พักหลังมานี้ไม่ว่าจะกดเข้าแพลตฟอร์มไหน ก็เจอแต่ กรีกโยเกิร์ต เต็มไปหมด บางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อแต่ยังไม่เคยกิน หรือบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินเลย แต่ทำไมอยู่ ๆ เจ้ากรีกโยเกิร์ตถึงมาฮิตได้ มันคืออะไร และมีข้อดีอะไร ทำไมคนถึงนิยม ใครอยากรู้ ไปหาคำตอบกัน!
Greek Yogurt คืออะไร?
Greek Yogurt คือ โยเกิร์ตประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยม โดยมีส่วนประกอบหลัก ๆ คือ นม และ แบคทีเรียที่ดีต่อร่างกาย เหมือนกับโยเกิร์ตทั่ว ๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้กรีกโยเกิร์ต แตกต่างจากโยเกิร์ตปกติก็คือ “ความเข้มข้น” ที่มากกว่าโยเกิร์ตทั่วไปมาก ๆ มากจนเนื้อโยเกิร์ตอาจจะแข็งตัวจนเป็นก้อนเลยก็ได้!
ซึ่งความเข้มข้นที่เป็นจุดเด่นของกรีกโยเกิร์ต เกิดจากการกรองและคั้นหางโยเกิร์ต เวย์ หรือของเหลว ที่ประกอบด้วยโปรตีน รวมถึงน้ำตาลแลคโตส ออกไปจนเกือบหมดนั่นเอง
ที่มาของกรีกโยเกิร์ต
Greek Yogurt เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมที่มีมาตั้งแต่ในสมัยอดีต อีกทั้งยังมีหลักฐานที่พบว่า โยเกิร์ตมีมาตั้งแต่ 100 ปีก่อนคริสตกาลแล้ว! โดยชาวพื้นเมืองชนชาติแรกที่ผลิตโยเกิร์ตออกมา แน่นอนว่าต้องเป็น ชาวกรีก อย่างสมชื่อ! ซึ่งกรีกโยเกิร์ตสามารถเรียกสั้นๆอีกอย่างหนึ่งว่า โยเกิร์ตเข้มข้น หรือ ลาเบิน (labneh)
วิธีการทำกรีกโยเกิร์ต
วิธีการทำ Greek Yogurt นั้นไม่ยากอย่างที่คิด เราสามารถทำได้เองที่บ้านง่าย ๆ โดยขั้นตอนการทำเริ่มต้น ก็จะเป็นวิธีเดียวกันกับการทำโยเกิร์ตแบบทั่วไปเลย คือ การต้มนมด้วยความร้อนสูง จากนั้นลดอุณหภูมิลงมาในระดับที่สามารถเพาะเชื้อแบคทีเรียได้ ก่อนจะนำหัวเชื้อใส่เข้าไปหมักให้นมบูด อย่างที่เราคุ้นหู
เมื่อได้โยเกิร์ตแล้วขั้นตอนนี้ก็คือ ขั้นตอนที่จะเปลี่ยนโยเกิร์ตธรรมดาให้กลายร่างเป็น กรีกโยเกิร์ต ซึ่งวิธีการทำก็คือ การนำโยเกิร์ตเนื้อเหลวมากรองเอาน้ำออก
ซึ่งวิธีบ้าน ๆ ที่เพื่อน ๆ สามารถทำได้ง่าย ๆ คือการใช้ผ้าขาวบาง กรองของเหลวออกจากตัวโยเกิร์ต โดยสามารถทิ้งไว้ข้ามคืน จนกว่าหางโยเกิร์ต และของเหลว จะกรองออกมาจนหมด เมื่อเนื้อโยเกิร์ตเริ่มแห้ง เราก็จะได้กรีกโยเกิร์ตที่มีเนื้อเหนียวเข้มข้นแล้ว
การทำ Greek Yogurt จะใช้เวลามากกว่า โยเกิร์ตปกติถึงสองเท่า และต้องใช้โยเกิร์ตปกติในปริมาณมาก เพื่อที่จะได้กรีกโยเกิร์ต 1 ถ้วย นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไม กรีกโยเกิร์ต หรือ โยเกิร์ตแบบเข้มข้น ถึงราคาแพงกว่าโยเกิร์ตปกติทั่วไปนั่นเอง
กรีกโยเกิร์ต VS. โยเกิร์ต
แม้ว่ากรีกโยเกิร์ต และโยเกิร์ตทั่วไป จะมีส่วนประกอบมาจาก นม และ แบคทีเรียที่ดีต่อร่างกายเหมือนกัน แต่สารอาหารที่มีในโยเกิร์ตทั้งสองชนิดนั้นไม่เหมือนกัน เพราะกรรมวิธีและขั้นตอนในการผลิตของโยเกิร์ตทั้งสองประเภทมีความต่างกัน จึงส่งผลให้คุณประโยชน์ของโยเกิร์ตทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกันตามไปด้วย
- กรีกโยเกิร์ตมี โปรตีน มากกว่า โยเกิร์ตทั่วไปเป็นเท่าตัว เนื่องจากน้ำน้อยลง และมีปริมาณนมที่มากกว่า
- กรีกโยเกิร์ตมี คาร์โบไฮเดรต น้อยกว่า โยเกิร์ตทั่วไปถึงครึ่งหนึ่ง เพราะขั้นตอนการทำกรีกโยเกิร์ต จะถูกกรองเวย์และของเหลวออกไป ทำให้น้ำตาลแลคโตสถูกกรองออกไปด้วย จึงทำให้กรีกโยเกิร์ตมีน้ำตาลน้อยกว่าโยเกิร์ตธรรมดา แต่ยังคงวิตามินที่แน่นๆเหมือนเดิม
- กรีกโยเกิร์ตมีปริมาณ น้ำตาลและแป้ง ต่ำกว่า โยเกิร์ตธรรมดา จึ่งทำให้ทานแล้วอิ่มเร็ว ช่วยลดความอยากอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องควบคุมอาหาร
- โยเกิร์ตธรรมดามี แคลเซียม มากกว่า และมี แคลอรี่ น้อยกว่า แต่กรีกโยเกิร์ตมี น้ำตาล น้อยกว่า และ โปรตีน มากกว่า กรีกโยเกิร์ตจึงดีต่อสุขภาพมากกว่าโยเกิร์ตธรรมดา หากต้องการทานโยเกิร์ตเพื่อสุขภาพระยะยาว
ประโยชน์ของกรีกโยเกิร์ต
1. แก้ท้องผูก
กรีกโยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้ จึงสามารถช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นได้
2. ช่วยรักษาเชื้อราในช่องคลอด
กรีกโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ ที่สามารถช่วยกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ที่เกิดจากเชื้อราต่าง ๆ ได้ การรับประทานกรีกโยเกิร์ตทุกวันจะช่วยลดการติดเชื้อราได้ถึง 3 เท่า และยังช่วยรักษาช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา และแบคทีเรียได้อีกด้วย
3. ควบคุมน้ำหนัก
กรีกโยเกิร์ตมีปริมาณแป้ง และน้ำตาลต่ำกว่าโยเกิร์ตแบบธรรมดา แถมให้แคลอรีต่ำ เหมาะสำหรับผู้เป็นเบาหวาน หรือกำลังควบคุมน้ำตาล
4. เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
ในกรีกโยเกิร์ตอุดมไปด้วยแคลเซียม ที่ส่งเสริมให้ร่างกาย และกระดูกแข็งแรง ยิ่งหากกินควบคู่กับการออกกำลังกายไปด้วย จะยิ่งเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น
5. ช่วยลดกลิ่นปาก
การรับประทานกรีกโยเกิร์ตเป็นประจำ สามารถช่วยลดระดับไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก และลมหายใจที่เหม็นได้
กรีกโยเกิร์ต ควรกินตอนไหนดี
- ตอนเช้า
กินโยเกิร์ตในช่วงเช้าตอนท้องว่าง จุลินทรีย์ชนิดดีและโพรไบโอติกส์จะเข้าไปจัดระเบียบบรรดาสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ ภายในกระเพาะอาหารและลำไส้ แถมกินตอนท้องว่าง ร่างกายก็จะสามารถดูดซึมประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ด้วยละ
- ตอนกลางวัน
จุลินทรีย์ชนิดดี และโพรไบโอติกส์จะช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในระบบลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานเบาลง และส่งผลให้สุขภาพโดยรวมของร่างกายดีขึ้นด้วย
- ตอนเย็นหรือช่วงค่ำ
ช่วยย่อยระบบอาหาร ในโยเกิร์ตมีโพรไบโอติกส์ แบคทีเรียชนิดดีต่อลำไส้และระบบย่อยอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ตอนก่อนนอน
ช่วยส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกง่วงนอน เพราะในโยเกิร์ตมีทริปโตเฟน กรดอะมิโนที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกง่วงนอน และทริปโตเฟนยังจะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับง่ายกว่าเดิมนั่นเอง
กรีกโยเกิร์ต กินกับอะไรดี
Greek Yogurt มักจะมีรสชาติที่จืด ไม่หวาน แต่เราสามารถเพิ่มความอร่อยให้กับกรีกโยเกิร์ตได้ด้วย การรังสรรค์ กินคู่กับกับวัตถุดิบอื่น ๆ ได้อีกมากมาย เพื่อเพิ่มความอร่อยและเพลิดเพลินกับการกินมากขึ้น แถมยังสุขภาพดีอีกด้วย จะทานคู่กับอะไรได้บ้าง ไปดูกัน!
ผลไม้
นำกรีกโยเกิร์ตมากินคู่กับ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ หรือผลไม้หาง่ายอย่าง ส้ม กล้วยหอม หรือธัญพืชต่างๆ เพื่อกินเป็นของกินเล่น หรือกินเป็นมื้อเช้าก็ช่วยคลายหิวได้ดี
สมูทตี้
นำกรีกโยเกิร์ตมาทำสมูทตี้ โดยผสมกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และเติมความหวานด้วยน้ำผึ้งเพียงเล็กน้อย ก็จะได้สมูทตี้สุดอร่อย ที่ช่วยดับกระหาย และยังสามารถดื่มเป็นของว่างในช่วงระหว่างวันได้อีกด้วย
ขนมปัง
นำกรีกโยเกิร์ตมาทาบนขนมปัง หรือแครกเกอร์ แล้ววางท็อปปิ้งด้วยผลไม้ เพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการครบครัน แถมยังช่วยแก้หิวระหว่างวันได้ด้วย
เป็นยังไงกันบ้างกับเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ กรีกโยเกิร์ต ที่ Hungry Hub หยิบเอามาฝากกัน ได้รู้ถึงวิธีการทำ และคุณประโยชน์ของมันแล้ว ก็อย่าลืมไปหามาลองกิน หรือถ้าใครว่าง ๆ กำลังอยากหาอะไรมาลองทำ ทำกรีกโยเกิร์ตไว้กินเองก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกันนะ
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย