ในย่านพร้อมพงษ์เต็มไปด้วยร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย แต่ถ้าจะให้แนะนำร้านอาหารฟิลดีๆ ที่มาพร้อมกับกลิ่นอายของบรรยากาศสไตล์บูทีค ดนตรีแจ็สคลอเบาๆ อาหารนานาชาติและกาแฟตุรกีที่หาทานได้ยาก วันนี้จะพาไปสัมผัสกับ Shaloba Eatery ร้านอาหารแนวโฮมคุกกิ้งสไตล์บูทีคที่จะทำให้ทุกคนหลงไหลไปกับมนต์เสห่น์ที่หาจับตัวได้ยาก
สำหรับ Shaloba Eatery หรือ ชาโบบา อีทเทอรี่ เป็นร้านอาหารสไตล์บูทีค โดยมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ 1988 จากที่ผู้ที่หลงไหลในรสชาติ และกลิ่นของกาแฟ โดยคำว่า Shaloba มีความหมายของสองคำระหว่างคำว่า “ชลอ” ในภาษาไทยและ สโลว์ (Slow) ในภาษาอังกฤษ
ตำแหน่งของร้านจะตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 ห่างจากห้างสรรพสินค้า Emporium ประมาณไม่เกิน 100 เมตร สามารถเดินทางได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการขับรถส่วนตัวมาจอดที่หน้าร้าน (ที่จอดสามารถจอดได้ประมาณ 3-4 คัน) หากมากกว่านั้นจะต้องไปจอดที่ชั้นจอดรถของตัวห้าง ที่จะสามารถจอดได้ฟรี 2 ชั่วโมง หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือการนั้งรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวมาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วลงที่ทางออก 2 จากนั้นเดินเข้ามาไม่กี่เมตร ก็จะพบกับตัวร้านได้ด้วยเช่นเดียวกัน
เมื่อเข้ามาภายในร้านแล้ว ก็จะพบกับโซนแรกที่จะเรียกกันว่า Shaloba Boutique Coffee ซึ่งเป็นโซนที่ทำกาแฟในแบบตุรกีคอฟฟี่ (Turkish Coffee) เจ้าแรกๆของประเทศไทย ที่จะชงภายใต้ทรายร้อนในอุณหภูมิ 210 – 220 องศาที่ถูกนำปรับโฉมให้มีความโมเดิร์นขึ้น ผ่านกระบวนการรังสรรกาแฟที่เต็มไปด้วยความพิถีพิถันตั้งแต่การคั่ว การเลือก Taste Note เฟลเวอร์รสชาติที่ชัดเจน พร้อม Cofftea หรือกาแฟผสมชา ซึ่งเป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ของสไตล์กาแฟของที่ร้านอื่นๆจะไม่มี เหมาะสำหรับใครที่อยากจะลองสัมผัสรสชาติใหม่ๆ
เมนูเครื่องดื่มและของหวาน ก็มีให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น Before Sunrise คอฟทีจากเอทิโอเปีย ที่มีส่วนผสมของเบอร์กามอต เบอรรี่ และสมุนไพร ที่ให้รสชาติที่ละมุน และมีความเปรี้ยวจากเบอรี่ หรือ Butter Scotch กาแฟ Exotic จาก Masaguara ฮอนดูรัส ที่จะได้รสชาติที่หวานหอมแบบครีมมี่จากวานิลลา มิลค์ช็อกโกแล็ต และวิสกี้
เดินเข้ามาอีกหน่อย ก็จะพบกับ Shaloba Eatery ซึ่งเป็นเหมือนกับอีกมุมแห่งความลับที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบและธรรมชาติโดยรอบ ที่ผสมผสานกลิ่นอายของสัฒนธรรมหลากหลายรูปแบบไว้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งแบบโมเดิร์นสุดเรียบหรู รวมไปถึงดนตรีแจีสที่จะเปิดคลอๆ ตลอดทั้งวันเพื่อให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษที่จะทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มได้อย่างไม่ยากเย็น
หากใครที่อยากจะมานั่งฟังดนตรีสด ตั้งแต่เวลาสองทุ่ม จนถึงเวลาปิดร้าน ของวันพฤหัส ศุกร์ และเสาร์ ก็จะเป็นช่วงที่มีดนตรีสดที่จะเล่นภายในร้าน โดยลิสท์ของแต่ละเดือนนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปเช่นในบางวันก็จะมีนักร้องจาก The Voice มาขึ้นแสดง หรือ ในบางวันก็จะมาในรูปแบบ Full Band ซึ่งก็สามารถติดตามได้จากแฟนเฟจของ Shaloba Eatery ได้โดยตรง
พูดถึงในด้านของเมนูอาหารนั้นก็จะผสมผสานกลิ่นอายของหลากหลาย รสชาติและวัฒนธรรมไว้อย่างลงตัว ด้วยเมนูในรูปแบบโฮมคุกกิ้ง (Home Cooking) ที่มีให้เลือกทานทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติกว่า 30 รายการ ซึ่งก็เป็นการการันตีว่านอกจาก Shalobar จะโดดเด่นในด้านของกาแฟแล้ว ในด้านของอาหารก็ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน
เริ่มต้นกันด้วย พาสต้าผัดกุ้งแม่น้ำพริกมันกุ้ง (Linguine With River Prawn And Chilli Paste) ที่เลือกใช้กุ้งแม่น้ำสดๆ ไซส์ใหญ่กำลังพอดี นำมาผัดกับเส้นแบบลิงกวิเน ซึ่งเป็นเส้นพาสต้าแบบแบน และมันกุ้งจึงทำให้รสชาติออกมีความเป็นไทยผสมกับความเป็นอินเตอร์ คนไทยและต่างชาติที่เข้ามาทานก็ต่างชื่นชอบ
เนื้อสันในแล่บางเสิร์ฟพร้อมซอสพอนซึ และมัสตาร์ด (Cold Grilled Sliced Tenderloin With Ponzu And Mustard Vinaigrette) เป็นเมนูที่เลือกใช้เนื้อส่วนสันใน นำไปย่างจนด้านนอกมีความเกรียม ด้านในจะมีความดิบๆ อยู่บ้าง แล้วนำไปแล่บางๆ เป็นแผ่นเวลาทานให้ทานคู่กับน้ำจิ้มพอนซึ มัสตาร์ด บีทรูท และแตงกว่าดอง จะได้ทั้งความนุ่มและรสชาติที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
หรืออย่างพอร์คชอปซอสเห็ดเสิร์ฟพร้อมมันบด (Pork Chop In Creamy Mushroom Sauce With House Mashed Potato) เป็นเมนูแนวสเต็ก ที่เลือกนำเนื้อหมูสันนอกติดกระดูกนำไปย่างและอบจนหอม ก่อนที่จะราดด้วยซอสเห็ดสูตรเฉพาะแล้วตามมาด้วยซีสพาเมซาน และทานคู่กับมันบด
ส่วนใครที่อยากลิ้มลองเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์ ที่ร้านก็มีโซน Shalobar Barroom โซนบาร์นั่งสบายๆ พร้อมเบาะฟูกนุ่มๆ ประดับด้วยโคมไฟรังผึ้งและแชนเดอเลียร์ที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มให้เลือกสั่งอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสปาร์คกลิ้ง แชมเปญ โรเซ่ ค็อกเทล และซอฟต์ดริงก์ เป็นต้น
และนี้ก็คือ Shaloba Eatery ร้านอาหารโฮมคุกกิ้งสไตล์บูทีค พร้อมกับสวรรค์ดนตรีแจ็สในพร้อมพงษ์ หากใครที่อยากจะมาลองสัมผัสตอนนี้ก็มีโปรโมชั่นร่วมกับ Hungry Hub แล้ว กับแพ็กเกจ Party Pack ในราคาสุดพิเศษ ที่สามารถเลือกเมนูอาหารแล้วสั่งเป็นเซ็ต โดยที่จ่ายในราคาที่คุ้มมากกว่า เริ่มต้นเพียง 583 บาทต่อท่านเท่านั้น
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่