ชาววงเวียนใหญ่ หรือ ธนบุรี หลังเลิกงาน อยากชวนเพื่อนไปปาร์ตี้ นั่งเมาส์มอย หรือ ว่าไปนั่งออกเดทกับคนรู้ใจ แต่ว่าจะไม่รู้จะไปที่ไหน วันนี้ Hungry Hub ขอพาไป รีวิว Glare Eatery & Bar หนึ่งในรูฟท็อปฟิลดีย่านวงเวียนใหญ่ ที่มีทั้งเมนูอาหารและเครื่องดื่มหลากหลาย ที่สำคัญวิวสวยมาก งั้นเราไม่รอช้าพาไปดูกันเลยว่าจะเป็นยังไงกันบ้าง
Glare Eatery & Bar รูฟท็อปบาร์ฟิลดี เอาใจสายปารตี้ในย่านวงเวียนใหญ่

สำหรับ Glare จะเป็นร้านอาหารฟิลรูฟท็อปบาร์บนชั้น 6 ของโรงแรม Cascade Hotel เปิดให้บริการในช่วง 5 โมงเย็น จนถึง 5 ทุ่มกว่า ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ ส่วนของวิธีการเดินทางไปตัวถือว่าเอาใจชาวออฟฟิศเอามากๆ เพราะว่าสามารถขับรถผ่านเส้นถนนกรุงธนบุรีเลยเซเว่นสาขากรุงธนบุรี 6 เล็กน้อยแล้วเข้ามาจอดภายในโรงแรม หรือ อีกวิธีหนึ่งก็คือเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสาธารณะ BtS มาลงที่สถานีวงเวียนใหญ่ จากนั้นเดินมาอีกประมาณ 200 เมตรก็จะถึงตัวร้าน


หลังจากที่เข้าตัวโรงแรม Cascade Hotel ให้เดินผ่าน Lobby ต้อนรับจากนั้นให้เลี้ยวขวาขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 6 ก็จะเจอกับร้าน Glare พอดี ซึ่งสำหรับบรรยากาศนั้นก็ถือว่าสวยสมคำร่ำลือ เพราะจะให้ฟิลแบบโมเดิร์นหรูหรา มีทั้งกระจกบานใหญ่ที่สามารถชมวิวสวยๆ ของตัวเมือง และที่นั่งกว่า 10 ที่นั้ง เหมาะสำหรับมาทานกับเพื่อน ออกเดทกับคนรู้ใจ หรือมาทานคนเดียวก็เลิศไม่แพ้กัน



แต่นอกจากที่นั่งด้านในของร้านแล้วก็ยังมีในส่วนที่นั่งรูฟท็อปด้านนอก ที่เหมาะสำหรับนั่งรับลมสบายๆ ถ่ายรูปสวยๆ ซึ่งในส่วนนี้ที่ทั่งจะเป็นแบบที่นั่งสำหรับ 2 ท่านเป็นหลัก ใครอยากพาแฟนมาออกเดท ก็น่าจะถูกใจไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนตัวชอบมุมนี้เพราะเวลาตอนช่วงเ็นตะวันเริ่มตกดิน แสงส้มๆ จะส่องมาใกล้ๆโซนนี้ บวกกับวิวรถไฟฟ้าที่วิ่งผ่านให้ความรู้สึกที่ Urban พอสมควร
อีกอย่างนึงที่พลาดไม่ได้สำหรับสายปาร์ตี้เลยก็คือดนตรีสด เพราะว่าที่นี่จะมีดนตรีสดมาเล่นทุกวันศุกร์ ถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 2 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม หลังจากนั้นก็จะมีดีเจมาเล่นกันอย่างต่อเนื่องจนถึงเที่ยงคืน

เมนูอาหารที่เสิร์ฟใน Glare นั้น จะมาในรูปแบบสไตล์อีทเทอรี่ ที่ก็จะมีทั้งเมนูทั้งฝั่งของไทยแะนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นเมนูเรียกน้ำย่อย Appetizers เมนูเสียบไม้สไตล์ญี่ปุ่น Yakitori พิซซ่า Pizza ซุป Soups สลัดผักต่างๆ ไปจนถึงพาสต้า ซีสบอร์ด และเมนูจานหลักเป็นต้น

แต่ถ้าเกิดใครที่มาที่แล้วไม่รู้ว่าจะสั่งอะไร วันนี้เราก็ขอแนะนำเมนูไฮไลท์ที่ต้องมาลอง เริ่มกันด้วย Uni Shot หรือชื่อไทยสุดเท่ว่า อาทิตย์อัสดง เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการนำอุนิ หรือไข่หอยเม่นญี่ปุ่นมาเสิร์ฟเป็นช็อตแก้ว พร้อมด้วยซอสพอนสุ เวลาทานก็คือกระกดเข้าไปเลย ให้ความรู้สึกเปรี้ยวของซอส และความมันของอูนิ กระตุ้นต่อมรับรสก่อนเริ่มมื้อหลัก

สตูลิ้นวัว อาร์เจนตินา (Argentina Beef Tongue Stew) เป็นเมนูที่นำเนื้อวัวเอาไปเคี่ยวในเวลานาน จนทำให้เนื้อมีความเปื่อย เวลาทานจะรู้สึกได้ถึงความนุ่ม และไม่มีกลิ่นสาป ที่สำคัญยังได้ความกลมกล่อมของตัวซุปมาอีกด้วย

ทาทากิเนื้อ (Beef Tataki) เมนูที่ทำมาแบบสไตล์ญี่ปุ่น โดยเลือกใช้เนื้อส่วนสตริปลอยด์ และจะมีความโดดเด่นในตัวเครื่องของน้ำยำสูตรเฉพาะของทางร้าน เวลาทานแล้วจะรู้สึกถึงความมัน นุ่ม และความแซ่บของเครื่องน้ำยำ เวลาทานคู่กัน

แกลร์พาสต้า (c พาสต้าสุดแปลกแนว ที่ทางร้านนั้นจะเลือกใช้เส้นพาสต้าที่นำไปคลุกเคล้ากับอัญชันทำให้มีสีเหมือนดั่งท้องฟ้า พร้อมกับราดด้วยซอสครีมไวท์ซีฟู้ด น้ำบีทรูท เวลาทานให้ราดเพิ่มด้วยได่ดิบที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ที่เป็นดั่งแสงอาทิตย์ เมื่อนำทุกอย่างคลุกให้เข้ากันก็จะเพิ่มความครีมมี่ ยิ่งทำให้เมนูนี้อร่อยมากยิ่งขึ้นไปอีก

ขาหมูเยอรมัน (German Pork Knuckle) ขาหมูเยอรมันชิ้นใหญ่ ที่ภายนอกจะมีความกรอบ ส่วนภายในเนื้อนั้นจะมีความนุ่ม เสิร์ฟคู่กับผักดอง และน้ำจิ้มสูตรลับเฉพาะที่ทางร้านนั้นทำขึ้นมาเอง

แกงเผ็ดเป็ดย่าง (Duck Confit with Red Curry ) เมนูเด็ดเผ็ดแบบไทยๆ ที่นำขาเป็ดไปย่างจนกรอบนอกนุ่มใน พร้อมกับตัวซุปที่ใช้พริกแกง มะพร้าว และนม เสิร์ฟพร้อมกับลิ้นจี่และสัปปะรด ที่จะทำให้รู้สึกถึงราชาติความเผ็ดหวานกำลังพอดี ไม่ว่าใครก็สามารถทานได้

ปิดท้ายด้วยของหวานสไตล์อินเตอร์จากแดนฝรั่งเศสอย่างบรีซีสอบน้ำผึ้งเสิร์ฟคู่กับขนมปังเนย (Honey Baked Brie) อีกทั้งก็ยังมีของหวานแบบไทยๆ ไม่ว่าจะเป็นส้มฉุน (Sohm Choon) และนางลอยกลอยใจ (Nang Loi Kloi Jai) ที่เหมาะกับการทานปิดท้ายหลังจากลุยเมนูของคาวมาอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของเครื่องดื่มโซนบาร์นั้นก็จะมีทั้ง Cocktail Mocktail ไปจนถึง Wine แต่ที่เราจะพาไปแนะนำก็จะเป็นพวก Mocktail เป็นหลักยกตัวอย่างเช่น Above a cascade เครื่องดื่มสีฟ้าที่จะให้ความรู้สึกเปรี้ยวหวาน สดชื่นจากส้มและสัปปะรดให้ความรู้สึกเหมือนกับนั่งอยู่ริมชายทะเล ส่วน Solar Squeeze เครื่องดื่มสุดสมูท ที่ได้รสชาติจากมะม่วง และมะพร้าว พร้อมกับกลิ่นหอมของมะลิที่ทำให้รู้สึกถึงพลังงาย และ meet me at sunset จะเป็นแบบน้ำที่รวมความสดขื่นของผลไม้รวมอย่างส้ม สัปปะรด แอปเปิ้ล และลิ้นจี่ เป็นต้น แต่ถ้าเกิดใครที่รู้สึกอารมณ์แบบไหน ก็สามารถสั่งได้ความต้องการได้ด้วยเช่นเดียวกัน
และนี้ก็คือ รีวิว Glare Eatery & Bar รูฟท็อปบาร์ฟิลดี ที่เอาใจสายปารตี้ในย่านวงเวียนใหญ่ นอกจากจะมีเมนูอาหารนานาชาติและเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย บรรยากาศยังเหมาะกับการมาปาร์ตี้กับเพื่อน มากับครอบครัว เพื่อนที่ทำงาน หรือว่าคนรู้ใจ ที่สำคัญสามารถจองได้ผ่าน Hungry Hub ในราคาเริ่มต้นเพียงคนละ 645 บาท ต่อท่านเท่านั้น
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่