ช่วงนี้เทรนด์ Asoka Makeup กำลังมาแรง Hungry Hub ขอแนะนำ 10 ร้าน Fine Dining อาหารอินเดีย 2024 บรรยากาศดี มีความพรีเมียม รสชาติอร่อยถึงใจ เป็นร้านที่จะมอบมื้อแสนพิเศษสุดประทับใจให้ทุกคนที่มารับประทาน ร้านที่เรานำมาไม่ได้มีดีแค่อาหารเท่านั้น แต่คอนเซปต์ร้านยังว้าวมากอีกด้วย ถ้าอยากรู้ว่ามีร้านอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
10 ร้าน Fine Dining อาหารอินเดีย 2024 มื้อพิเศษ อร่อยว้าว สุดคุ้ม
Haoma Bangkok (One Michelin Star)
เปิดร้านแรกด้วยร้าน Haoma Bangkok (One Michelin Star) ร้านที่มาในคอนเซปต์ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม จนได้รางวัล Michelin Green Star หรือดาวมิชลินรักษ์โลก เป็นร้าน waste positive 100% สามารถจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลูกผักเองและทำฟาร์มสัตว์แบบออร์แกนิก ถึงจะฟังดูเป็นเมนูรักสุขภาพ แต่อาหารของที่นี่รสชาติอร่อยถึงเครื่อง มีลูกเล่นต่าง ๆ ในการเสิร์ฟ สร้างความน่าสนใจ เป็นร้านอาหารอินเดียที่ให้ทั้งความว้าวและความอร่อยในคราวเดียวกัน พลาดไม่ได้แล้วแบบนี้
- พิกัด : 231/3 ซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ 18.00-21.30 น. หยุดวันจันทร์
- โปรโมชั่นแนะนำ : Meat & Seafood 6-Course [Lunch] ราพิเศษเพียง 3,048.- จากราคาปกติ
3,513.-
เบนาเรส โมเดิร์น อินเดียน คูซีน แบงค็อก
ร้านที่สองมาต่อกันที่ เบนาเรส โมเดิร์น อินเดียน คูซีน แบงค็อก ตกแต่งโทนดำทอง บรรยากาศหรูหราโรแมนติก ร้านจะเสิร์ฟอาหารอินเดียสไตล์โมเดิร์น แต่งจานมาอย่างสวยงาม น่ารับประทาน เมนูขึ้นชื่อของอินเดียอย่างแป้งนาน ร้านนี้ก็ทำออกมาได้ดีมาก แป้งกรอบนอกนุ่มใน หอมอร่อย ทุกเมนูทำออกมากลมกล่อม ได้รสชาติเครื่องเทศชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น Vegetable Biriyani ที่เสิร์ฟมาพร้อมโยเกิร์ต Chicken Tikka Masala หรือเมนูอื่นก็น่าลองเหมือนกัน ใครชอบร้าน Fine Dinnig อาหารอินเดีย ต้องมาร้านนี้เลย
- พิกัด : 12/499 15 สุขุมวิทเรสซิเด้นซ์ ซอยสุขุมวิท 13 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 11.00-22.30 น.
- โปรโมชั่นแนะนำ : (Buy 3 Set Free 1 Set) 7 Course + 1 Mocktail สำหรับ 4 ท่าน ราพิเศษเพียง 3,525.- จากราคาปกติ
4,700.-(ประมาณ 881.- ต่อท่าน)
AB Indian Cuisine
ร้านที่สามพามาอยู่กับร้าน AB Indian Cuisine ร้าน Fine Dining อาหารอินเดียราคาน่ารัก เข้าถึงง่าย ร้านสะอาด บรรยากาศอบอุ่น มีหลายเมนูให้เลือกรับประทาน ทั้ง Mutton Do Piyaza แกงแพะใส่หัวหอมและเครื่องแกงอินเดีย รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม Paneer Butter Masala แกงชีสเต้าหู้อินเดียใส่เนย รสเค็มมัน นุ่มละมุนลงตัว Papad แป้งถั่วแผ่นทอดกรอบไว้เคี้ยวเพลิน ๆ มีเครื่องดื่มเป็น Indian Masala Tea และเครื่องดื่มอื่นให้เลือกอีกมากมาย เป็นร้านที่คุณภาพอาหารดีเกินราคา ใครอยากลองทานอาหารอินเดียในราคาไม่แพง ร้านนี้ตอบโจทย์สุด ๆ
- พิกัด : 24 ซอย ประชาราษฎร์บำเพ็ญ 7 ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 11.00-22.00 น.
- โปรโมชั่นแนะนำ : เซ็ตอาหาร 5 รายการ พร้อมเมนู เช่น เต้าหู้อินเดียผัดกับผักสด และอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมเครื่องดื่ม สำหรับ 3 ท่าน ราพิเศษเพียง 550.- จากราคาปกติ
848.-(ประมาณ 184.- ต่อท่าน)
Indus Bangkok Indian Restaurant
ร้านที่สี่จะเป็นร้าน Indus Bangkok Indian Restaurant ร้านที่ได้รางวัล Michelin Guide 7 ปีซ้อน ชื่อร้านมาจากชื่อของลุ่มน้ำสินธุ ตกแต่งโทนสีไม้ น้ำเงิน ดำ ขาว บรรยากาศร้านดูหรูหรา น่าค้นหา เหมือนหลุดไปอยู่ในอินเดีย เอกลักษณ์ของร้านนี้นอกจากจะตกแต่งร้านด้วยศิลปะยุคราชวงศ์โมกุลแล้ว ยังมีการนำอาหารอินเดียเด่น ๆ ของภูมิภาคต่าง ๆ มาประยุกต์ให้เข้ากับคนไทย มีเมนู Papdi Chaat ข้าวเกรียบชิ้นพอดีคำที่ทำจากแป้งถั่วทอด โรยหน้าด้วยถั่ว มันฝรั่ง โยเกิร์ต และราดซอสมะขามกับมินต์ กินรวมกันจะได้หลายรสชาติในคำเดียว อร่อย สดชื่น เป็นร้านที่อยากให้ทุกคนได้มาลองสักครั้ง รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
- พิกัด : 71 ซอยสุขุมวิท 26 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 11.00-23.00 น.
- โปรโมชั่นแนะนำ : ชุดอาหาร 10 เมนู เช่น Chicken Kati Roll, Mutton Seekh Kebab, Tandoori Roti และอื่น ๆ อีกมากมาย + เครื่องดื่ม 3 ที่ สำหรับ 3 ท่าน ราพิเศษเพียง 3,150.- จากราคาปกติ
6,142.-(ประมาณ 1,050.- ต่อท่าน)
JHOL Coastal Indian Cuisine
ร้านที่ห้าพบกับร้าน JHOL Coastal Indian Cuisine ร้านอาหารอินเดียสุดหรู ตกแต่งด้วยสีไม้ เทา ทอง ภายในร้านจะมีองค์ประกอบที่สื่อถึงวัฒนธรรมอินเดีย โดยจะมีทั้งรูปภาพชนชั้นสูงชาวอินเดียและภาพแผนที่ของประเทศอินเดีย บรรยากาศร้านน่านั่ง มีความเป็นส่วนตัว เมนูที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ลอง คือ Injipuli pork ribs เมนูเรียกน้ำย่อยที่เอาเนื้อซี่โครงหมูไปทอดแล้วคลุกเคล้าด้วยซอสมะขาม ตามด้วยโรยขิงทอดกรอบ เนื้อหมูนุ่มฉ่ำซอสเปรี้ยวอมหวาน มีความเผ็ดกรอบของขิงมาช่วยตัดเลี่ยน การันตีความอร่อยด้วยรางวัลมิชลินไกด์ จอดรถได้ที่โรงแรมข้างร้าน
- พิกัด : 7 2 ซอยสุขุมวิท 18 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 12.00-21.30 น.
- โปรโมชั่นแนะนำ : The Culinary Journey- A La Carte Lunch for 3 People ราพิเศษเพียง 4,090.- จากราคาปกติ
5,570.-(ประมาณ 1,363.- ต่อท่าน)
Aladeen Restaurant
ต่อไปเป็นร้าน Aladeen Restaurant ร้านอาหารอินเดียที่มาในธีมอะลาดินกับตะเกียงวิเศษ ตกแต่งร้านโทนม่วงดำ มีที่นั่งให้เลือกหลายแบบ มีทั้งโซนนั่งสบาย ๆ ดูตะเกียงวิเศษเพลิน ๆ แบบในรูป และโซนที่นั่งแบบหรูหราเหมือนหลุดไปอยู่อาหรับ ร้านมีเมนูให้เลือกเยอะมาก เป็นเมนูที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันดี อร่อย ให้เยอะ เป็นรสชาติที่เหมาะกับคนไทย เพราะเครื่องเทศไม่แรงเกิน ทำให้รับประทานได้ง่าย ใครที่เป็นแฟนอะลาดินน่าจะถูกใจร้านนี้
- พิกัด : 1/24 ซอยสุขุมวิท 3 ถนนนานาเหนือ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 15.00-23.45 น.
- โปรโมชั่นแนะนำ : All You Can Eat (Vegetarian) [Sun-Thu] ราพิเศษเพียง 499.-
Gaa
ร้านต่อมา คือ Gaa ร้าน Michelin Star 1 ดาว เป็นร้านอาหารอินเดียยกระดับความหรูหรา เอกลักษณ์ของร้าน คือ เลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของไทยมาประกอบกับเทคนิคการทำอาหารอินเดียแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ร้านยังตกแต่งเป็นบ้านเรือนไทย เรียกได้ว่าเป็นร้านที่ผสมผสานความเป็นอินเดียและความเป็นไทยได้อย่างลงตัว ที่ร้านมีเมนูของหวานสุดเก๋อย่าง Chocolate Papadum Condiments ขนมแป้งปาปาดัมที่ชุบช็อกโกแลตครึ่งหนึ่ง และโรยผงขนุนอีกครึ่งหนึ่ง อร่อยแปลกใหม่ ชวนให้ลอง
- พิกัด : 46/1 ซอยสุขุมวิท 53 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 12.00-23.00 น.
Gaggan Anand
ร้านที่แปดขอเสนอร้าน Gaggan Anand ร้านที่มาในคอนเซปต์ Progressive Indian Gastronomy สุดเร้าใจ ตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์นหรูหรา มีความเป็นส่วนตัว มีโคมไฟดวงจันทร์มาประดับเพิ่มลูกเล่น เมนูของที่นี่มีเทคนิคการทำที่พิเศษ พิถีพิถัน เอาใจใส่ เป็นเมนูแสนอร่อยที่นำเสนอในรูปแบบสุดว้าวได้อย่างลงตัว
- พิกัด : 68 ซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 17:30-24:00 น.
Punjab Grill Bangkok
ถัดมาจะเป็นร้าน Punjab Grill Bangkok ร้านอาหารอินเดียที่คนไทยหลายคนรู้จักกันดี จะนำเสนอเมนูสไตล์โมเดิร์น มีเทคนิคการเสิร์ฟที่น่าตื่นตาตื่นใจ ร้านบรรยากาศหรูหราสมเป็น Fine Dining สามารถเลือกได้ว่าจะเอาเนื้อสัตว์หรือมังสวิรัติ ถ้าเลือกเนื้อสัตว์ก็จะได้ LESHUNI AUR LAL MIRCH JHEENGA กุ้งลายเสือตัวใหญ่ รสกลมกล่อม แต่ถ้าเลือกมังสวิรัติจะได้ LESHUNI AUR LAL MIRCH GOBHI ดอกกะหล่ำหมักเครื่องเทศ รสจัดจ้าน เป็นร้านที่ได้ทั้งความตื่นเต้นและความอร่อย แถมยังมีเมนูให้เลือกหลากหลายอีกด้วย
- พิกัด : 23/2-3 ซอยสุขุมวิท 13 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ 18:00-24:00 น. / วันเสาร์-อาทิตย์ 12:00-15:00 น. และ 18:00-24:00 น.
Masala Art
ร้านสุดท้ายขอลาไปกับร้าน Masala Art ที่ได้รับรางวัล The Best Indian food 9 ปีซ้อน ของที่ตกแต่งร้านนำเข้ามาจากอินเดียทั้งหมด ในร้านจะตกแต่งสไตล์โมเดิร์นผสมอินเดีย บรรยากาศน่านั่ง ปลอดโปร่ง สบายตา เมนูของทางร้านตกแต่งมาอย่างมีศิลปะสมชื่อร้าน ขอแนะนำเป็นเมนู Fish Amritsari ปลากรอบนอกนุ่มใน มีความเผ็ดเบา ๆ รับประทานคู่กับซอสสองสี คือ ซอสขาวออกเปรี้ยวคล้ายอาจาด กับ ซอสเขียวรสกลมกล่อม นวล ๆ หอมเครื่องเทศ ถ้าได้ลองรับประทานแล้วจะติดใจ
- พิกัด : 88 อาคาร เอท ทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 11:00-21:00 น.
เป็นยังไงบ้างกับ 10 ร้าน Fine Dining อาหารอินเดีย 2024 บรรยากาศดี คุณภาพพรีเมียม ที่จะทำให้มื้ออาหารของคุณกลายเป็นมื้อพิเศษ แสนอร่อย สุดคุ้มค่า ถ้าอยากมาสัมผัสประสบการณ์ดี ๆ แบบนี้ ต้องรีบมาจองที่แอป Hungry Hub กันแล้ว!
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย