หากใครที่อยากจะหาร้านแจ๊สบาร์ แถวย่านถนนดินสอดีๆสักร้าน วันนี้ Hungry Hub จะพาไปสัมผัสกับ Din Restaurant and Bar ซึ่งเป็นร้านอาหารนานาชาติที่มาพร้อมกับแจ็สบาร์สุดชิล เหมาะสำหรับใครที่อยากจะชวนคนรู้ใจไปทานดินเนอร์ในยามเย็น และนอกจากนี้ก็ยังมีดนตรีสดอีกด้วย งั้นอย่ารอช้าตามมาดูกันเลยว่าจะเป็นยังไงกันบ้าง
มาทำความรู้จักกับ Din Restaurant and Bar
สำหรับร้าน Din Restaurant and Bar เป็นร้านอาหารนานาชาติและแจ็สบาร์ ตั้งอยู่ชั้น 1 ภายในโรงแรมบ้านตึกดิน ซึ่งเป็นโรงแรมในถนนดินสอที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ถ้าหากนับเวลาโดยรวมก็ผ่านมาเป็น 125 ปีแล้ว แต่ในส่วนของร้านอาหารเองนั้นก็พึ่งเปิดได้มาได้ไม่นานตั้งแต่ช่วงปี 2023 ถือว่าเป็นร้านใหม่ที่ควรค่าแก่การมาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นช่วงหลังเลิกงาน หรือ โอกาสพิเศษต่างๆก็ดี
สำหรับการเดินทางมายังตัวร้านนั้น สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถส่วนตัวหรือว่ารถประจำทาง สำหรับใครที่ขับขี่ด้วยรถยนต์ส่วนตัวมานั้นสามารถมาจอดได้ที่จุดจอดรถของเอกชนก่อนถึงตัวร้าน เพียงไม่กี่เมตร โดยจะมีการคิดค่าจอดชั่วโมงละ 40 บาท และถ้าเกิดใครนั่งรถโดยสารสาธารณะมาสามารถนั่งสาย 3-35, 3-57, 4-10 หรือ นั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT มาลงที่สถานีสามยอดแล้วเรียกรถต่อเข้าไปก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
เมื่อเข้ามาเข้าในตัวร้านก็จะมีการแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆ ด้วยกัน เริ่มกันด้วยที่โซนนั่งทานอาหาร หรือ Dining Room โดยจะตกแต่งไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ สีไม้บนผนัง โคมไฟ รูปถ่ายของศิลปินแจ็สบนกรอบรูปแขวน และอื่นๆ ที่จะออกไปในทางคลาสสิก เหมือนกับได้ย้อนยุคไปในช่วง 80-90’s แต่ยังมีกลิ่นอายของความเป็นไทยตามแบบฉบับของตัวโรงแรมที่เปิดตั้งแต่รัชกาลที่ 5 อยู่
โดยสำหรับใครที่อยากมานั่งฟังดนตรีสด ที่ร้านก็มีมีวงดนตรีแจ็สมาเล่นตั้งแต่วันพฤหัสไปจนถึงวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 2 ทุ่มไปจนถึง 5 ทุ่มตรง และในวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 1 ทุ่มจนถึง 4 ทุ่มตรง ส่วนในวันอื่นๆ หรือช่วงเวลาก่อนมีดนตรีแจ็สมาเล่นสดๆ นั้น ทางร้านก็จะมีการเปิดเพลงแนวแจ็สคลอเบาๆ เพื่อเพิ่มสุนทรียสำหรับการทานอาหารในทุกๆมื้อ
ในส่วนของอินดอร์นั้น นอกจากจะมี Dining Room แล้ว ก็ยังมีในส่วนของบาร์ ที่เหมาะสำหรับใครที่มาคนเดียว หรือ อยากจะมานั่งจิบเครื่องดื่มแบบสบายๆ โดยก็จะสามารถพบกับลีลาในการทำเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์ฝีมือดี ที่จะทำเครื่องดื่มหลากหลายมาเสิร์ฟถึงมือ อาทิ ค็อกเทล หรือจะมานั่งพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์คลายเหงาก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว
แต่ถ้าหากวันไหนอากาศดี รู้สึกว่าท้องฟ้าปลอดโปร่ง อยากจะได้ที่นั่งฟิลสวน ทางร้านก็ยังมี Garden Zone ที่จะเป็นที่นั่งที่มีต้นไม้นานาชนิดล้อมรอบ ให้ความรู้สึกที่ร่มรื่น โดยในส่วนนี้เองเราก็จะได้เห็นบ้านไม้สุดคลาสสิกที่มีอายุกว่า 125 ปีของตัวโรงแรมบ้านตึกดินไปในตัวอีกด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับเมนูของทางร้านจะเสิร์ฟเมนูอาหารนานาชาติ รวมไปถึง อาหารไทยในแบบฉบับดั้งเดิม หรือ เมนูที่หาทานได้ยาก โดยเลือกใช้วัตถุดิบแบบออร์แกนิคในท้องถิ่น นำมารังสรรค์แบบโฮมคุ้กกิ้งที่จะให้ความรู้สึกเหมือนได้มาทานรสชาติอาหารที่คุณแม่เป็นคนทำ เหมาะสำหรับมาทานกับครอบครัว หรือ คนรู้ใจ ไม่ว่ามื้อไหนก็อิ่มอร่อยได้แบบไม่รู้เบื่อ
ก่อนอื่นก็มาเริ่มกันด้วย 3 เมนูเรียกน้ำย่อยกันก่อน เริ่มต้นกันที่ Argentinian Shrimp With Spicy Sauce เมนูกุ้งแซ่บ ซี้ดถึงใจแบบไทยๆ โดยจะเลือกใช้กุ้งสายพันธุ์อาร์เจนติน่า นำไปอบแล้วผ่ากลาง จากนั้นราดด้วยซีฟู้ด ถือว่าเป็นเมนูเรียกน้ำย่อย ที่กระตุ้นต่อมความอยากได้ดีเลยทีเดียว
Baked Us Scallops With Garlic Butter หอยเชลล์อบเนยกระเทียม ที่เลือกหอยเชลล์คัดพิเศษอย่าง US Scalop ไซส์ใหญ่ที่สุด นำอบกับเนยกระเทียม เกรดเดียวระดับเบเกอรี่ ซึ่งจะมีนมวัวผสมเยอะกว่า ดีต่อสุขภาพ และทานคู่กับซอฟเบรด
Cold Grilled Sliced Tenderloin With Ponzu And Mustard Vinaigrette เนื้อสันในอาร์เจนติน่า ที่นำไปกริลล์ ซึ่งจะทำให้เนื้อส่วนนอกมีความเกรียมหน่อยๆ ส่วนเนื้อด้านในจะมีความดิบๆ เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มพอนสึ โฮลเกรนมัสตาร์ด บีทรูท และแตงกวาดอง โดยความเปรี้ยวของน้ำจิ้มและผ่องเพื่อนเครื่องเคียงจะตัดเข้ากับเนื้อที่มีความนุ่ม ละลายในปากได้อย่างพอดี
หลังจากเรียกน้ำย่อยกันมาได้พอสมควรแล้ว ก็มาต่อกันด้วยเมนูจานหลัก ซึ่งเมนูแรกเลยนั้นก็จะเป็น Beef Tongue Stew With House Mashed Potato หรือ สตูลิ้นวัวเสิร์ฟพร้อมมันบด โดยเมนูนี้ก็เป็นหนึ่งในเมนู Signature ที่เลือกใช้ ลิ้นวัวพรีเมียม นำไปเคี่ยวจนตัวเนื้อมีความนุ่มละลายในปาก เสิร์ฟพร้อมมันบด ที่ทำมาจากมันสดๆ บดด้วยมือแบบแฮนด์เมด
Fried Duck Leg With Orange Sauce ขาเป็ดทอดเสิร์ฟพร้อมซอสส้ม โดยน่องเป็ดนั้นจะนำไปทอดกรอบจนเหลืองสวยงาม ทานคู่กับซอสส้มที่จะช่วยตัดรสชาติไม่ให้เลี่ยน และก็สลัดที่จะช่วยเพิ่มความสดชื่นได้อย่างดีเลยทีเดียว
Grilled Mediterranean Sea Bass With Marinara Sauce ปลากะพงซอสมะเขือเทศมารีนารา โดยปลาที่ทางร้านเลือกใช้นั้น ก็เป็นปลากระพงยักษ์จากทะเลน้ำลึก ที่นำไปทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟคู่กับซอสมะเขือเทศมารีนาร่า ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว และตัดด้วยความสดชื่นของใบอิตาเลียนเบซิล หรือ ที่เรียกกันว่า ใบโหระพาอิตาเลี่ยนนั้นเอง
Grilled Salmon With Pesto Sauce หรือ ปลาแซลมอนเพสโต้ เป็นเมนูที่เลือกใช้ ปลาแซลมอนเทราต์นำเข้าจากประเทศนอร์เวย์ พร้อมกับคุณภาพเทียบเท่าระดับซาชิมิ ซึ่งราดด้วยซอสเพสโต้ ตัดด้วยผลไม้รวม ที่เข้ากันเป็นอย่างดี
Pork Chop In Creamy Mushroom Sauce With House Mashed Potato พอร์คชอปซอสเห็ดเสิร์ฟพร้อมมันบด ชิ้นโต ที่นำไปย่างจนกอม และอบต่อในเตาอบ ท็อปปิ้งด้วยซอสเห็ดและพาเมซานชีสสุดครีมมี่ และที่สำคัญเมนูนี้จะทำแบบจานต่อจาน
Fried River Prawn With Sea Salt Served With Prawn Butter Fried Rice กุ้งแม่น้ำทอดเกลือไซส์ใหญ่ เสิร์ฟพร้อมข้าวผัดมันกุ้ง โดยตัวกุ้งนั้นจะนำไปทอดในน้ำมันรำข้าว เกรดโอรีซานอล พร้อมข้าวผัดมันกุ้ง ที่นำไปผัดจนหอมปิดท้ายด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดและผักสด
Steamed Halibut With Soy Sauce Served With Fried Noodles ปลาฮาลิบัททนึ่งซีอิ้ว โดยเนื้อปลาจะมีสีขาว ชิ้นโต ให้รสสัมผัสที่นุ่มนวล แต่แฝงมาด้วยความเด้งสู้ฟัน และที่สำคัญเสิร์ฟคู่กับน้ำซอสนิ่งซีอิ้วสไตล์จีน และเส้นใหญ่ที่ทิดจนกรอบที่ทานคู่กันแล้วเข้ากันแบบสุดๆ
และนี้ก็คือ Din Restaurant and Bar ร้านอาหารและแจ็สบาร์ฟิลดี ในย่านถนนดินสอ จากโรงแรมคลาสสิกที่เปิดมาอย่างยาวนานกว่า 125 ปี ซึ่งนอกจากตัวร้านจะให้ความรู้สึกชิลๆแล้ว เมนูอาหารก็ต้องบอกเลยว่าอร่อยทุกจาน แต่ถ้าอยากมาทานแบบคุ้มๆ ตอนนี้ก็มีแพ็กเกจให้จองแล้วผ่าน Hungry Hub กับเซ็ต Party Pack เริ่มต้นเพียง 750 บาทเท่านั้น
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่