ทงคัตสึ (Tonkatsu) และ คัตสึด้ง (Katsudon) เมนูอาหารยอดฮิตของชาวญี่ปุ่น ที่หลายคนก็อาจจะยังแยกไม่ออกว่าสองเมนูนั้นแตกต่างกันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาสีสันของอาหาร ส่วนประกอบหรือวิธีการทำ ว่ากันเเล้ว Hungry Hub ก็เลยพาทุกคนมารู้จักกับสองเมนูนี้เลย ตามมาดูกันเลยดีกว่าว่าสองเมนูสุดฮิตนี้แตกต่างกันอย่างไร? แล้วทำไมถึงต้องกินตอนสอบ?
ทงคัตสึกับคัตสึด้ง ต่างกันยังไง?
ทงคัตสึ (Tonkatsu) คือ
ทงคัตสึ (Tonkatsu) นั้นมาจากคำว่า ‘ทง (Ton)’ ที่แปลว่า ‘หมู’ และ ‘คัตสึ(Katsu)’ มาจากคำว่า Cutlet แปลว่า ‘เนื้อทอด’เมนูทงคัตสึจึงเป็นเมนูที่ใช้เนื้อหมูเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารด้วยวิธีการนำเนื้อหมูชิ้นหนานั้นไปคลุกกับแป้งและไข่จากนั้นก็นำไปชุบกับเกล็ดขนมปังทอดและนำลงในหม้อทอดร้อน ๆ โดยจะทอดจนสุกและกรอบเป็นสีเหลืองสวยงาม
วิธีการทานก็มักจะนิยมหันเป็นชิ้นพอดีคำ และราดด้วยซอสทงคัตสึ ซึ่งซอสของแต่ละร้านรสชาติความเข้มข้น ความอร่อย ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็จะแตกต่างกันออกไป เเละทงคัตสึก็ยังมักจะทานคู่กับข้าวและซุปมิโสะพร้อมผักกะหล่ำปลีหั่นฝอยที่สามารถทานตัดเลี่ยนควบคู่กันได้อย่างอร่อยลงตัว การเสิร์ฟเมนูทงคัตสึส่วนใหญ่ในร้านอาหารทั่วไปจึงมักจะเสิร์ฟเป็นชุด
คัตสึด้ง (katsudon) คือ
คัตสึด้ง (Katsudon) หรือ ข้าวหน้าหมูทอด เป็นเมนูที่มาจากทงคัตสึ (Tonkatsu) หมูทอดสไตล์ญี่ปุ่น รวมกับคำว่า ด้ง (Don) หรือ ดงบุริ (Donburi) ชื่อเรียกอาหารจานเดียวของญี่ปุ่นนั้นเอง จึงเกิดเป็นเมนูคัตสึด้งเมนูที่ ฉ่ำด้วยซอสสไตล์ญี่ปุ่นพร้อมไข่เยิ้ม ๆ ซึ่งเมนูนี้นั้นจะต่างจากทงคัตสึตรงที่จะเป็นเมนูที่จะนำ ทงคัตสึ ที่ผ่านการทอดมาแล้วหนึ่งครั้งไปผสมกับน้ำซุป โชยุ เหล้า สาเกหวานและใส่ไข่ก่อนจะนำไปผ่านการทอดอีกครั้งจากนั้นก็จะนำมาราดบนข้าวร้อน ๆ พร้อมทาน
นอกจากนั้นชาวญี่ปุ่นนั้นมีความเชื่ออย่างหนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้ก็คือ ทุกครั้งที่มีการแข่งขันหรือการทดสอบ ชาวญี่ปุ่นนั้นจะมีธรรมเนียมในการทาน ทงคัตสึ เพราะ คัตสึ (Kutsu) นั้นมีความหมายว่า ชัยชนะ จึงเชื่อว่าจะต้องทานและอธิษฐานก่อนทำการแข่งขันหรือทดสอบ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจนั้นเอง
เป็นยังไงกันบ้างกับสองเมนู อาหารญี่ปุ่น ยอดฮิตของชาวญี่ปุ่นที่หน้าตาทานกินสุด ๆ แค่เห็นก็ท้องร้องกันเลย ต้องบอกเลยว่าทั้งสองเมนูนี้ต้องเป็นเมนูที่โปรดปรานของใครหลาย ๆ แน่นอน ไหนใครที่เคยกินแล้วมาแชร์ต่อร้านอร่อยกันได้น้า แต่ถ้าใครที่ยังไม่เคยลองต้องตามไปลองกันเลย
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย