ระบบจองร้านอาหารของ Hungry Hub จะมีสถานะลูกค้าแสดงชัดเจน ทั้ง ลูกค้าที่กำลังมา (Pending) ลูกค้ามาถึงแล้ว (Arrived) ลูกค้ายกเลิก (Cancel) และ ไม่แสดงตัว หรือ No Show ซึ่งสถานะสุดท้ายเป็นสถานะที่ “ร้านอาหารควรลดให้เหลือน้อยที่สุดให้ได้” เพื่อไม่ให้ร้านเสียโอกาสขาย วันนี้ทีม Hungry Hub มีเทคนิคการป้องกันการเกิด No Show มาแนะนำให้กับเจ้าของร้านอาหาร
“No show (ไม่แสดงตัว) คือ การที่ลูกค้าจอง แต่ไม่มาใช้บริการ ลูกค้าไม่แสดงตัวภายในเวลา 30 นาที นับจากเวลาที่จองไว้ โดยไม่ได้แจ้งขอยกเลิกกับทางร้าน”
ทำอย่างไรจะป้องกันไม่ให้เกิด No Show
1.การโทรคอนเฟิร์ม
2.การเก็บเงินมัดจำล่วงหน้า
การเก็บเงินมัดจำล่วงหน้า เป็นอีกวิธีที่จะช่วยลดโอกาสในการที่ลูกค้าจะจองไว้เฉยๆ หรือจองแต่ไม่มาใช้บริการ จนทำให้เกิดเป็นสถานะ No Show เนื่องจากจะต้องมีการชำระเงินเข้ามาล่วงหน้า เพื่อช่วยรับประกันให้กับทางร้านว่าลูกค้าจะมาใช้บริการจริงๆ
เพราะบางร้านอาหารมีลูกค้าต้องการเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่ต้องเสียที่นั่งไปฟรีๆ จากการที่ลูกค้าจองแล้วไม่มา หรือในบางกรณี เช่น แพ็กเกจมีมูลค่าสูง ร้านอาหารมีโต๊ะจำกัด หรือเป็นแพ็กเกจพิเศษที่มีเฉพาะเทศกาลเท่านั้น ต่างก็ต้องการการันตีจากลูกค้าว่าจะใช้บริการจริงๆ
3.การทำแพ็กเกจพิเศษ แบบ non-refundable
เช่น จัดโปรโมชันราคาพิเศษ หรือเป็นโปรโมชันวัตถุดิบตามฤดู Seasonal ที่ต้องมีการเตรียมล่วงหน้าโดยเฉพาะ เป็นต้น ร้านอาหารหรือโรงแรมสามารถทำแพ็กเกจพิเศษที่ต้องจ่ายล่วงหน้าเต็มราคา แบบ non-refundable เนื่องจากเป็นโปรโมชันพิเศษ ก็จะช่วยลดโอกาสที่จะทำให้เกิด No Show ได้เหมือนกัน ถึงแม้จะเกิดกรณีที่ลูกค้าไม่มาใช้บริการกับทางร้านหรือโรงแรมก็ตาม ก็จะยังได้รายได้จากการจองนี้อยู่ เพราะลูกค้าไม่สามารถขอคืนเงินได้ทุกกรณี
4.การเพิ่มเงื่อนไขการคืนเงิน
หากมีการทำโปรมัดจำ โปรจ่ายล่วงหน้า ร้านอาหารควรแจ้งเงื่อนไขการคืนเงินโดยละเอียด เพื่อความชัดเจน และเพิ่มความยุ่งยากในการคืนเงิน เช่น หากลูกค้าไม่แสดงตัวจะไม่คืนเงินทุกกรณี, ถ้าหากต้องการยกเลิกจะต้องบอกล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันจึงจะได้รับเงินคืน หรือ การคืนเงินจะใช้เวลาดำเนินการคืนเงิน 7-14 วัน เป็นต้น จะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกค้า No Show ได้
ทำไมต้องลด No show ? จำเป็นไหม?
- เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการขาย เมื่อลูกค้าจองแล้วไม่มา ร้านอาหารก็ถือว่าเสียโต๊ะที่จะต้องขายได้ไปหนึ่งโต๊ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจมีลูกค้ารายอื่น ๆ ที่สนใจร้านอาหารของคุณ แต่ที่นั่งเต็มไปก่อนจึงทำการจองไม่ได้ แต่ในสถานการณ์จริง ลูกค้าที่ทำการจองกลับมาไม่มา ทำให้ร้านเสียโอกาสในการขายไป
- สามารถจัดการวัตถุดิบ สต๊อกได้ตามจริง เมื่อมีการจองล่วงหน้า ที่ระบุชัดเจนทั้งจำนวนคนและแพ็กเกจ ร้านอาหารจะสามารถจัดเตรียมวัตถุดิบเพื่อให้พอดีกับความต้องการได้ แต่หากลูกค้าไม่มาตามที่วางแผนไว้ อาจส่งผลต่อการจัดการหรือการเก็บรักษาวัตถุดิบได้
- วางแผนค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ข้อดีของการมีระบบจองโต๊ะ ร้านอาหารจะเห็นจำนวนการจองล่วงหน้า และสามารถคำนวณรายได้ และวางแผนค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้ แต่ถ้าหากลูกค้าไม่มาตามจริง จะทำให้ไม่สามารถทำตามแผนได้
- ป้องกันการลืมเปลี่ยนสถานะ โดยปกติ หากลูกค้าไม่มาตามเวลาจอง ร้านอาหารจะต้องเปลี่ยนเป็นสถานะจาก Pending Arrival เป็น No Show แต่อาจจะมีบางกรณีที่ร้านลืมเปลี่ยนสถานะ ซึ่งทุกการจองที่ยังอยู่ในสถานะ Pending Arrival (กำลังมา) เมื่อเลยเวลาการจอง 24 ชั่วโมง การจองนั้นจะถูกคำนวณเป็นค่าคอมมิชชัน แม้ว่าลูกค้าจะไม่มาก็ตาม
หากร้านอาหารมีคำถาม หรือต้องการความช่วยเหลือจากทีม Hungry Hub สามารถติดต่อได้ที่ Line: @hhrestaurant
หรือ หากร้านอาหารใหม่ สนใจอยากเข้าร่วม กับ Hungry Hub เพื่อเพิ่มโอกาส เพิ่มยอดขายให้ร้านของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> คลิก
อ่านบทความสำหรับผู้ประกอบการ ธุรกิจร้านอาหาร เพิ่มเติม
รีวิวร้านอาหาร กลยุทธ์ปั้นแบรนด์ จากร้านโนเนม สู่ร้านที่ไกลแค่ไหนก็ตามไปกิน!
ทำไม รีวิว ถึงสำคัญกับร้านอาหาร?
5 วิธีทำการตลาดสำหรับ ธุรกิจร้านอาหาร ฉบับง่ายและได้ผลจริง