฮอน มากุโระ และเมนูอื่นๆอีกมากมายพร้อมชาไม่อั้น เพียง 1,890 บาท
2. แหลมเจริญซีฟู้ด
ถ้าคุณพ่อ หรือ คุณแม่อยากกินถปลากะพง ก็ต้องพาไปที่นี่เลย แหลมเจริญซีฟู้ด ร้านอาหารไทย และอาหารทะเล ที่มีชื่อเสียงในไทยมาอย่างยาวนาน ใครที่ชอบอาหารไทยยังไงก็ต้องเลิฟอย่างแน่นอน เพราะเมนูของที่นี่ครบเครื่องจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ปลากะพงทอดราดน้ำปลา กุ้งสดลวกจิ้ม ห่อหมกปลาอินทรีย์ ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ เป็นต้น
- พิกัด : ชั้น 4
- เวลาเปิด-ปิด : 11 โมง – 3 ทุ่ม
- แพ็กเกจแนะนำ : All You Can Eat with Premium Menus (จองล่วงหน้า 2 ชั่วโมง) บุฟเฟต์อาหารและเครื่องดื่มไม่อั้น 2 ชั่วโมง! เช่น ปลากะพงแกงเหลือง, ปลากะพงลวกจิ้ม, ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ และรายการเครื่องดื่มอื่นๆอีกมากมาย เพียง 999 บาท
3. Karayama
เอาใจคนรักไก่คาราเกะ กับร้านไก่คาราเกะที่ดีที่สุดในอาซากุสะ ประเทศญี่ปุ่น อย่าง คารายามะ ซึ่งเป็นร้านเล็กๆแต่อัดแน่นไปด้วยความพิถีพิถันในการทำอาหารในแต่ละจาน พร้อมกับไก่ทอดคาราอาเกะ ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความความแห้งกรอบ แต่นุ่มใน ที่สำคัญไก่ไม่อมน้ำมัน ใครที่รักสุขภาพก็สามารถรับประทานได้แบบหายห่วง
- พิกัด : ชั้น 6
- เวลาเปิด-ปิด : 10 โมง – 3 ทุ่ม
- แพ็กเกจแนะนำ : Sharing Set for 2 Persons เซ็ตเมนู 4 เมนู เช่น เซ็ตสไปซี่นาเบะไก่ทอด ซอสไข่ข้น, เซ็ตไก่ทอดคารายามะ เป็นต้นและรายการอื่นๆอีกมากมาย พร้อมเครื่องดื่มท่านละ 1 แก้ว เพียง 470 บาท
4. Earw Thai Suki Boran
ใครเป็นสุกี้เลิฟเวอร์ หรือ อยากพาครอบครัวมาทานสุกี้แบบพรีเมี่ยม ต้องขอแนะนำ เอี่ยวไถ่ สุกี้โบราณ ร้านอาหารจีนในตำนาน ที่เปิดมาอย่างยาวนานหลายปี ในประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะเป้นร้านที่คนชอบสุกี้ต่างชื่นชอบแล้ว ก็ยังมีเมนูหลากหลายที่รังสรรค์โดยเชฟฝีมือเยี่ยมให้ได้เลือกทานอีกด้วย อาทิ เซ็ตสุกี้ ออส่วน หอยจือปู เป็นต้น
- พิกัด : ชั้น 5
- เวลาเปิด-ปิด : 10 โมง – 4 ทุ่ม
5. AKA
AKA หรือ อากะ ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีความหมายว่าความร้อนแรง แต่ที่นี่ไม่ได้ร้อนแรงแค่เพียงชื่ออย่างเดียวเท่านั้น แต่เมนูอาหารของที่นี่ก็ถือว่ามีความร้อนแรงโดนใจด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ยากินิคุ เทปันยากิ แค่นึกภาพย่างเนื้อหอมๆ อยู่บนเตาจากประเทศญี่ปุ่น แล้วมีกลิ่นหอม แค่นี้ก็น้ำลายสอแล้วละ
- พิกัด : ชั้น 5
- เวลาเปิด-ปิด : 10 โมง – 4 ทุ่ม
6. โชนัน (ChouNan)
เพื่อนแท้ เมนูเนื้อ ใครที่อยากทานข้าวหน้าเนื้อแบบจัดเต็ม เพราะเชื่อได้เลยว่าเดินห้างนานๆ ก็บั่นทอนท้องของเราแน่นอน ก็ต้องขอแนะนำ โชนัน ร้านข้าวหน้าเนื้อที่เน้นเนื้อแบบเต็มๆ แต่ราคาเบาๆ โดยบอกก่อนเลยว่าร้านนี้เหมาะสำหรับทุกคนจริงๆ ด้วยเมนูข้าวหน้าเนื้อที่มีความหลากหลาย เน้นความคุ้มค่า เนื้อแน่นๆ ผักเบาๆพอ และมีเมนูให้เลือกมากมาย อาทิ ข้าวหน้าหมูย่างมิโซะ ข้าวหน้าเนื้อสับเทอริยากิ เป็นต้น
- พิกัด : ชั้น 6
- เวลาเปิด-ปิด : 10 โมง – 4 ทุ่ม
7. Momo Paradise
ชาบู เลิฟเวอร์ ต้องถูกใจสิ่งนี้ ที่ โมโม่ พาราไดซ์ ร้านชาบูและสุกี้ยากี้พรีเมี่ยม ต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่น ที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ มาให้ได้ลิ้มลอง อาทิ เนื้อวัวออสเตรเลีย เนื้อวากิว หมูคุโรบูตะ และไฮไลท์เด็ดที่เวลาใครมาโมโม่แล้วต้องลอง นั้นก็คือเมนูของหวาน เพราะของคาวจัดเต็มแล้ว ของหวานก็ต้องตามไปด้วยเลยละ
- พิกัด : ชั้น 6
- เวลาเปิด-ปิด : 11 โมง – 3 ทุ่ม
8. BBQ Plaza
ตัวจริงเรื่องปิ้งย่าง กับร้านบาร์บิคิวในตำนาน อย่างบาร์บีคิวพลาซ่า ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการปิ้งย่าง และครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน เมื่อทุกคนเดินผ่านหน้าร้าน เราก็จะเห็นกับมาสคอตน้อนมังกรสีเขียว หรือ น้องบาบีก้อนสุดน่ารัก ที่รอต้อนรับทุกคนอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญยังขนเมนูคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเซ็ตเนื้อย่าง เซ็ตหมู และน้ำจิ้มของที่นี่ คือเดอะเบสเลยทีเดียว
- พิกัด : ชั้น 1
- เวลาเปิด-ปิด : 10 โมง – 3 ทุ่ม
9. Kub Kao' Kub Pla
หนึ่งในร้านอาหารไทยเครือ Iberry Group ที่พกมาด้วยเมนูอาหารไทยรสชาติสุดเข้มข้น อย่าง กับข้าว กับปลา จุดเด่นของที่นี่คือการเลือกใช้เมนูเด็ดจากสูตรลับเฉพาะที่มาพร้อมกับสไตล์การทำแบบ Homemade พร้อมกับเมนูที่ชวนให้ลิ้มลองมากมาย อาทิ น้ำตกแซลมอนรมควัน ขาหมูคาราเมล ฮ่อยจ๊อปูทอดกรอบ แกงปูใบชะพลู เป็นต้น
- พิกัด : ชั้น 1
- เวลาเปิด-ปิด : 11 โมง – 4 ทุ่ม
10. Dookki Topokki
เอาใจคนรักต๊อกบกกี กับร้านบุฟเฟ่ต์ต๊อกบกกี ราคาประหยัดอย่าง ดุ๊กกี้ ร้านอาหารเกาหลีที่มีบุฟเฟ่ต์ต๊อกบกกีหลากหลายสไตล์ สามารถมิซ์น้ำซุปเอง หรือ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ตามใจชอบได้ นอกจากนี้ก็ยังมีของทานเล่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไก่เกาหลี รามยอน ให้ได้ทานกันแบบฟินๆ
- พิกัด : ชั้น G
- เวลาเปิด-ปิด : 11 โมง – 3 ทุ่ม
11. Banana Leaf
บานาน่า ลีฟ ร้านอาหารไทย ที่มีจุดเด่นในเรื่องของเมนูอาหารไทยสูตรต้นตํารับ รสชาติแบบดั้งเดิม โดยตัวร้านก็เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูเด็ดๆ ให้ได้แวะไปลิ้มลองมากมาย อาทิ ได่มะนาว ไก่ห่อใบเตย หมูปั้นก้อนทอด ยำหมูทอดส้มตำ ปอเปี๊ยะข้าวเหนียวไก่ทอด เป็นต้น
- พิกัด : ชั้น 1
- เวลาเปิด-ปิด : 11 โมง – 3 ทุ่ม
12. Bonchon
รักไก่เกาหลี ต้องรักบอนชอน ร้านอาหารเกาหลีสูตรพิเศษ ที่จะพาให้คุณหลงรักตั้งแต่คำแรกๆ ด้วยสูตรพิเศษที่นำเข้าจากเกาหลี คลุกเคล้าอย่างพิถีพิถัน และที่สำคัญยังเลือกใช้แป้งบางกรอบ เพิ่มความฟิน และยังมีหลายรสชาติให้ได้ลิ้มลอง อาทิ ซอสซิกเนเจอร์ ซอสซอย การ์ลิค และ ซอสฮอท เป็นต้น
- พิกัด : ชั้น 6
- เวลาเปิด-ปิด : 11 โมง – 4 ทุ่ม
13. Jade Garden
เอาใจคนรักอาหารจีนกันอีกสักร้านหนึ่งสำหรับ เจด การ์เด้น ร้านอาหารจีนสูตรต้นตำรับ ที่นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารจีน เป็ดปักกิ่งของที่นี่ก็ถือว่าเด็ดไม่เบา เป็ดของที่นี่คือตัวใหญ่ หนังเป็ดบางกรอบ นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูอื่นๆอีกมากมายให้ได้ไปลิ้มลองกัน อาทิ เนื้อเป็ดผัดพริกไทดำ เนื้อเป็ดทอดซอสฮ่องกง บะหมี่คั่วเนื้อเป็ด เป็นต้น
- พิกัด : ชั้น 6
- เวลาเปิด-ปิด : 10 โมง – 3 ทุ่ม
14. Jones Salad
คิดถึงสลัด ต้องคิถึงลุงโจนส์ ซึ่งเป็นร้านสัลดที่เอาใจคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง ด้วยจุดเริ่มต้นของร้านนี้มาจากคุณโจนส์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งร้าน โดยสิ่งที่ทำให้ร้านนี้เป็นที่ชื่นชอบของคนที่ชอบทานสลัดนั้นก็คือ ผักที่ใช้เป็นแบบปลอดสารพิษ และเมื่อนำมารวมกันกับน้ำสลัดของลุงโจนส์ จึงทำให้เต็มไปด้วยความอร่อย ที่ไม่คาดคิดเลยละ
- พิกัด : ชั้น G
- เวลาเปิด-ปิด : 11 โมง – 3 ทุ่ม
15. Kagonoya
อีกหนึ่งร้านชาบู ที่เด็ดดวง เอาใจคนชอบเนื้อสุดๆ ที่คาโกะโนยะ ร้านชาบู ที่มีชื่อเสียงจากโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ที่ขนกองทัพเนื้อวากิวชั้นเยี่ยม เนื้อหมูคุโรบูตะ ให้ได้ไปจุ๋มกันแบบเพลินๆ ที่สำคัญยังมีเมนูให้ได้เลือกมากกว่า 60 รายการ ใครชอบชาบูตัวจริง บอกเลยว่าร้านนี้ไม่ควรพลาด
- พิกัด : ชั้น 5
- เวลาเปิด-ปิด : 11 โมง – 4 ทุ่ม
16. KOBE Japanese Steakhouse
อยากกินโกเบ ต้องแวะมาที่ โกเบ สเต็กเฮ้าส์ ร้านอาหารญี่ปุ่น แนวเทปันยากิที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดในไทย เพราะว่าเขาเปิดมาตั้งแต่ช่วง ปี 2521 ซึ่งจุดเด่นของที่นี่คือ ทุกเมนูที่ทำ ก็มีการรังสรรค์ให้ยังคงรสชาติแบบต้นตำรับ พร้อมกับเมนูที่มีให้เลือกมากมาย อาทิ เนื้อมัตสึซากะ เนื้อโกเบ ชุดสเต็กเนื้อ ชุดเทริยากิหมู เป็นต้น
- พิกัด : ชั้น 6
- เวลาเปิด-ปิด : 11 โมง – 3 ทุ่ม
17. Miyazaki
หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่ชื่นชอบในการทานเทปันยากิ ก็ต้องขอแนะนำ มิยาซากิ ร้านอาหารแนวเทปันยากิ เครือเดียวกับ MK Restaurants โดยภายในร้านมีกลิ่นอายสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมกับที่นั่งแบบ Open Kitchen ภายในห้างที่สามารถนั่งดูเชฟมืออาชีพผัดอาหารโชว์ที่โต๊ะแบบเพลินๆ พร้อมกับเมนูที่มีให้เลือกมากมาย อาทิ ชุดเนื้อสันนอกนิวซีแลนด์ ชุดไก่เทอริยากิ เป็นต้น
- พิกัด : ชั้น 4
- เวลาเปิด-ปิด : 11 โมง – 3 ทุ่ม
18. On the Table @ Central Rama 3
ออน เดอะ เทเบิ้ล คาเฟ่สไตล์โตเกียว ที่อัดแน่นไปด้วยอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน และ อาหารตะวันตก พร้อมกับบรรยากาศที่มีความโมเดิร์น ไม่ว่าใครก็สามารถเพลิดเลินกับบรรยากาศได้ นอกจากนี้ก็ยังเมนูอาหารอีกมากมายให้ได้ลิ้มลอง อาทิ ปีกไก่ทอดกรอบ ข้าวผัดกระเทียมแซลมอนเทอริยากิ ข้าวผัดทรัฟเฟิลเนื้อออสเตรเลียย่าง เป็นต้น
- พิกัด : ชั้น 5
- เวลาเปิด-ปิด : 10 โมง – 3 ทุ่ม
19. Shabushi
ใครชอบชาบูสายพาน ราคาไม่สูงมากแถมมีเมนูให้เลือกหลายหลาย เชื่อได้เลยว่าหลายๆคนต้องคุ้นชื่อร้านนี้เป็นอย่างดีแน่นอน สำหรับชาบูชิ ร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่น ที่เปิดในไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งเมนูภายในร้านก็มีให้เลือกมากมายสามารถหยิบจากสายพานแล้วลงหม้อได้เลย นอกจากนี้ก็ยังมีน้ำซุปให้เลือกหลากหลาย และที่สำคัญยังมีเมนูทานเล่น อาทิ ซูชิ หรือ กุ้งเทมปุระ ที่สามารถเดินไปทานได้ด้วยเช่นเดียวกัน
- พิกัด : ชั้น 3
- เวลาเปิด-ปิด : 11 โมง – 3 ทุ่ม
20. Spaghetti Factory Central Rama 3
เอาใจคนรักสปาเก็ตตี้กันบ้าง กับสปาเก็ตตี้ แฟคทอรี่ ร้านอาหาร 2 สไตล์ ร้านอาหารที่เปิดในประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี โดยจุดเด่นของที่นี่คือการที่ผสมผสานกันะหว่างอาหารแนวยูโรเปี่ยน-ฟิวชั่น พร้อมกับรังสรรค์เมนูที่มีคุณภาพมากมาย อาทิ พาสต้าเส้นสด ที่มีเอกลักษณ์และรสชาติเฉพาะตัว และยังรวมไปถึง สลัด พิซซ่า สเต็ก ข้าว ขนมหวาน ที่แม้กระทั่งคนรักสุขภาพก็ยังสามารถทานได้
- พิกัด : ชั้น 5
- เวลาเปิด-ปิด : 11 โมง – 3 ทุ่ม
เป็นยังไงกันบ้างกับ 30 ร้านอาหาร เซ็นทรัลพระราม 3 ที่เรานำมาฝากกันในครั้งนี้ บอกเลยว่าแต่ละร้านที่เราแนะนำว่า เชื่อได้เลยว่า จะต้องถูกใจใครหลายๆคนอย่างแน่นอน ถ้าได้ดูลิสท์นี้แล้ว วันหยุดก็อย่าลืมชวนคนรู้ใจ ไปหาของอร่อยๆทานกัน แต่ถ้าเกิดใครไปร้านไหนมาแล้ว ก็อย่าลืมมาเล่าให้ฟังกัด้วยนะ
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย