ใครที่ยังติดอยู่ในควันหลงของฟุตบอลโลกอยู่บ้างไหมเอ่ย? กับการได้เชียร์ทีมโปรดให้ไปถึงฝั่งฝัน ทั้งลุ้น ทั้งมันส์ บอกเลยว่ามาถูกที่แล้ว เพราะวันนี้ Hungry Hub จะพาไป รีวิว The Big Board สปอร์ตบาร์ Digital Investment แห่งแรกของประเทศไทย ที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กับบรรยากาศที่ล้ำสมัย และสนุกสนาน กับโซนต่าง ๆ มากมาย ให้ได้แฮงค์เอ้าท์กับชาวแก๊งกันแบบเต็มสูบ ตอบโจทย์สไตล์ของคนยุคใหม่โดยเฉพาะ เอาเป็นว่า อย่ามัวแต่รอช้าไปดูพร้อมกันเลยดีกว่า
วิธีการเดินทางมาร้าน The Big Board
โดยอย่างแรกที่เราจะขอพูดถึง คือการเดินทาง โดย The Big Board จะตั้งอยู่ภายในตึกมหานครคิวบ์ ชั้นที่ 5 งานนี้ไม่ต้องกลัวรถติดเพราะสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS สายสีลม มาลงที่สถานีช่องนนทรีได้เลย ส่วนใครอยากเสพบรรยากาศสบาย ๆ ก่อน ก็มีรถเมล์ผ่านหลายสาย อาทิ 15, 16, 162, 77, 187, 34 เป็นต้น หรือ BRT สายสาทร–ราชพฤกษ์ ก็ได้เช่นกัน พอมาถึงแล้วก็สามารถเดินเข้าตึก แล้วกดลิฟต์ขึ้นไปชั้น 5 ได้เลย
ส่วนหน้าตาของมหานครคิวบ์ก็จะเป็นแบบนี้ ตึกใหญ่ใหญ่เบ้อเริ่ม ติด BTS ไม่มีหลงแน่นอน
สปอร์ตบาร์ที่ต้อนรับผู้มาเยือนตั้งแต่ก้าวแรก
แค่เปิดมาก็ได้ตื่นตาตื่นใจกันแล้ว ด้วยสปอร์ตบาร์ที่ไม่เหมือนใคร อย่างโซน Exchange Bar มีมุมสำหรับนั่งดื่มแบบชิว ๆ กับเหล่าจอ LED สำหรับตกแต่งให้เข้ากับความเป็นยุคสมัยใหม่ ที่ไม่ได้มีไว้ประดับเฉย ๆ แต่สามารถใช้งานได้จริง สามารถดูการเคลื่อนไหวของกระดานหุ้น และคริปโตเคอเรนซี่ได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังสามารถรับชมการถ่ายทอดสดกีฬาได้ด้วย ดื่มไป เชียร์ไป แบบฟิน ๆ
บรรยากาศภายในร้าน
ภายในร้าน The Big Board จะตกแต่งด้วยเหล่าไฟ LED หลากสี ที่เป็นการนำเสนอความเป็นยุคสมัยใหม่ของร้านได้เป็นอย่างดี ซึ่งในโซนของ Networking Table จะเป็นพื้นที่สำหรับการประชุม Co-working space คุยแลกเปลี่ยนเรื่องธุรกิจกัน โดยตลอดโถงทางเดินจะประดับประดาไปด้วย จอหลากหลายขนาด เพื่อให้เราได้ติดตามทั้งหุ้น และ คริปโตเคอร์เรนซี กันแบบใกล้ชิด รวมถึงยังมีกิจกรรมให้ได้สังสรรค์ผ่อนคลายได้อีกด้วย
ถัดมาเป็นโซน Terrace ที่อยู่ติดกับโถงทางเดิน แค่เปิดประตูก็จะถึงทันที โดยจะเป็นโซนสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ ดื่มค็อกเทล ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดสวยงามของตึกมหานคร แบบชิว ๆ ส่วนใครที่ชอบถ่ายรูป บอกเลยว่ามุมนี้เด็ด รับรองเลยว่าถ่ายออกมาแล้วดูดี อวดเพื่อนได้แบบปัง ๆ
อีกหนึ่งโซนสำหรับการผ่อนคลายโดยเฉพาะ อย่างโซน Game Arcade ที่รวบรวมความบันเทิงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตู้เกมคริปโต โต๊ะวิสกี้ปอง นิทรรศการ NFT ที่หมุนเวียนไม่ซ้ำหน้าตลอดทั้งปี แบบไม่มีเบื่อ จังหวะนี้มีเพื่อนชวน มีแฟนชวนแฟน แล้วไปสนุกกันได้เลย
มาสู่โซนหลักของร้าน ในโซน Stadium โซนที่สามารถจุคนได้กว่า 100 คน มาพร้อมจอโปรเจคเตอร์ขนาด 200 นิ้ว ที่ให้ได้รับชมการถ่ายทอดกีฬาจากทั่วโลก ให้เชียร์กันแบบมันส์ ๆ นอกจากนี้ ในวันที่ไม่มีการถ่ายทอดสด ก็ยังคงสร้างความเพลิดเพลินกันต่อด้วย ดนตรีสด และบูธดีเจ บอกเลยว่าหมดห่วงเรื่องความสนุก เพราะที่นี้มีครบตอบโจทย์ทุกความต้องการ
นอกจากโซนเหล่านี้แล้ว ทางร้านก็ยังมีโซนอื่น ๆ สำหรับรองรับ ไม่ว่าจะเป็น โซน Game Arcade ที่รวบรวมความบันเทิงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตู้เกมคริปโต โต๊ะวิสกี้ปอง นิทรรศการ NFT ที่หมุนเวียนมาแสดงตลอดทั้งปี, Private Lounge และมุม VIP ให้ได้เลือกกันตามใจชอบ
เมนูอาหารแนะนำ ที่ต้องไปลอง
ส่วนที่สำคัญที่ขาดไม่ได้กับบาร์บรรยากาศดี ก็คืออาหารและเครื่องดื่ม ที่จะช่วยให้เป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ โดย The Big Board จะเสริ์ฟเมนูแนวอาหารฟิวชั่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Fun, Rage, Grunge” รังสรรค์โดยเชฟมากฝีมือ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ขอบอกก่อนว่าเด็ดทุกเมนู รสชาติจัดเต็ม แต่ละเมนูจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลย
1. สามชั้นทอดน้ำปลา (Thai Style Fried Belly)
ประเดิมกันด้วยเมนูแรกกับ สามชั้นทอดน้ำปลา เมนูง่าย ๆ ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันในชื่อ หมูกรอบ ที่เรียกได้ว่าเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี โดยทางร้านเสิร์ฟเป็นหมูกรอบที่ทอดด้วยน้ำปลา หอม หนังกรอบ เนื้อนุ่ม ชิ้นเล็กกำลังดี เพิ่มความอร่อยได้ด้วยน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ด ทานกันแบบเพลิน ๆ ไปเลย
2. นาโชว์ไก่ (Baked Nachos & Chicken Salsa)
ยังคงอยู่กับอีกหนึ่งเมนูทานเล่น กินสบายคลายหิว นาโชว์ไก่ ที่เป็นนาโชว์กรอบ ท็อปปิ้งด้วยเนื้อไก่คุณภาพดี เสริมรสเผ็ดด้วยพริกขี้หนู และรสเปรี้ยวด้วยการบีบมะนาว ทำให้เป็นเมนูที่มีรสชาติจัดจ้าน เผ็ดเปรี้ยวถึงใจ พอทานไปแล้วเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี
3. หมูมะนาว (Thai Spicy Pork Salad)
ต่อกันด้วยเมนูจานเด็ด เอาใจคนชอบความแซ่บ หมูมะนาว เมนูสลัดหมูปรุงรสด้วยมะนาวและพริก ที่เป็นผสมผสานรสชาติความเผ็ดและเปรี้ยว เข้ากับเนื้อหมูนุ่มละมุน ได้อย่างลงตัว รวมถึงมีความหอมจากเม็ดมะพร้าว บอกเลยว่าถ้าได้ทานพร้อมกับเครื่องดื่มดี ๆ ฟินแน่นอน ห้ามพลาดเด็ดขาด
4. สปาเก็ตตี้ สไปซี่เบคอน (Spaghetti Spicy Bacon)
ถึงคราวเมนูเส้น ๆ กันบ้างกับ สปาเก็ตตี้ สไปซี่เบคอน เมนูสปาเก็ตตี้ จากอิตาลี ที่ผัดพร้อมกับเบคอน ปรุงรสชาติให้ออกไปทางเผ็ด ที่บอกเลยว่าทุกคำที่ได้ทาน รสชาติกลมกล่อม เผ็ดเบา ๆ กำลังดี หอมกลิ่นของเบคอนที่ทอดใหม่สด ๆ เนื้อนุ่ม อร่อยถูกปาก รับรองไม่ผิดหวัง
5. สเต็กพอร์คชอป (Grilled Pork Chop)
ใครที่ชอบสเต็กห้ามพลาดกับ เสต็กพอร์คชอป เมนูสเต็กเนื้อหมูส่วนติดกระดูก ที่ทางร้านได้หมักด้วยสูตรพิเศษเฉพาะตัว พร้อมด้วยเทคนิคการปรุงชั้นเยี่ยม ที่ทำให้เนื้อหมูมีความสุกกำลังดี ไม่แห้งจนเกินไป พร้อมกับปรุงแต่งรสด้วยเกลือดและพริกไทยดำ บอกเลยว่าอร่อย นุ่มลิ้น เคี้ยวเพลิน หอมกลิ่นพริกไทยและเนย โดนใจคนชอบเสต็กสุด ๆ
6. ไก่ย่างครึ่งตัว 180 องศา (18O Degree Roasted Half Grilled Chicken)
ถ้าเบื่อเมนูหมู ไม่ต้องห่วงทางร้านมีทางออก ไก่ย่างครึ่งตัว 180 องศา ที่ทำจากไก่คุณภาพดี และผ่านการรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน ทำให้ตัวไก่มีหนังที่กรอบ และเนื้อข้างในที่เนื้อแน่น นุ่ม พร้อมกับความหอมจากเครื่องเทศนานาชนิด เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด อร่อยตัวบิดแบบ 180 องศา
7. ยำไส้กรอกเยอรมัน (Spicy Sausage Salad)
เพิ่มเติมความจัดจ้านกันต่อ กับ ยำไส้กรอกเยอรมัน เมนูที่ผสมผสานระหว่างสองประเทศได้อย่างลงตัว กับวัตถุดิบหลักอย่างไส้กรอกเยอรมัน ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นสุดยอดไส้กรอก ให้เข้ากับวิธีการทำอาหารยำแบบไทย ๆ ซึ่งทำให้จานนี้มีรสชาติที่จัดจ้าน แซ่บถึงใจ หอมกลิ่นไส้กรอก เนื้อแน่น ต้องลองจริง ๆ
8. เบอร์เกอร์เนื้อวากิว (Wagyu Beef Burger)
คงเป็นร้านอาหารฟิวชั่นไม่ได้ ถ้าขาดจานนี้ เบอร์เกอร์เนื้อวากิว กับเบอร์เกอร์ขนาดพอดีคำ แป้งนุ่ม ชีสเพิ่มเติมรสชาติและกลิ่น รวมกับเนื้อวัววากิว เนื้อวัวคุณภาพนำเข้า ที่เราสามารถเลือกระดับความสุกได้ตามใจชอบ บอกเลยว่าเนื้อแน่น นุ่มละมุน อีกทั้งยังเสิร์ฟพร้อมเฟรนฟรายขนาดกำลังดี กรอบนอก นุ่มใน
9. ชูโรสกับช็อกโกแลตดิป (Churros & Chocolate Dip)
ขอปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน กับ ชูโรสกับช็อกโกแลตดิป อาหารหวานรูปร่างแท่งยาวยอดฮิตจากประเทศสเปน โดยตัวชูโรสจะทอดใหม่กรอบนอกนุ่มใน มีกลิ่นหอม น่ารับประทาน เสิร์ฟพร้อมช็อกโกแลตดิปสุดเข้มข้น หวานกำลังดี จะจิ้มก็อร่อย ไม่จิ้มก็อร่อย เป็นเมนูของหวานตบท้ายที่พิเศษมาก ๆ
นอกจากเมนูอาหารแล้ว ทางร้านก็มีเครื่องดื่มเด็ด ๆ มากมาย ให้ได้เลือก แต่จะขอแนะนำเป็นพิเศษกับ Fever Tree Mediterranean Tonic โดยจะเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติเปรี้ยวกำลังดี ที่มาพร้อมความพิเศษกับความหอมจากใบเตย ที่ทำให้เป็นเครื่องดื่มที่โดนเด่นกว่าใคร บอกเลยว่าต้องลอง
สำหรับใครที่อ่าน รีวิว The Big Board หรือสนใจสปอร์ตบาร์ ไว้สำหรับเที่ยวมันส์ ๆ กับเพื่อน ก็ต้องบอกเลยว่ามีโปรโมชั่นจะมาแนะนำให้ ที่สามารถจองได้ที่ Hungry Hub ทั้ง
- Party Pack : Casual Sharing Set for 3 Persons เซ็ตเมนู 6 เมนู พร้อมเครื่องดื่ม 1 แก้วต่อท่าน ราคาเพียง 2,090 บาท/แพ็ค เหมาะมากสำหรับแฮงเอ้าท์กับเพื่อน
- หรืออยากจะไปเสพบรรยากาศของร้านแบบคนเดียว ต้องแพ็คนี้ All You Can Eat : Standard Buffet บุฟเฟ่ต์ไม่อั้น พร้อมเครื่องดื่ม 1 แก้ว เพียง 790 บาท/ท่าน ให้ทานกันแบบจุใจ ฟังดนตรีสดแบบเพลิน ๆ
ส่วนร้าน The Big Board จะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 17:30 น. – 23:45 น. ใครอยากมันส์พร้อมอาหารเด็ด ๆ ก็ตามกันไปได้เลย
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่
- 10 ร้านอาหารหรู บรรยากาศดี กรุงเทพ ที่ต้องไปลองสักครั้ง (อัพเดต 2023)
- รีวิว E-Gokart x Praya Bar Rooftop ชวนตี้ลุยสนามโกคาร์ทไฟฟ้า พร้อมดินเนอร์บนรูฟท็อปสุดปัง
- รีวิว Classic Room Cafe & Dining ฟังแจ๊สแบบชิวๆ ในบรรยากาศสุดคลาสสิค
- รีวิว Zeta Cafe โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ บุฟเฟ่ต์โรงแรม อร่อยไม่ซ้ำสไตล์ ใจกลางกรุง