เมื่อพูดถึงโรคที่มีความเสี่ยงจากการบริโภคอาหารดิบหรือไม่สุก หลายคนอาจนึกถึงโรคที่มีอาการทั่วไปอย่างอาหารเป็นพิษ แต่โรค ไข้หูดับ กลับเป็นโรคที่อาจไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่มีความร้ายแรงมากพอที่จะนำไปสู่การสูญเสียการได้ยินถาวรหรือต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน โรคนี้มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียที่สามารถติดต่อจากสุกรสู่คนได้ และการป้องกันนั้นเริ่มต้นได้จากการรู้จักโรคและวิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง
โรค ไข้หูดับ คืออะไร
โรคไข้หูดับ เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียชื่อ สเตรปโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) ซึ่งพบได้ในสุกรที่ป่วย เชื้อชนิดนี้สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่สัมผัสเนื้อสุกรดิบหรือบริโภคอาหารที่ไม่ได้ปรุงสุกอย่างเหมาะสม โรคนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดอาการไข้สูงและอักเสบในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย แต่ยังอาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาท เช่น การสูญเสียการได้ยิน (หูดับ) ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้โรคนี้มีชื่อว่า “ไข้หูดับ” หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โรคนี้สามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้
การติดต่อของโรคไข้หูดับ
- การบริโภคอาหาร : รับประทานเนื้อสุกร เครื่องใน หรือเลือดที่ปรุงไม่สุก เช่น ลาบ หลู้ หรืออาหารประเภทปิ้งย่างที่ยังดิบอยู่
- การสัมผัสโดยตรง : เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผล รอยถลอก หรือเยื่อบุตา เมื่อสัมผัสเนื้อสุกรดิบ เลือดสุกร หรือของเหลวที่ปนเปื้อนเชื้อ
อาการของโรคไข้หูดับ
ผู้ติดเชื้อจะเริ่มมีอาการภายใน 3-5 วันหลังจากสัมผัสหรือบริโภคอาหารที่ปนเปื้อน โดยอาการที่พบได้ ได้แก่ :
- ไข้สูง
- ปวดศีรษะรุนแรง
- เวียนศีรษะ ทรงตัวไม่ได้
- อาเจียน
- คอแข็ง
- สูญเสียการได้ยิน (หูดับ)
- ท้องเสีย
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันทีและแจ้งประวัติการบริโภคหรือสัมผัสเนื้อสุกรดิบ
การป้องกันโรคไข้หูดับ
- ปรุงอาหารให้สุก : ปรุงเนื้อสุกร เครื่องใน และเลือดด้วยความร้อนอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 นาที เพื่อฆ่าเชื้อโรค
- หลีกเลี่ยงอาหารดิบ : งดการรับประทานลาบ หลู้ หรืออาหารดิบอื่นๆ ที่มีส่วนผสมของเนื้อสุกรและเลือดดิบ
- เลือกวัตถุดิบที่ได้มาตรฐาน : เลือกซื้อเนื้อสุกรจากแหล่งที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพและสุขอนามัย ไม่ซื้อเนื้อที่มีกลิ่นคาวหรือสีคล้ำผิดปกติ
- การป้องกันระหว่างเตรียมอาหาร : ใช้ถุงมือขณะจัดการกับเนื้อสุกรดิบ และล้างมือให้สะอาดหลังสัมผัส แยกเขียง มีด และอุปกรณ์สำหรับเนื้อดิบและเนื้อสุก
- ป้องกันการสัมผัสโดยตรง : หากมีบาดแผลบนมือ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสเนื้อสุกรดิบ หรือใช้ถุงมือป้องกัน
การบริโภคอาหารอย่างปลอดภัย
- อาหารปิ้งย่าง : ควรย่างเนื้อจนสุกทั้งด้านนอกและด้านใน หลีกเลี่ยงเนื้อที่มีสีชมพูหรือเลือดซึมออก
- ลาบและหลู้ : หากต้องการรับประทาน ควรเลือกเมนูที่ปรุงสุก เช่น ลาบคั่วหรือลาบที่ไม่มีเลือดดิบ
- อาหารที่ปรุงใหม่ : ควรบริโภคอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ และเก็บอาหารเหลือไว้ในตู้เย็นทันทีเมื่อไม่ได้ใช้
กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวัง
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือมะเร็ง
- ผู้ที่ติดสุราเรื้อรัง
- ผู้ที่เคยตัดม้ามออก เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าคนทั่วไป
โรคไข้หูดับเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยการบริโภคอาหารอย่างถูกสุขลักษณะและปรุงอาหารให้สุกเสมอ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและปกป้องสุขภาพของคุณและครอบครัว หากมีอาการผิดปกติหลังบริโภคอาหาร ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและคำแนะนำ สามารถติดต่อสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรคที่ https://ddc.moph.go.th/
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติม