คุณรู้หรือไม่ว่า หญ้าฝรั่น หรือ ซะฟะรัน นั้น เป็นหญ้าที่ไม่ถูกนับว่าเป็นหญ้า เพราะสามารถนำมาปรุงอาหารได้ รวมไปถึงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกหลากหลาย แต่ที่เด็ดที่สุด คงต้องยกให้ราคาของเจ้าหญ้าชนิดนี้ ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่ม เครื่องเทศที่มีราคาแพงที่สุดในโลก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาทำความรู้จักพืชชนิดนี้กันเลย!
![Svg+xml;base64,PHN2ZyB2aWV3Qm94PScwIDAgMjA0OCAxMzY1JyB4bWxucz0naHR0cDovL3d3dy53My5vcmcvMjAwMC9zdmcnPjwvc3ZnPg==](https://blog.hungryhub.com/wp-content/uploads/2021/12/benyamin-bohlouli-HuzCqE21trM-unsplash-1-2048x1365.jpg)
ทำความรู้จัก หญ้าฝรั่น
หญ้าฝรั่น หรือ ชื่อวิทยาศาสตร์เรียกว่า Crocus sativus L. คือ พืชชนิดหนึ่ง ที่มีต้นกำเนิดจากแถบประเทศอาหรับ มีลักษณะเป็นไม้ดอกสีม่วง มีเกสรดอกไม้สีแดงและสีเหลืองทองตรงกลาง โดยแต่ละดอกจะมีเกสรสีแดงเพียงแค่ 3 เส้น เท่านั้น พร้อมทั้งมีกลิ่นที่ฉุนอีกด้วย ซึ่งจุดเด่นที่ต่างและไม่เหมือนพันธุ์พืชอื่น ๆ คือหญ้าฝรั่นนั้น จะมีรสชาติในตัวของมัน โดยรสชาติจะมีรสชาติค่อนไปทางขมและมีหวานปลาย ๆ ลิ้น มักจะถูกมาใช้ปรุงอาหาร รวมไปถึงใช้ส่วนของเกสรทั้ง 2 สี ตกแต่งอาหารให้ดูมีสีสันชวนน่ารับประทาน
ทำไมถึงมีราคาแพงที่สุดในโลก
เหตุผลที่ทำให้ เป็นเครื่องเทศมีราคาแพงเป็นเพราะว่า ดอกไม้ 1 ดอก มีเกสรเพียงแค่ 3 เส้นเท่านั้น อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เวลาที่ทำการชั่งน้ำหนักออกมา ก็มีน้ำหนักเพียงแค่ 0.45 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้ต้องใช้เป็นจำนวนมาก จึงจะได้น้ำหนักตามที่ต้องการ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีราคาสูงและแพงมาก ๆ
และหากเกิดความสงสัยว่า แล้วมีการตั้งราคาขายอยู่เท่าไหร่ เราขอตอบเลยว่า น้ำหนักจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของเกสรนั้น ๆ ซึ่งราคาส่วนใหญ่ ก็จะสนนอยู่ที่ระหว่าง หลักหมื่น ถึง 1 แสนบาทกันเลยทีเดียว
ซึ่งจะเห็นได้ว่า เป็นวัตถุดิบที่มีราคาแพงกว่าทองคำเสียอีก!
หญ้าฝรั่น เป็นพืชสารพัดประโยชน์
นอกจากจะเป็น เครื่องเทศ ที่มีราคาค่อนข้างสูง แถมเวลาที่ต้องการจะใช้งานนั้น จำเป็นจะต้องใช้ในปริมาณที่มากกว่าพืชทั่ว ๆ ไปแล้ว เขานิยมนำมาใช้ประโยชน์ในด้านไหนกันบ้างนะ? บอกเลยว่าหญ้าฝรั่น สามารถนำมาใช้ประโยชน์ ได้หลายอย่างมาก ๆ เริ่มที่เรื่องแรกเลยคือ
- ใช้ทำอาหารและเครื่องดื่ม หญ้าฝรั่นมักจะนิยมนำมาทำอาหาร ซึ่งอาหารที่มีส่วนประกอบของหญ้าฝรั่นนั้น มักจะเป็นอาหารจากทางต่างประเทศ เช่น ประเทศอุซเบกิสถาน ประเทศสเปน และประเทศอิตาลี เป็นต้น โดยประเทศเหล่านี้ก็จะมีเมนูอาหารที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
ประเทศอุซเบกิสถาน
![Pilaf Rice หญ้าฝรั่น](https://blog.hungryhub.com/wp-content/uploads/2021/12/eugene-krasnaok-K7qy_rLX6_I-unsplash-600x400.jpg)
ประเทศสเปน
![Paella หญ้าฝรั่น](https://blog.hungryhub.com/wp-content/uploads/2021/12/ting-tian-_79ZJS8pV70-unsplash-600x400.jpg)
ประเทศอิตาลี
![Risotto Milanese หญ้าฝรั่น](https://blog.hungryhub.com/wp-content/uploads/2021/12/toa-heftiba-VNu0yM4kFdA-unsplash-600x411.jpg)
นอกจากนี้ ก็มีการนำมาใช้สำหรับแต่งกลิ่นและสีของอาหารและขนม เพื่อเพิ่มสีสันให้ดูน่ารับประทานมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นโทนสีเหลือง ส้มสว่าง โดยวิธีทำนั้น ก็คือการกลั่นและกรองหญ้าฝรั่น ด้วยน้ำร้อน จากนั้นจึงทำการกรองออกมา ให้เหลือแต่น้ำเท่านั้น หรืออีกวิธีหนึ่ง คือการนำหญ้าฝรั่นไปบดให้มีความละเอียด หลังจากนั้น ก็นำมาผสมลงลงในอาหารได้
สมุนไพรและสรรพคุณหลากหลาย
อย่างที่ได้กล่าวข้างต้น เกี่ยวกับประโยชน์หรือสิ่งที่หญ้าฝรั่นสามารถนำมาใช้งานได้แล้ว ส่วนนี้ก็จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำหญ้าฝรั่นมาทำเป็น “สมุนไพรและยารักษาโรค” ที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนว่า
เจ้าหญ้าฝรั่นนั้นสามารถทำได้! มีดังนี้
-
บรรเทาอาการปวดท้อง
- ขับเสมหะ
- ผ่อนคลายความเครียด
- ลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด
คำแนะนำที่ไม่ควรมองข้าม
หญ้าฝรั่น ที่มีข้อดีและคุณประโยชน์มากมายนั้น ก็มีคำแนะนำและข้อห้ามที่ผู้ที่ต้องการจะใช้งาน ควรทำการศึกษา และใช้งานอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายได้ จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย!
เริ่มที่ ปริมาณของการใช้งาน หญ้าฝรั่นในแต่ละวัน จากการที่มีการศึกษาและค้นพบว่า หญ้าฝรั่นมีความเป็นพิษต่ำ แต่สำหรับคนธรรมดาที่ไม่มีอาการป่วยหรือควาามผิดปกติใด ๆ ก็ไม่ควรใช้งานมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น เกิดอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ หรือมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทั้งนี้ควรมีการปรึกษาแพทย์ เพื่อสอบถามและศึกษาวิธีใช้ที่ถูกต้องก่อนถูกครั้งจะเป็นผลดีที่สุด
ต่อมาเป็นการใช้งานในกลุ่มคุณแม่มือใหม่ สตรีที่มีครรภ์ รวมไปถึงสตรีที่มีการให้นมบุตร ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานหญ้าฝรั่น อย่างเด็ดขาด เพราะหญ้าฝรั่นมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของมดลูก และผลข้างเคียงที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ การแท้งบุตร
ดังนั้นแล้ว ก่อนที่จะนำหญ้าฝรั่น มาใช้ในการเป็นยารักษาโรค หรือ สมุนไพรต่าง ๆ ก็ควรทำการศึกษาข้อมูลก่อน หรือ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ประจำโรคจะเป็นการดี เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบและผลข้างเคียงกับร่างกายเรานะ!
แนะนำร้านอร่อยเอาใจคนรักเครื่องเทศ
Chowpati Indian Street Food
![chowpati หญ้าฝรั่น](https://blog.hungryhub.com/wp-content/uploads/2021/12/RackMultipart20201006-204-1jdaap4-600x400.jpeg)
หนึ่งในวัฒนธรรมอาหารที่มีการใช้ หญ้าฝรั่น เข้าไปผสมผสานและใช้ปรุงอาหาร จะเป็นอาหารประเทศอื่นใดไม่ได้นอกจาก อาหารอินเดีย และแน่นอนว่า เมนูที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี ก็คงเป็นเมนู ข้าวหมกไก่ นั่นเอง
โดยทางร้านมีเมนูที่เรียกว่า Chicken Biyani ที่มีจุดเด่นคือกลิ่นหอมของข้าวที่ถูกผสมด้วยหญ้าฝรั่น ทำให้ส่งกลิ่นหอม รวมถึงมีสีเหลืองที่ได้จากการใช้เกสรสีทองของหญ้าฝรั่นด้วย แถมทางร้านยังเป็นบุฟเฟ่ต์ ที่มีอาหารน่ารับประทานทั้งอาหารคาว ขนมหวาน หรือจะเป็นเครื่องดื่มอีกด้วย บอกเลยว่าใครเป็นแฟนคลับอาหารอินเดีย ไม่ควรพลาด!
Albricias at Chatrium Residence Sathorn
![albricias หญ้าฝรั่น](https://blog.hungryhub.com/wp-content/uploads/2021/12/RackMultipart20201102-220-1l45lcw-600x400.jpeg)
อีกร้านหนึ่ง จาก Albricias at Chatrium Residence Sathorn ห้องอาหารจาก โรงแรมหรูย่านสาทร ที่นี่เป็นอาหารสัญชาติสเปน ที่แน่นอนว่าภายในอาหาร ต้องมีการใช้วัตถุดิบจาก หญ้าฝรั่น เป็นส่วนประกอบอย่างแน่นอน โดยเมนูนี้มีชื่อว่า Seasonal Paella ที่จะเสิร์ฟมาพร้อมกับปูนิ่มตัวยักษ์ ที่มีการผสมเนื้อปูลงไปในข้าวเรียบร้อยแล้ว ทำให้เวลารับประทาน จะได้สัมผัสได้ถึงเนื้อปูนิ่มอย่างเต็มคำ ใครยังไม่เคยลองทาน บอกเลยว่าห้ามพลาด!
ติดตามบทความอื่น ๆ ที่น่าสนุกและน่าสนใจอีกเพียบ
ถ้าไม่อยากพลาดความรู้และสาระดี ๆ ก็สามารถคลิกเพื่ออ่านบทความที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจได้ด้านล่างนี้เลย !!
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.