หลังจากที่ห่างหายกันไปนานกว่า 2 เดือน Copper Buffet โฉมใหม่ ก็กลับมาเซอร์ไพรส์คนรักบุฟเฟ่ต์อีกครั้ง ด้วยการยกโฉมใหม่ทั้งร้านไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งที่มีความหรูหรากว่าเดิม รวมไปถึงเมนูบุฟเฟ่ต์นานาชาติทั้งเมนูเดิมและเมนูใหม่ที่ครั้งนี้ได้เชฟระดับมิชลินสตาร์มารังสรรค์เมนู จึงทำให้หลายๆคนต่างจับตารออย่างมาก ส่วนใครที่ยังไม่เคยลอง Copper Buffet มาก่อนวันนี้จะพาไปดูกันว่า การกลับมาโฉมใหม่ในครั้งนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
รีวิว Copper Buffet โฉมใหม่ การกลับมาของบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ที่ดีที่สุดในกรุงเทพ
การกลับมาของ Copper Buffet ในครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนลุคใหม่ ที่มีแตกต่างออกไปจากเดิม รวมไปถึงยังเป็นการเปลี่ยนคอนเซปต์ใหม่ Copper “Beyond Buffet” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 7 ปี และยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของการกลับมารันวงการบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ดีที่สุดในกรุงเทพ และยังเป็นการก้าวหน้าไปสู่อีกขั้นของการเป็น Worldclass Cuisine ด้วยความเซอร์ไพรส์ในหลายๆมิติ ที่อาจจะไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ความเซอร์ไพรสือย่างแรกเลยก็คือในเรื่องของความใส่ใจของเชฟ ใครที่ไปทานบุฟเฟ่ต์ที่อื่นๆบางทีก็มักจะเจอกับปัญหาอาหารที่ไม่สด เนื้อไม่แน่น หรือ อาหารไม่ได้มาตรฐานแต่ที่ Copper Buffet ยังคงความใส่ใจในเมนูอาหารทุกเมนูเหมือนเดิม แถมยังสรรหาเมนูวัตถุดิบพรีเมี่ยมต่างๆจากทั่วทั้งมุมโลกมาเสริฟ เรียกได้เลยว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปอย่างแน่นอน
นอกจากในเรื่องของวัตถุดิบแล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่ทาง Copper Buffet ได้เปิดครัวกลางแบบเต็มรูปแบบ พร้อมกับอุปกรณ์สำหรับเชฟอย่างครบครัน และที่สำคัญยังมีห้อง R&D ที่เอาไว้ให้เชฟได้คิดค้นและสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ เอาไว้เซอร์ไพรส์แบบสุดๆ
ใครที่ชอบเนื้อย่าง ก็อาจจะสงสัยว่าทำไมเนื้อย่างแต่ละชิ้นใน Copper Buffet ถึงมีความหอม ความนุ่มละมุนลิ้น ถึงแม้ว่าจะเสริฟพร้อมกันหลายๆจานก็ังอร่อยเหมือนเดิม เพราะว่าคราวนี้ ทางร้านยังได้เลือกใช้ Smoke-Master เครื่องย่างชั้นนำ ที่ได้มาตรฐานระดับโลก และที่สำคัญยังเป็นเครื่องย่างที่สั่งทำจากอเมริกา!! ถ้าจะถามว่าเครื่องนี้ดีอย่างไร ต้องบอกเลยว่าดีมากๆ เพราะ Smoke-Master สามารถควบคุมอุณหภูมิของเนื้อได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้เนื้อทุกชิ้นมีกลิ่นหอม รสชาติเหมือนทานอยู่ในอเมริกาแบบแท้ๆ
และนอกจากนี้ก็ยังมี เตาเนื้อย่าง “The Wood Show Broiler” เตาย่างระดับโลกที่ร้านอาหาร Fine-Dining หลายๆร้านเลือกใช้ ด้วยความพิเศษก็คือจะย่างโดยใช้ไม้เนื้อแข็งเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำให้เนื้อมีความนุ่ม หอม และรสชาติมีเอกลักษณ์ ด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำที่สุด จึงทำให้ได้ระดับความสุกของเนื้อตามที่ต้องการ ใครที่ชอบเนื้อย่างบอกเลยว่าต้่องถูกใจอย่างแน่นอน
ครั้งแรกกับการร่วมมือระหว่าง Copper และ เชฟระดับ Worldclass
พูดได้เต็มปากเลยว่านี้คือครั้งแรกที่ Copper Buffet ยกระดับความสุดยอดของเมนูพรีเมี่ยมอาหารนานาชาติ เพราะการกลับมาในครั้งนี้ยังมาพร้อมกับการเปิดตัวเชฟระดับ Worldclass ที่จะพาทุกคนไปสัมผัสความอร่อยอย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็น Chef Willment Leong ซึ่งหลายคนอาจจะไม่คุ้นหน้า คุ้นตากันสักเท่าไหร่นัก แต่เชฟเหลียง เป็นหนึ่งในรุ่นพ่อของวงการอาหารระดับ 5 ดาวจากสิงค์โปรที่อยู่ในวงการอาหารกว่า 20 ปี ซึ่งก็ได้มาช่วยวางระบบต่างๆ และยังเป็นที่ปรึกษาสำคัญให้กับทาง Copper Buffet อีกด้วย
คนต่อมาได้แก่ Chef Haikal Johari หรือ เชฟไฮเคิล โจฮาริ เชฟฝีมือดีจากสิงคโปร์ดีที่คว้ารางวัลมิชลินสตาร์มากว่า 3 ปีซ้อน ด้วยผลงานจากร้านอาหารชั้นนำมากมายไม่ว่าจะเป็น L’Atelier De Joel Robuchon ที่เคยคว้ารางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว และ Edition by Koji Shimomura รวมไปถึง Amador by Juan Amador ที่เชฟไฮเคิลเคยทำให้ร้านทั้งสองได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 2 ดาวมาแล้ว
ถ้าพูดถึงกระแส ครัวซองต์ ที่กำลังโด่งดังในประเทศไทย แน่นอนว่าก็ต้องพูดถึงเชฟเจมส์ พชร เถกิงเกียรติ จาก James Boulangerie ซึ่งเป็นเชฟรุ่นใหม่ที่มาแรงสุดๆ ก็มาร่วมสร้างสรรค์เมนูของหวานร่วมกับ Copper Buffet ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการออกแบบ ค้นค้นสูตรต่างๆ บอกได้เลยว่าใครรักของหวานต้องถูกใจอย่างแน่นอน
โดยทั้งหมดนี้จะเป็นการร่วมมือกับ Home Chef กับทาง Copper Buffet ที่เป็นผู้รังสรรค์เมนูพรีเมี่ยมมาตลอดทั้ง 7 ปีไม่ว่าจะเป็น เชฟสมควร พละศักดิ์ (Food & Beverage Executive) Chef และ เชฟสุชารัตน์ ปิยะโชคไพศาล (R&D Manager)
ร้านโฉมใหม่ ที่หรูหรายิ่งกว่าเดิม
อีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนเลย นั้นก็คือในเรื่องของขนาดของร้านและบรรยากาศต่างๆ ที่มีการยกโฉมใหม่ ด้วยการขยายร้านบนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตรบน The Sense Pinklao ที่เป็นการลงทุนกว่าา 120 ล้านบาท ด้วยการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการตกแต่งแบบโมเดิร์นคลาสสิคซึ่งเป็นการตกแต่งที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ โดยเป็นการเน้นความเรียบหรู (Luxury) และความคลาสสิก (Classic) เข้าด้วยกัน รวมไปถึงการเน้นโทนสีครีม ทองแดงจึงทำให้ร้านดูมีความหรูหรา เหนือกาลเวลา ตามคอนเซปต์ใหม่ของ Copper Buffet
ด้วยการขยายร้านในครั้งนี้ ทำให้มีจำนวนที่นั่งเพิ่มมากขึ้น และมีที่นั่งที่หลากหลาย โดยในแต่ละที่ก็จะมีความแตกต่างกันออกไปเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าในหลายๆกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการมานั่งทานกับเพื่อนๆ การมานั่งทานกับครอบครัว ด้วยที่นั่งที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ทำให้สามารถนั่งทานบุฟเฟ่ต์ได้อย่างสบายๆ
สเตชั่นอาหารจุใจ เพิ่มเติมคือเดินไม่เบียดกันแล้ว
ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนโแมใหม่ หลายคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แต่รอบรอบจำนวนคนค่อนข้างเยอะทำให้เวลาเดินไปตามสเตชั่นต่างๆ เดินได้อย่างลำบาก แต่การเปลี่ยนโฉมใหม่ในครั้งนี้ ทำให้พื้นที่ของร้านมีความกว้างมากยิ่งขึ้น อีกสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างชอบเลยก็คือโถงทางเดิน ที่ปูไปด้วยกระเบื้องลายตารางหมากรุก กระจกข้างหลายบาน ด้วยมิติที่ค่อนข้างลึกจึงทำให้ตรงจุดนี้ กลายเป็นจุดสำหรับแวะถ่ายรูปได้เหมือนกัน
ในส่วนของสเตชั่นต่างๆ ก็มีการแยกออกมาชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสเตชั่นของหวาน สเตชั่นอาหารไทย สเตชั่นเสต็ก สเตชั่นอาหารอีสาน หรือ สเตชั่นเมนูของย่างต่างๆ ซึ่งถ้าเป็นสเตชั่นอื่นๆ ที่ไม่ใช่สเตชั่นที่เดินไปเลือกเอง เราสามารถสั่งกับทางสเตชั่นแล้วก็จะมีบริการเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ แต่ส่วนสเตชั่นเดินไปเลือกเอง เราก็สามารถเดินไปเลือกเมนูที่ต้องการได้เลย ซึ่งเขาก็จะทำให้ ตามจำนวนที่เราต้องการ
ส่วนในโซนเครื่องดื่ม เมื่อก่อน Copper Buffet จะมีเพียงแค่โซน Nitro Bar เพียงอย่างเดียว แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการเพิ่มโซนสำหรับดื่มเพิ่มมานั้นก็คือ Beverage & Bar ที่จะเป็นโซนเลือกเครื่องดื่มแบบซอฟท์ดริ้งค์ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ นม น้ำอัดลม ส่วน Nitro Bar ก็ยังคงมีเครื่องดื่มซิกเนอเจอร์เหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นน้ำผึ้งมะนาว ชานมใต้หวัน เป็นต้น
เมนูใหม่ Copper Buffet ที่ไฉไลกว่าเดิม
นอกจากนี้ Copper Buffet ยังขบวนพาเหรดบุฟเฟ่ต์จัดเต็มกว่า 150 เมนู รวมไปถึงเมนูใหม่สุดพิเศษที่เป็นการร่วมมือจากเชฟระดับ Worldclass และเชฟระดับมิชลิน และต้องบอกเลยว่าเมนูพิเศษเหล่านี้มีเฉพาะโปรโมชั่นใน Hungry Hub เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เนื้อออสเตรเลี่ยนโทมาฮอคว์ (Australian Wagua Tomahawk) ที่ย่างสูตรพิเศษด้วยเครื่อง Smoke-Master เซ็ตมิชลินสตาร์ ไม่ว่าจะเป็น ล็อบสเตอร์คาเวียร์และซอสตาชิเบลอบองซ์ ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น ปูม้า คาเวียร์ โชคุปัง และก็รวมไปถึง ซีสเค้ก By PAPARCH ซีสเค้กเจ้าดังจากสิงค์โปร์ รวมไปถึงล็อบสเตอร์อบซีสก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งในเมนูไฮไลท์ ที่ไม่ควรพลาด
ส่วนเมนูเดิมก็ยังมาครบเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อวากิว A5 ผัดไทยปูนิ่ม ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ ข้าวกะเพราวากิวไข่ออนเซน ข้าวผัดมันเนื้อ สปาเก็ตตี้ซอสหมึกดำ ซูชิเนื้อวากิว ส้มตำปูม้า กุ้งดองซีอิ๊ว ปลาหมึกดองซีอิ๊ว หรือ ปลาซาจินึ่งซอสซัลช่ามะม่วงยูซุเป็นต้น
และนี้ก็คือ รีวิว Copper Buffet โฉมใหม่ ที่เราได้ไปสัมผัสมาบอกได้เลยว่าเป็นประสบการณ์ที่ Beyond สมกับคำร่ำลือจริงๆ ส่วนใครที่อยากสัมผัสกับความพิเศษของบุฟเฟ่ต์นานาชาติที่ดีที่สุดในกรุงเทพ ก็ต้องขอแนะนำ Copper Buffet พร้อมกับแพ็คเกจสุดพิเศษ ที่จะได้ทานเมนูจากเชฟระดับมิชลิน เริ่มต้นเพียง 1,999 บาทเท่านั้น!!