ใจกลางความวุ่นวายของย่านอโศก ยังมีมุมสงบที่เปี่ยมไปด้วยรสชาติแห่งความสุขรอให้คุณมาสัมผัส วันนี้ Hungry Hub จะพาเปลี่ยนบรรยากาศมาลิ้มลองบุฟเฟต์นานาชาติระดับ 5 ดาวที่ Orchid Cafe (ออร์คิด คาเฟ่) ณ โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น L ของโรงแรม บรรยากาศภายในร้านถูกตกแต่งอย่างหรูหราด้วยพรมสีน้ำเงินลายดาว ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้และเบาะนุ่มนั่งสบาย ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมาะแก่การพาครอบครัวหรือคนรู้ใจมาทานมื้อพิเศษ และเพื่อให้เห็นภาพความอลังการของไลน์อาหาร เราจะขออาสาพาคุณเดินสำรวจเจาะลึกไปทีละสเตชั่นกัน
5 สเตชั่น Orchid Cafe บุฟเฟต์นานาชาติพรีเมียมใจกลางอโศก
Station 1: International Buffet & Salad Bar

เริ่มสตาร์ทความอร่อยกันที่จุดศูนย์กลางของร้านกับสเตชั่นบุฟเฟต์นานาชาติ โซนนี้เปรียบเสมือนด่านแรกที่รวบรวมความหลากหลายจากทั่วโลกไว้ในที่เดียว โดดเด่นด้วยชีสบอร์ดขนาดใหญ่ที่มาพร้อมเครื่องเคียงครบครัน ให้คุณได้เลือกจับคู่ความอร่อยได้ตามใจชอบ ข้างกันนั้นมีมุมอาหารอิตาเลียนทานเล่น ข้าวบิริยานีหอมเครื่องเทศ และเมนูยอดนิยมอย่างปลาแซลมอนปรุงรส นอกจากนี้ยังมีมุมสลัดบาร์สำหรับสายสุขภาพที่มีผักสดใหม่หลากหลายชนิด ให้คุณได้ปรุงสลัดจานโปรดเพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนเข้าสู่จานหลัก
Station 2: Show Kitchen & BBQ Station

ถัดมาเป็นสเตชั่นที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่าง Show Kitchen ครัวเปิดที่เชฟพร้อมโชว์ฝีมือปรุงอาหารให้ชมกันแบบสดๆ ไฮไลต์ของโซนนี้คือความหลากหลายที่เลือกได้เอง เริ่มตั้งแต่มุมก๋วยเตี๋ยวและมุมพาสต้าที่คุณสามารถเลือกเส้นและซอสที่ถูกใจได้ตามต้องการ แต่สิ่งที่ห้ามพลาดเด็ดขาดคือโซนบาร์บีคิว ที่มีทีเด็ดอย่างมิโสะแซลมอนย่างหอมๆ และเนื้อวัวเกรดพรีเมียม หากคุณมาในวันธรรมดาจะได้ลิ้มรสเนื้อ Striploin นุ่มชุ่มฉ่ำ แต่ถ้าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ทางร้านจะยกระดับความพิเศษด้วยเนื้อ Prime Rib Australian ชิ้นโตที่ย่างมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Station 3: Main Course Rotation

ขยับมาที่สเตชั่นอาหารจานร้อน (Main Course) ซึ่งมีความพิเศษตรงที่เมนูจะถูกสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปในแต่ละวันเพื่อสร้างความแปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสไตล์ตะวันตก อาหารไทย หรืออาหารอินเดีย ตัวอย่างเมนูเด็ดที่เราได้ลองมีทั้งเบคอนพันเทนเดอร์ลอยน์ในซอสเห็ดรสกลมกล่อม ไก่ย่างซอสส้มที่ให้ความสดชื่น และซีฟู้ดเทอร์มิดอร์อบชีสเยิ้มๆ ส่วนใครที่ชื่นชอบเครื่องเทศ ต้องมาลองฝีมือเชฟชาวอินเดียที่ประจำการอยู่ที่นี่ รับประกันว่ารสชาติเข้มข้นถึงเครื่องต้นตำรับแท้ๆ แน่นอน
Station 4: Japanese & Seafood on Ice


มาถึงสเตชั่นขวัญใจมหาชนกับมุมอาหารญี่ปุ่นและซีฟู้ด เริ่มกันที่ซูชิบาร์ที่มีเชฟมายืนแล่ปลาและปั้นซูชิให้แบบคำต่อคำ มีครบทั้งซูชิหน้าต่างๆ ซาชิมิสดหวาน และมาคิโรล เชื่อมต่อไปยังสวรรค์ของคนรักทะเลกับ Seafood on Ice ที่จัดเต็มหอยนางรมพรีเมียมหลากสายพันธุ์ ทั้งฟิน เดอ แคลร์, ไอริชจากไอร์แลนด์, นอร์มังดีจากฝรั่งเศส และหอยนางรมจากนิวซีแลนด์ ความพิเศษยังไม่หมดเท่านี้ เพราะในมื้อ Lunch และ Dinner ของวันศุกร์และเสาร์ รวมถึง Dinner วันอาทิตย์ จะมีกองทัพปูอลาสก้าและปูม้า (Blue Crab) มาเสริมทัพความอลังการ พร้อมด้วยล็อบสเตอร์เนื้อเด้งที่เสิร์ฟให้คนละกึ่งตัวอีกด้วย
Station 5: Dessert Corner

ปิดท้ายการเดินสำรวจด้วยสเตชั่นของหวานที่ละลานตาจนเลือกไม่ถูก ที่นี่จัดเตรียมของหวานไว้มากกว่า 10 รายการเพื่อล้างปาก ทั้งโฮมเมดคุกกี้ พานาคอตต้าเนื้อเนียนนุ่ม ช็อกโกแลตมูสเข้มข้น เค้กบราวนี่ คาราเมลคัสตาร์ด ไปจนถึงขนมไทยอย่างกล้วยไข่เชื่อม นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมให้เลือกตักถึง 6 รสชาติ หรือจะเลือกทานขนมปังฝรั่งเศสคู่กับชาหรือกาแฟปิดท้ายมื้ออาหารก็ลงตัวที่สุด
และนี้ก็คือ 5 สเตชั่น Orchid Cafe ถือว่าทำได้ครบถ้วนและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายเนื้อ สายซีฟู้ด หรือสายหวาน ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับทุกสเตชั่นได้อย่างเต็มที่ ท่ามกลางบรรยากาศระดับ 5 ดาว ใครที่อยากมาสัมผัสประสบการณ์เดินตักความอร่อยแบบนี้ สามารถจองผ่าน Hungry Hub ได้เลย กับแพ็กเกจบุฟเฟต์สุดคุ้มเริ่มต้นเพียงคนละ 887 บาท เท่านั้น



