ท้องมันร้องโครกคราก ใจเรามักมักจะถามหา ชาบู บุฟเฟ่ต์ อยากจะเดินเข้าร้านไปตักของกินแบบไม่อั้น แค่คิดแค่นี้มันก็ฟินแล้ว แต่บางครั้งพอกิเลสมันมาตักๆอยู่ก็พึ่งนึกขึ้นได้ ว่าแม่เจ้าโว้ยทำไมมันเต็มโต๊ะขนาดนี้!! จะทานหมดไหมเนี่ย? แถมบางครั้งก็โดนปรับเงินเพราะทานเหลือ เจ็บแปลบไปอีก วันนี้ Hungry Hub ก็มี เทคนิคกินชาบู ยังไงให้คุ้ม มาฝากกัน ถ้าอยากรู้แล้วได้ดูพร้อมกันได้เลย!
6 เทคนิคกินชาบู ยังไงให้อร่อยคุ้ม ไม่โดนปรับแบบจุกๆ
1. อ่านรายละเอียดให้ดีก่อนสั่ง
พอได้ร้านที่โดนใจกันแล้ว เชื่อว่าหลายๆคนจะต้องหยิบใบรายการอาหารขึ้นมาดูก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งพอเห็นแต่ละเมนูตามันก็ลุกวาว อยากได้เมนูโน้น อยากได้เมนูนี้เต็มไปหมด แต่บางครั้งก็อาจจะมองข้ามรายละเอียดจุดๆ หนึ่งที่สำคัญไปนั้นก็คือ ข้อแนะนำในการรับประทาน อย่างเช่น ระยะเวลาในการทาน ค่าปรับหากทานเหลือ การใช้ภาชนะในการใส่อาหารแต่ละประเภท เป็นต้น
2. ดูปริมาณของแต่ละเมนูในรายการให้ดี
หากใครติดตามโซเชียลมีเดีย ก็จะมีกระแสช่วงหนึ่งที่มีคนไปใช้บริการร้านบุฟเฟ่ต์ชื่อดังแล้วสั่งอาหารจำนวนเยอะ จนสุดท้ายแล้วมาดูอีกทีอาหารก็เต็มโต๊ะไปหมด สุดท้ายทานไม่หมดก็ต้องเสียค่าปรับไปตามระเบียบ ซึ่งปัญหาแบบนี้คนชอบทานชาบู อาจจะต้องระมัดระวังในการดูจำนวนของเมนูที่สั่งในใบรายการว่าในแต่ละเมนู เมื่อสั่งมาแล้วจะได้จำนวนเท่าไหร่ เช่น หมูสามชั้น 1 ถาดจะได้ 6 ชิ้น หรือ ปลาแซลม่อน 1 ถาดจะได้ 5 ชิ้น ซึ่งถ้าเกิดในใบรายการไม่มีข้อมูล เราอาจจะค่อยๆสั่งมาอาจจะ 1 ถาดก่อน หรือ ถามพนักงานก็ได้เพื่อความชัวร์
3. อย่าวู่วาม
เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่อยากจะแนะนำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถเตือนใจตัวเองได้ดีเวลาไปทานชาบู คนเราเนี่ยเวลาจะทานกิเลสมันก็เต็มไปหมด โดยเฉพาะเวลาที่หิวมากๆ โอ้โห +1 +2 เต็มหน้ากระดาษแบบไม่คิดพร้อมยื่นไปให้พนักงานเรียบร้อย แต่พออาหารมาเสริฟปุ้บ ก็รีบทานปั้บ สักพักต้องยกธงขาวทันที เพราะกินไม่ไหว แต่อาหารที่เราสังมันก็จะมาในรูปแบบกรรม ต่อให้อิ่มที่เราสั่งไว้ก็จะยังมาไปเรื่อยๆ วิธีแบบนี้ไม่ใช่วิธีการทานชาบูที่ดีเลย ดังนั้นครั้งต่อไป และท่องไว้ในใจว่า “จงอย่าวู่วาม จงอย่าวู่วาม!!” ให้สั่งแบบพอดีๆ ถ้าหมดเมื่อไหร่ก็สั่งใหม่ อาหารจะได้ไม่เหลือ และไม่ต้องเสียค่าปรับด้วย
4. ต้ม จุ่ม จิ้ม ซด ครบกระบวนวิธี
ในการทานชาบูมีวิธีที่ใช้รับประทานให้ได้รสชาติของสิ่งที่เราททานเข้าไปในปากมีความฟินมากยิ่งขึ้น โดยมีอยู่ 4 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
- น้ำเดือดให้ต้มผักลงไปก่อนเพราะผักจะมีความหวานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เวลาต้มไปนาน รสชาติก็จะมีความกลมกล่อมมากขึ้น
- จุ่มเนื้อสัตว์ที่ชอบแบบเบาๆ ข้อนี้ไม่ได้มาร้องเพลงให้ฟัง แต่เวลาทานเนื้อสัตว์ อย่างเนื้อวัว ควรจุ๋มลงไปในน้ำชาบูเดือดๆ ประมาณ 10-15 วินาที หรือ ตามใจชอบ เนื้อจากเดิมที่เป็นสีแดงๆ ก็จะกลายเป็นสีออกเทาอ่อนๆ จะมีความนุ่ม เวลาเคี้ยวในปากจะนุ่มลิ้น แทบละลายในปาก แต่ถ้ายิ่งทานคู่กับพวกเนื้อวากิวที่มีลายหินอ่อนเยอะๆแล้วละก็ โอ้ยสวรรค์ชั้น 7 ชัดๆ
คำเตือน เนื้อทุกชนิดในร้านชาบู ไม่ควรรับประทานแบบสดๆ เพราะนอกจากยังไม่ผ่านการปรุง และมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ตามมาด้วยนะ ดังนั้นจุ๋มแล้วทานปลอดภัยกว่านะเธอ
- จิ้มเนื้อที่เราลงหม้อแล้ว คู่กับน้ำจิ้มที่เราโปรดปราน ปกติแล้ว ชาบูแบบดั้งเดิมจะใช้น้ำจิ้มพอนสึ และ น้ำจิ้มงาเท่านั้น แต่ปัจจุบันหลายร้าน เพิ่มตัวเลือกของน้ำจิ้มให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น อาทิ น้ำจิ้มหม่าล่า น้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มแจ๋ว น้ำจิ้มซีฟู้ด ซึ่งสไตล์ในการจิ้มก็จะไม่เหมือนกัน ถ้าชอบความเข้มข้นก็สามารถจุ๋มไปให้เต็มเนื้อก็ได้ หรือ จะจุ๋มแบบเหยาะๆ เพื่อให้ได้รสชาติทั้งเนื้อและน้ำจิ้มก็ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
- ซดน้ำซุปร้อนๆ ให้ชื่นใจกันสักหน่อย หลังจากอร่อยกับเนื้อมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวพระเอกอย่างน้ำซุป ให้หยิบช้อนตักน้ำซุปที่อยู่ในหม้อ แล้วก็ค่อยๆ ซดเข้าปาก แนะนำว่าอย่าซดรวดเดียวไม่งั้นพองปากแน่ๆ หรือ จะทานแบบถ้วยมิโสะก็ได้ด้วยนะ เอากระบวยตักซุปแล้วเทใส่ถ้วยของเรา แล้วค่อยๆซด บอกเลยว่าก็ฟินไปอีกแบบ
5. เครื่องดื่มดื่มได้ไม่อั้น แต่ก็อย่าดื่มเยอะ
ปกติ ร้านชาบู ส่วนมากก็จะมีเครื่องดื่มที่สามารถเติมได้ไม่อั้นอยู่แล้ว อาจจะรวมอยู่ในราคาที่ไปทาน หรือเป็นออปชั่นเสริมที่ต้องจ่ายเพิ่มนิดหน่อย แต่ถึงแม้ว่าจะดื่มได้ไม่อั้น แต่รู้หรือไม่ว่านี้แหละเป็นศัตรูตัวฉกาจของเราชั้นดีเลย เพราะ ขึ้นชื่อว่าเครื่องดื่มแน่นอนว่า มันมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว โดยเฉพาะเครื่องดื่มซ่าๆ ยิ่งมีทั้งแก๊ส ก๊าซ ยิ่งทำให้เราอิ่มเร็วขึ้นไปอีก ดังนั้นเครื่องดื่มแนะนำว่าให้ดื่มแบบค่อยเป็นค่อยไป จะได้ทานพวกเนื้อ ผัก อะไรได้ม่กขึ้น
6. อย่าเอาของทานไม่หมดไปซ่อน
การที่เราสั่งอาหารมาเยอะๆ แล้วถ้าเกิดเราอิ่ม ทานไม่หมด ก็จะต้องเสียค่าปรับตามข้อตกลงที่ได้เขียนเอาไว้ ส่วนมากจะปรับคิดราคาตามขีด ตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักพัน ที่ราคาแพงมากขึ้นเพราะในเรื่องของวัตถุดิบ การจัดการของเหลือ หรือ Food Waste แต่การที่เอาอาหารไปซุกไว้ตามหม้อ ตามช่องต่างๆภายในที่นั่ง โต๊ะ เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำเป็นย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นการไม่ซื้อสัตย์กับตัวเองแล้ว ยังทำให้ร้านต้องลำบากกับการจัดการโต๊ะ ลองสมมุติว่าถ้าคนที่มาทานคนถัดไปดันเจอสิ่งที่เอาไปซ่อน แนะนอนว่าร้านมีโอกาสโดนตำหนิพอสมควรเลยละ
เป็นยังไงกันบ้างครับกับเทคนิคการทาน ชาบู ที่ได้นำมาฝากกันในบทความนี้ ถ้าวันไหนไปร้านชาบูก็ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กันดู เพราะบอกเลยว่าสามารถใช้ได้จริงๆ ส่วนสาเหตุไม่ต้องถามว่าทำไมเพราะแอดชอบทานชาบูนั้นเอง พ่ามมม อยากไรก็ดี ถ้าเกิดอยากจะหาร้านชาบู หรือ ร้านบุฟเฟ่ต์ดีๆสักร้าน ลองแวะมาดูที่ Hungry Hub เพราะมีดีลพิเศษที่รอเพื่อนๆ ให้ได้ไปลองกันอยู่เพียบเลย
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แหล่งรวมบุฟเฟ่ต์อันดับหนึ่งของไทย