หัวใจหลักของการทำ ธุรกิจร้านอาหาร คือการมีลูกค้ารู้จักร้านเรา ชื่นชอบในรสชาติอาหาร และบริการ เกิดความประทับใจ และกลับมาใช้บริการซ้ำ แต่การจะไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ จะต้องทำให้ลูกค้ารู้จักร้านเราให้ได้เสียก่อน โดยเฉพาะร้านอาหารที่เปิดใหม่ การจะทำให้ลูกค้ารู้จักและสนใจเรานั้น จำเป็นต้องมีการทำการตลาด
สำหรับธุรกิจร้านอาหาร หลายคนอาจสงสัยว่า จะต้องเริ่มต้นทำการตลาดอย่างไร? แบบไหนถึงจะเวิร์ค? วันนี้ Hungry Hub ได้รวม 5 วิธีทำการตลาดสำหรับธุรกิจร้านอาหาร ไว้ในบทความนี้แล้ว
5 วิธีทำการตลาดสำหรับ ธุรกิจร้านอาหาร
1.จัดโปรโมชั่นที่คุ้มค่าสำคัญกว่าราคาถูก
เมื่อเปิดร้านอาหารใหม่ หรือเปิดตัวเมนูใหม่ ๆ หากร้านไม่มีความน่าสนใจ ไม่มีอะไรโดดเด่น อีกทั้งยังไม่เป็นที่รู้จัก ก็อาจทำให้ลูกค้าไม่กล้าเข้ามาลอง เพราะกลัวไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป หนึ่งในวิธีจะช่วยดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้านของเรา กระตุ้นความสนใจของลูกค้าได้ ก็คือการทำโปรโมชั่นนั่นเอง
เทคนิคการทำโปรโมชั่นที่ช่วยดึงดูดลูกค้าได้ดี จะต้องเป็นโปรที่รู้สึกคุ้มค่า คุ้มกับเงินที่จ่ายไป หรือมีราคาถูกกว่าร้านอื่น ทำให้กล้าที่จะลอง เช่น ลดราคาพิเศษ, จัดเซตสุดคุ้ม, โปร 1 แถม 1 เป็นต้น แต่ข้อสำคัญก่อนคิดโปรโมชั่น คือ คุณควรจะต้องรู้ Food Cost หรือ ต้นทุนของแต่ละเมนูก่อน เพื่อที่จะคำนวณได้ถูกต้องว่า ต้องทำโปรโมชั่นแบบใดถึงจะอยู่ในงบที่รับได้
2.เพิ่มบริการ Delivery ส่งถึงที่
จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลต่อธุรกิจร้านอาหาร ทั้งการล็อกดาวน์ การหลีกเลี่ยงการสัมผัส และข้อบังคับการนั่งทานอาหารในร้านต่าง ๆ ล้วนเป็นตัวกระตุ้นให้*ลูกค้าใช้บริการเดลิเวอรี่มากขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
แม้ว่าสถานการณ์การล็อกดาวน์จะผ่อนคลายมากขึ้นแล้ว แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้บริการส่งอาหาร Delivery อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นทางเลือกที่ทั้งสะดวก และปลอดภัย ดังนั้นหากร้านอาหารมีบริการส่งถึงที่ ก็จะยิ่งได้เปรียบ ช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกหนึ่งทาง โดยไม่ต้องรอให้ลูกค้ามาหาถึงที่
*อ้างอิงได้จากงานวิจัยของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (KResearch) ปี 2564 ที่ได้เผยถึงมูลค่าตลาดของการสั่งอาหารไปส่งยังที่พัก Food Delivery เติบโตขึ้นกว่า 46.4%
3.การตลาดแบบใช้ Influencer
การตลาดยุคใหม่ที่ได้ผลตอบรับดีถล่มทลาย คือการใช้ Influencer, Blogger หรือคนที่มีผู้ติดตามมาก ๆ ช่วยโปรโมทร้านอาหารของเรา เป็นเหมือนกระบอกเสียงช่วยสื่อสารให้ร้านของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง ทำให้เราได้ฐานลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ลองสังเกตได้จาก ร้านอาหารที่ถูกรีวิวในโซเชียล ร้านมักจะแน่น เต็ม เพราะมีคนตามมาจากรีวิว
การใช้บริการ Influencer หรือ Blogger จะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ยิ่ง Blogger ดัง ๆ ที่มียอด Follow เยอะ จะยิ่งมีค่าตัวสูง เป็นต้นทุนที่ร้านจะต้องรับผิดชอบ สำหรับการวัดผลลัพธ์ หากเป็นการรีวิวทั่ว ๆ ไป การวัดผลจะทำได้ยาก ไม่รู้ว่าการรีวิวนั้นทำยอดรีเทิร์นกลับมาให้ร้านเท่าไหร่ ต่างจากรีวิวแบบ Affiliate Marketing ที่ร้านสามารถวัดผลลัพธ์ได้ ดังนั้นก่อนเลือกใช้บริการ Influencer ควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจ
4.สร้างเว็บไซต์ให้ ธุรกิจร้านอาหาร
การทำการตลาดสำหรับธุรกิจร้านอาหาร นอกจากช่องทาง Social Media ต่าง ๆ แล้ว การทำเว็บไซต์ให้ร้านก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม และควรจะต้องทำ SEO* ด้วย เพราะในปัจจุบันยังมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่ค้นหาร้านอาหารใน Google เช่น ร้านปิ้งย่าง อารีย์ ร้านชาบู สยาม เป็นต้น แม้ว่าสิ่งที่ลูกค้าตามหาจะตรงกับร้านของคุณเป๊ะ ๆ แต่หากร้านอาหารของคุณไม่มีเว็บไซต์ ก็จะทำให้พลาดโอกาสที่ลูกค้าจะเจอร้านของคุณไปนั่นเอง
*SEO หรือ Search Engine Optimization คือการทำเว็บไซต์หรือบทความติดอันดับการค้นหาของ Google ยิ่งทำให้เว็บติดอันดับการค้นหาหน้า 1 ได้ ก็ยิ่งได้เปรียบ
5.ใช้บริการแพลตฟอร์มที่ช่วยเพิ่มยอดขาย และเข้าหาลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
การใช้บริการแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจร้านอาหารเป็นเหมือนทางลัดในการทำการตลาดสำหรับเจ้าของร้านอาหาร เพราะหากคุณทำการตลาดทุกข้อที่กล่าวมาด้วยตัวเอง จะใช้เวลา ใช้พลัง และใช้ต้นทุนที่สูง
แพลตฟอร์มจองร้านอาหาร Hungry Hub จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในการทำการตลาดของธุรกิจร้านอาหาร ทั้งลดความยุ่งยากและวัดผลได้อีกด้วย ซึ่งจุดเด่นของ Hungry Hub ก็คือ
- การทำโปรโมชั่นที่แตกต่าง พร้อมช่วยคำนวณ Food Cost ที่เหมาะสม
- เปิดตลาดใหม่ ๆ ให้ร้านอาหารด้วยฐานลูกค้าที่ใช้งานแอปพลิเคชัน
- มีพันธมิตร Blogger ที่มีคุณภาพ ส่งไปรีวิวให้ร้านอาหาร โดยร้านรับผิดชอบเพียงแค่ค่าอาหารเท่านั้น และร้านยังสามารถติดตามผลลัพธ์ได้อีกด้วย ว่ามีลูกค้ามาใช้บริการจริงจาก Blogger เท่าไหร่
- มีบริการเดลิเวอรี่สำหรับร้านที่สนใจเข้าร่วม ที่สำคัญเก็บ GP ต่ำ ทำให้ร้านอาหารไม่ต้องรับภาระมาก
- มีทีมซัพพอร์ต คอยมอนิเตอร์ดูแลลูกค้า และช่วยปรับแผนการตลาดให้ร้านอาหาร
- ร้านอาหารจะมีหน้าร้านในเว็บไซต์ของ Hungry Hub มีเมนูและรีวิว ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น
หากร้านอาหารสนใจการตลาดสำหรับร่วมกับ Hungry Hub หรือ อยากทำความรู้จัก Hungry Hub ให้มากขึ้น อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก