วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคาเฟ่ริมทะเลสวยๆ ใกล้กับชายหาดกระทิงลาย อย่าง Dam Pattaya หนึ่งในคาเฟ่สไตล์วินเทจ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในโกดังเกาหลีเก่าๆ หากเรานึกถึงหนังซอมบี้เกาหนีก็จะอารมณ์ประมาณนั้นเลย แต่ในด้านสดใสเขาก็มีนะ เพราะยังมีที่นั่งริมทะเลเหมาะสำหรับนั่งทานอาหารชิลๆ เดินมามุมถ่ายรูปริมชายหาดก็ดีไม่แพ้กัน งั้นเราอย่ารอช้าไปติดตามกันพร้อมๆกันได้เลย
สำหรับ Dam Cafe เป็นหนึ่งในคาเฟ่ริมชายหาดที่พึ่งเปิดไปเมื่อปี 2022 เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11 โมงไปจนถึง 5 ทุ่ม โดยตัวร้านตั้งอยู่ติดกับชายหาดกระทิงลาย ซอยโรงแรมชลจันทร์ พัทยา-สุขุมวิท เมื่อมาถึงแล้วก็จะพบกับป้ายที่เขียนชื่อร้านไว้อย่างชัดเจนสามารถไปตามทางได้เรื่อย ก็จะพบกับหน้าร้านที่มีชื่อร้านเด่นชัด หากใครที่มาด้วยรถส่วนตัวไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีที่จอด เพราะทางร้านบริการที่จอดรถไว้ให้พร้อมสามารถขับรถเข้ามาจอดได้อย่างสบายๆ
หากเราเข้ามาถึงข้างในร้านก็อาจจะรู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะโดยปกติแล้วคาเฟ่จะออกไปทางคาเฟ่มินิมอลบ้าง หรีอคาเฟ่น่ารักๆ แต่สำหรับ Dam Pattaya ถือว่าฉีกสไตล์เดิมๆออกไปอย่างชัดเจนเพราะว่าธีมหลักของที่นี่จะเป็นคาเฟ่ที่ให้อารมณ์เหมือนโรงงานร้างเกาหลีเก่าๆ ในโลกที่ล่มสลายไปแล้ว แต่ยังคงความสวยงามเอาไว้อยู่ ซึ่งก็จะมีทั้งหมด 3 โซนหลักๆด้วยกัน อาทิ โซนคาเฟ่ภายในร้าน โซนที่นั่งริมชายหาด หรือโซน Open Air เป็นต้น
โซนคาเฟ่จะตกแต่งโดยรอบด้วยของตกแต่งไปจากของเก่าๆ เน้นโทนสีไปทางสีเอิร์ธโทน อย่างเช่นเครื่องมือ เครื่องจักรเก่าๆ เศษเหล็กที่ถูกทิ้งไว้จนขึ้นสนิม กระจกหน้าต่างที่หายไปบ้าง โต๊ะไม้ สเก็ตบอร์ดเก่าๆ และยังมีการใช้ต้นไม้สีเขียวมาประดับ ความรู้สึกก็จะดูมีความอบอุ่น เหมือนกับวันคืนสู่โลกธรรมชาติในวันที่โลกล่มสลายสุดๆ (อาจจะดูเวอร์หรือเป็นเพราะดูซีรี่ส์เกาหลีมากไปหรือเปล่าหว่า 5555)
โต๊ะที่นั่งด้านในโซนคาเฟ่ก็จะมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะที่นั่งสำหรับ 2 คน 4 คน หรือโซนเบาะนั่งยาวๆ เหมาะสำหรับการมานั่งกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว จะจัดปาร์ตี้เล็กๆก็ได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้โซนคาเฟ่ยังมีเวที พร้อมเครื่องเสียงเครื่องเสียงครบชุด ถามว่าทำไมต้องมี มีตกแต่งเฉยๆหรือเปล่า? เพราะว่าในทุกเย็นของวันศุกร์และวันเสาร์จะมีดนตรีสด ตั้งแต่ช่วงเวลา 5 โมงเย็นไปจนถึง 4 ทุ่ม ใครที่อยากมานั่งฟังดนตรีสดชิลๆ ทานอาหาร จิบเครื่องดื่มเบาๆ ฟังบรรยากาศริมชายหาดแนะนำให้มาในช่วงนี้เลย
โซนด้านในผ่านไปคราวนี้แวะไปดูโซนที่สองกัน นั้นก็คือโซนซุ้มบาหลีนั้งเอง โดยโซนนี้จะเป็นที่นั่งแบบนั่งนอกร้าน ปูผ้าใบกันแดดไว้ให้เรียบร้อย แถมยังมีทรายแก้วซึ่งเป็นทรายที่สะอาด เด็กๆก็สามารถเล่นได้ มีที่นั่งแบบเก้าอี้ที่แต่ละโต๊ะสามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 4 คนต่อโต๊ะ ส่วนพื้นที่ข้างๆกันจะเป็นที่นั่งแบบเบาะโซฟานั่งได้เพลินๆ ที่สามารถนั่งได้สูงสุด 4 คนต่อโต๊ะเช่นเดียวกัน
นอกจากที่นั่งแบบโต๊ะ และแบบเก้าอี้แล้ว ยังมีที่นั่งแบบเตียงให้นั่งอีกด้วยซิ่งโซนนี้เขาก็ปูผ้า ใส่เบาะ มีหมอนอะไรให้พร้อม นั่งทานเพลินๆ ก็นอนเล่นได้สบายๆ แถมเตรียงก็ยังมีความนุ่มเหมาะกับการนอนฟังเสียงคลื่นทะเลแบบสุดๆ
และโซนที่สามก็เป็นอีกหนึ่งโซนที่เด็ดดวงไม่แพ้กัน นั้นก็คือโซนริมชายหาด โซนนี้ก็จะเป็นที่นั่งใต้ต้นไม้ ซึ่งต้นไม้ที่เขาใช้ก็จะเป็นต้นไม้จากท้องถิ่นพัทยาโดยเฉพาะเลย และก็ยังกางร่มกันแดด เพื่อช่วงไหนแดดร้อนๆ ก็ยังไหวอยู่ โซนนี้เหมาะสำหรับใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศของคลื่นทะเล หรือ อยากจะทานอาหารพร้อมกับมาถ่ายรูปริมชายหาดสวยๆ โซนนี้ก็แนะนำเลย จริงๆต่อให้นั้นโซนอื่นก็สามารถมาถ่ายรูปริมชายหาดได้เช่นเดียวกัน
พาไปดูโซนต่างๆกันไปแล้ว เรามาเริ่มหาอะไรกินกันเลยดีกว่าเมนูส่วนใหญ่จะเป็นเมนูอาหารไทย อาหารทะเล นานาชาติ รวมไปถึงพวกเบอร์เกอร์ หรือ สปาเก็ตตี้เขาก็มีให้เลือกด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในแต่ละเมนูก็รังสรรค์จากเชฟชื่อดังในพัทยา เห็นหลายๆคนที่เคยไปก็บอกว่าอร่อยที่สุดในพัทยา ซึ่งตอนที่เราไปทานก็มีหลายๆเมนูค่อนข้างถูกใจเลย ซึ่งนอกจากเมนูอาหารคาวแล้ว ในโซนของคาเฟ่ก็ยังมีเมนูของหวาน และเครื่องดื่มต่างๆ ที่เหมาะสำหรับทานในช่วงหน้าร้อนแบบสุดๆ
เริ่มกันด้วยที่เมนูแรก เมนูนี้ถือว่าเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านเลยก็ว่าได้ นั้นก็คือ เบอร์เกอร์ทาวเวอร์ (Burger Tower) เมนูเด็ดของที่นี่ถ้าใครไม่ได้สั่งถือว่ามาไม่ถึง โดยจะมีความแตกต่างจากเบอร์เกอร์ทั่วๆไป เพราะว่ามีความสูงเท่ากับเบอร์เกอร์ 4 ชิ้นต่อกัน พร้อมกับราดซีสเยิ้มๆ ซอสเข้มๆ เนื้อแน่นๆ แล้วก็ปิดท้ายด้วยเฟรนฟรายที่อยู่ด้านล่าง เมนูนี้เหมาะสำหรับไปทานกับเพื่อนๆ แต่ถ้าใครอยากลองสั่งมาทานคนเดียวก็ได้เช่นเดียวกัน แต่ก็เหมือนกับได้ท้าทายตัวเองไปในตัวด้วย
อีกหนึ่งเมนูตัวแม่ ที่ถ้าเกิดใครได้ไปต้องเป็นอันสั่งนั้นก็คือ ขาหมูเยอรมัน (German Pork Knuckle) เมนูเด็ดตัวท็อปของทางร้าน หนังหมูมีความกรอบ เนื้อด้านในมีความนุ่มมากๆ ชนิดที่ว่านุ่มละมุน ฉุ่มฉ่ำลิ้นกันเลยทีเดียว เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดของทางร้าน ซอสซอสมัสตาร์ด และซาวเคราท์ กะหล่ำปลีหมักเกลือที่มีรสชาติเปรี้ยวๆ ทานคู่กับของทอดคืออร่อยเด็ดดวงอย่าบอกใครเชียวละ!!
ในเมื่อไปทานอาหารแถวพัทยา ก็ไม่พลาดที่จะต้องได้ลองอาหารทะเลซึ่งที่ Dam Pattaya ก็มีเมนูอาหารทะเลให้เลือกค่อนข้างหลากหลายเลย ไม่ว่าจะเป็นกุ้งอบวุ้นเส้นสูตรต้นตําหรับฮ่องกง อันนี้คือเส้นอร่อยมาก แถมกุ้งก็ยังให้มาแบบคุ้มๆ หอยแมลงภู่อบชีสรอกกีเฟลเลอร์ รสชาติก็จะมีความหอมมัน และความเนื้อแน่นสดใหม่จากหอยนางรมเข้ากับบรรยากาศของคลื่นทะเลแบบสุดๆ
นอกจากนี้ก็ยังมีพิซซ่า ซึ่งพิซซ่าของที่นี่จะทำขึ้นมาแบบโฮมเมด ที่มีให้เลือกกว่า 5 หน้าจุใจไม่ว่าจะเป็น พิซซ่าทริโอ้ พิซซ่าซีฟู้ด พิซซ่าไส้อั่ว พิซซ่าฮาวายเอี้ยน และ พิซซ่ามาการิต้า แต่ถ้าเกิดใครอยากทานหลายๆหน้าในถาดเดียวก็มี พิซซ่ารวม 3 หน้า 8 ชิ้น ใครมีเพื่อนเยอะๆ แล้วอยากทานหลายรสชาติ แบบนี้ก็เหมาะเลย
ของคาวผ่านไปต้องปิดท้ายด้วยของหวาน ซึ่งของหวานของที่นี่จะมีทั้งเครื่องดื่มหวานๆ เครื่องดื่มแบบซ่าๆ หรือ เครื่องดื่มแบบแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะเป็น ฮาเซลนัทครีมชีสที่มีรสชาติหอมหวานละมุน แต่ถ้าจะให้เข้ากับมูดของทะเลต้องเหมาะกับอะไรซ่าๆ ไม่ว่าจะเป็น สตรอเบอรี่โซดา บลูเบอรี่โซดา เป็นต้น
ใครที่อยากสัมผัสกับ คาเฟ่ริมทะเลในพัทยา ที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้อย่าง DAM Pattaya สามารถแวะมาได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 11 โมงเช้าไปจนถึง 5 ทุ่ม ใครเป็นคนรักสัตว์เลี้ยงที่นี่ก็สามารถพามาได้ด้วยนะ และนอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสุดพิเศษจาก Hungry Hub กับเซ็ตอาหารสุดคุ้มเริ่มต้น 4 เมนูสำหรับ 2 ท่าน พร้อมรับเครื่องดื่มคนละ 1 แก้ว เพียง 990 บาทเท่านั้น
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่
- รีวิว Ramayana Water Park ตะลุยสวนน้ำสุดมันส์ ที่ใหญ่ที่สุดในพัทยา
- รีวิว Great&Grand Sweet Destination ตะลุยโลกของหวาน ใจกลางพัทยา
- แจกพิกัด 12 ที่เที่ยวหน้าร้อน 2023 ทริปพักผ่อนสุดชิล ทั่วไทย
- 15 พูลวิลล่าพัทยา 2023 ใกล้ทะเล ราคาดี พร้อมเที่ยวยกแก๊ง