เมื่อการท่องเที่ยวไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่คือการได้สัมผัสวัฒนธรรมในทุกมิติ หนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงสุดในช่วงนี้คือ “การท่องเที่ยวเชิงอาหาร” หรือ Gastronomy Tourism ที่กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยและวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดี ล่าสุด โรงแรม ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ก็ออกมาขานรับเทรนด์นี้แบบเต็มตัวด้วยแคมเปญใหม่สุดเก๋ Durian Decadent Afternoon Tea ที่นำ “ทุเรียนหมอนทอง” วัตถุดิบท้องถิ่นระดับซอฟต์พาวเวอร์ มาแปลงโฉมเป็นเมนูน้ำชายามบ่ายสุดหรู

ท่ามกลางมูลค่าตลาด Gastronomy Tourism ที่แตะระดับ 3.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะโตถึง 8 หมื่นล้านเหรียญภายในปี 2575 (CAGR 12.05%) ประเทศไทยกำลังยืนอยู่บนเส้นทางการเติบโตที่สดใสอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในปี 2567 ที่รายได้ธุรกิจโรงแรมจะอยู่ราว 9-9.6 แสนล้านบาท อัตราการเข้าพักและราคาห้องพักเฉลี่ยเริ่มกลับมาใกล้เคียงช่วงก่อนโควิด พร้อมกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งกว่า 17.5 ล้านคนในครึ่งปีแรก

และเพื่อตอบโจทย์นักเดินทางสายกินโดยเฉพาะ ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท จึงเปิดตัวเซตน้ำชายามบ่ายที่ทั้งแปลกใหม่และร่วมสมัย ด้วยการจับมือกับสวนทุเรียนระดับพรีเมียม Toby’s Farm จากจันทบุรี เป็นปีที่สอง เพื่อยกระดับ “ทุเรียนหมอนทอง” เกรดพรีเมียมที่มีรสชาติ กลิ่น และเนื้อสัมผัสที่ดีที่สุด ให้กลายเป็นประสบการณ์ทางอาหารที่ไม่ซ้ำใคร โดยภายในเซต Durian Decadent Afternoon Tea จะมีทั้งเมนูของหวาน 7 รายการ และของคาว 3 รายการ ที่รังสรรค์มาอย่างพิถีพิถันโดยทีมเชฟของโรงแรม


เริ่มกันด้วย 7 เซ็ตของหวานที่มีทั้ง สโคนทุเรียนกับแยมสับปะรด ที่ใช้ผงทุเรียนจากทุเรียนอบแห้งผสมลงในแป้งเค้ก ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มฟูแต่อบอวนด้วยรสชาติ หอมกลิ่นทุเรียนอันหอมละมุน เสิร์ฟคู่กับแยมสับปะรดเปรี้ยวหวานที่ช่วยเพิ่มมิติความสดชื่น ตามมาด้วย ซีสทาร์ตทุเรียน ที่ซ่อนความหวาน อร่อยละมุนลงไปในทาร์ตบางกรอบ ไส้ครีมซีสที่ผสานกับเนื้อทุเรียนเนียนนุ่ม ให้รสชาติหวานมันกำลังดี


ส่วนใครที่เป็น Cake Lover ต้องไม่พลาดกับ เค้กชิฟฟ่อนทุเรียน เนื้อเค้กฟูเบา หอมกลิ่นทุเรียนและกะทคั้นสดในทุกคำ ราดด้วยครีมวานิลลาให้ความหอมมันที่กลมกกล่อม ส่วนอีกหนึ่งในเมนูพิเศษอย่าง พานาคอตต้าทุเรียน ของหวานจากอิตาลีที่มีเนื้อนุ่ม เด้งละลายในปาก หอมกลิ่นทุเรียนแบบไม่เลี่ยน

เมนูคลาสสิกต่อไปนั้นก็คือ โคนข้าวเหนียวทุเรียน ที่นำข้าวเหนียวนุ่มๆ กับกะทิหอมมันมาเสิร์ฟคู่กับเนื้อทุเรียนที่สุกกำลังดีและโคนไอศกรีมกรุมกรอบ ถือว่าเป็นเมนูระดับตำนานที่นำของหวานมาประยุกต์เข้ากันได้อย่างลงตัวไม่ควรพลาดเลยทีเดียว


นอกจากนี้ยังมีอีก 2 เมนูที่เป็นของหวานที่มาพร้อมขนมที่คราฟต์จากผลไม้พรีเมียมที่ช่วยเติมเต็มความสดชื่น ไม่ว่าจะเป็นมูสเนื้อส้ม เนื้อเบาเปรี้ยวอมหวานจากส้มแมนดารีน เข้ากันได้ดีกับไวท์ช็อกโกแล็ต และ มาการองมะขาม ที่เปิดประสบการณ์แปลกใหม่ด้วยการผสมผสานความเปรีั้ยวหวานของมะขามกับความมันของช็อกโกแล็ตนม กลายเป็นรสชาติที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

ส่วน 3 เมนูของคาว จากทุเรียนและผลไม้พรีเมียมก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เริ่มด้วย ปอเปี๊ยซีสทุเรียน ที่ซ่อนความอร่อยของเซตดาร์ซีสและทุเรียนไว้ในแป้งปอเปี๊ยะที่นำไปทอดกรอบจนฟู ให้เนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบด้านนอกพร้อมกับซีสเยิ้มๆ สุดฟินด้านใน เมนูที่สองอย่าง แซนต์วิชซีลซ่าอะโวคาโด ที่นำความสดชื่นของอะโวคาโดไปผสมผสานกับความสดของมะเขือเทศและหอมแดงเสิร์ฟบนขนมปังไรย์นุ่มๆ และปิดท้าด้วย แครกเกอร์ยำส้มโอ ที่นำส้มโอพรีเมียมเนื้อหวานไปคลุกเคล้ากับหอมแดงโรยมะพร้าวคั่วหอมๆ บนแครกเกอร์สุดกรุบกรอบให้รสชาติถึงเครื่อง ถึงใจ


นอกจากเมนูของหวาน-ของคาว 7 อย่างที่ยกมาแบบจัดเต็ม ทางโรงแรมก็ยังได้รังสรรค์เครื่องดื่มทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ไม่ว่าจะเป็น สมูตตี้ทุเรียน เครื่องดื่มสมุนไพร ชาและกาแฟพรีเมียม พร้อมด้วยเจลาโต้ทุเรียนจาก คาเฟ่ บอนจอร์โน (Café Buongiorno) พร้อมเสิร์ฟมังคุดสดช่วยตัดเลี่ยนได้อย่างลงตัว

ใครที่อยากลองสัมผัสรสชาติของเมนูสุดพิเศษของ ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้เมืองร้อน เกรดพรีเมียมจาก Toby’s Farm ที่รังสรรค์ที่ โรงแรม ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ผ่าน Durian Decadent Afternoon Tea บอกได้เลยว่าต้องไปลองกันด่วนๆ เพราะว่าจะเสิร์ฟเฉพาะวันที่ 4 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม 2568 เท่านั้น ที่สำคัญสามารถจองได้ผ่าน Hungry Hub ในราคาสุดพิเศษเริ่มต้นเพียง 800 บาท และสามารถเติมไอศกรีมเจลาโต้และชากับกาแฟพรีไม่อั้น
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่
- ประโยชน์ของทุเรียน ผลไม้หน้าร้อน อร่อย มีดีกว่าที่เห็น
- 8 เมนูแนะนำ Giorgio’s Riverside อร่อยแบบระดับพรีเมียม สุดโรแมนติกริมแม่น้ำ
- Copper Beyond Buffet ฉลอง 9 ปี เตรียมเปิดเกมรุกครั้งใหญ่ จับมือกับ 2 แบรนด์ไทยระดับโลก
- รีวิว Mix Beef club & Restaurant BKK สเต็กเฮาส์พรีเมียม ดังจากเชียงใหม่ มาเยือนย่าน MBK แล้ว!