หากใครที่คุ้นเคยกับภาพจำของร้านโอมากาเสะที่ต้องเคร่งขรึม เรียบง่าย หรือเต็มไปด้วยไม้สีเข้มแบบดั้งเดิม การได้มาเยือน Akato BKK (Akato Omakase) บนถนนอรุณอมรินทร์ อาจจะทำให้คุณต้องนิยามคำว่า “มื้ออาหารพิเศษ” เสียใหม่ เพราะที่นี่ไม่ได้ขายแค่รสชาติของปลาดิบเกรดพรีเมียม แต่กำลังนำเสนอ “งานศิลปะ” และ “สุนทรียภาพ” ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักตั้งแต่ก้าวแรก
Akato BKK ความงามที่สะกดทุกสายตา

แม้ร้านจะตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี บนถนนอรุณอมรินทร์ แต่การเดินทางนั้นสะดวกสบายมากครับ ตัวร้านอยู่ใกล้กับแยกอรุณอมรินทร์และโรงพยาบาลศิริราช สำหรับใครที่ขับรถมา สามารถนำรถไปจอดได้ที่ ซอยอรุณอมรินทร์ 41 ซึ่งอยู่ใกล้ๆ แล้วเดินย้อนกลับมาที่ร้านได้เลย หรือถ้าใครไม่อยากขับรถ การเรียก Grab หรือ Taxi ปักหมุดมาที่ร้านก็หาเจอได้ง่ายดาย

ทันทีที่ก้าวเข้าสู่โซนโอมากาเสะ ความวุ่นวายของโลกภายนอกก็ดูเหมือนจะเลือนหายไป สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือความอลังการที่ชวนให้หยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพในทันที เพดานร้านประดับด้วยโคมไฟขนนกสีขาวฟูฟ่องที่ดูนุ่มนวลราวกับก้อนเมฆ แซมด้วยดอกไม้สีแดงสดที่ทิ้งตัวลงมาอย่างมีศิลปะ สร้างจุดนำสายตาที่โดดเด่นตัดกับความเรียบหรูของห้อง
เคาน์เตอร์บาร์ของที่นี่เลือกใช้โทนสีขาวสะอาดตา ตัดขอบด้วยสีทองแวววาว เข้าชุดกับเก้าอี้และจานชามขอบทองที่จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบพร้อมผ้าเช็ดปากสีแดงเลือดนก ทุกรายละเอียดสะท้อนถึงความ Modern Luxury ที่ดูแพงและมีรสนิยม บรรยากาศโดยรวมมีความสว่างไสว อบอุ่น และเป็นมิตร ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่าจะรู้สึกเกร็ง ทำให้ที่นี่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพาคนรู้ใจมาเดท หรือจะพาครอบครัวมาฉลองในโอกาสพิเศษก็ดูสมเกียรติสุดๆ
ทางเลือกความอร่อยที่คุณกำหนดได้: จาก Standard สู่ Premium


ไฮไลท์สำคัญของ Akato BKK คือการเปิดโอกาสให้คุณเลือกดื่มด่ำกับรสชาติได้ตามงบประมาณและความต้องการ ผ่าน 2 คอร์สหลักที่คัดสรรมาอย่างดี
หากคุณเป็นมือใหม่หัดทานโอมากาเสะ หรือมองหามื้ออร่อยในราคาที่เข้าถึงง่ายสุดๆ “Standard Course” (920 Net) คือตัวเลือกที่คุ้มค่าอย่างเหลือเชื่อ การเดินทางของรสชาติในคอร์สนี้เริ่มต้นด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง เต้าหู้เย็น (Cold Tofu) เนื้อเนียน และ หมึกโฮตารุ (Hotaru) ที่ระเบิดรสชาติแห่งท้องทะเล
เมื่อเข้าสู่ช่วงซูชิ เชฟจะเสิร์ฟความสดใหม่ผ่านเมนูอย่าง ซูชิปลาอากามิ (Akami Sushi) สีแดงสดเนื้อนุ่ม และ ซูชิปลาฮาลิบัต (Atlantic Halibut) เนื้อขาวเด้ง แต่ทีเด็ดที่ห้ามพลาดคือความสร้างสรรค์ในเมนู ฮอนมากุโระถ้วยทอง (Honmaguro Cup) ที่เสิร์ฟมาอย่างเลอค่า และ ซูชิไส้มันปู (Kanimiso Sushi) ที่หอมมันเข้มข้น ก่อนจะตัดรสด้วย ไข่ตุ๋น (Chawanmushi) ร้อนๆ และปิดท้ายของคาวด้วย ซูชิปลาชิมาอิจิ (Shimaji Sushi) กับ ซุปมิโซะ รสกลมกล่อม โดยมี เค้กสูตรพิเศษ (Foam Cake) เนื้อเบานุ่มเป็นของหวานล้างปาก


แต่ถ้าวันนี้คือวันพิเศษที่คุณอยากปรนเปรอตัวเองแบบจัดเต็ม “Premium Course” (2,499 Net) ที่เสิร์ฟยาวถึง 14 คอร์ส คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ เริ่มต้นความสดชื่นด้วย Akato Special Drink และ ยำสาหร่ายไคโซ (Kaiso Salad) ก่อนจะพาคุณไปสัมผัสวัตถุดิบพรีเมียมอย่าง ซูชิโฮตาเตะ (Hotate Sushi) ชิ้นโต และ ซูชิกุ้งอาร์เจนติน่า ที่หวานกรอบ
ความสนุกของคอร์สนี้อยู่ที่เมนู Handroll ที่มีทั้งไส้ Yuzu Saba หอมกลิ่นส้มยูซุ และไฮไลท์อย่าง Handroll Uni ที่ใส่อูนิมาให้แบบจุใจ นอกจากนี้คุณยังจะได้ลิ้มลอง “ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล” อย่าง ตับปลาอังกิโมะ (Anko Fish Liver) ที่นุ่มละมุนลิ้น
ในส่วนของซูชิ คอร์สพรีเมียมจะยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วย ซูชิปลาคินมาได (Kinmadai) และราชาแห่งปลาดิบอย่าง ซูชิปลาโอโทโร่ (Otoro) ที่ไขมันแทรกจนละลายในปาก ยิ่งไปกว่านั้น เชฟยังเสิร์ฟเมนูย่างสุดหรูอย่าง มันปูหิมะย่าง (Canadian Snow Crab) ที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วร้าน ก่อนจะจบมื้อด้วย ซุปหอยตลับ และของหวานอย่าง Stylish Foam Cake
และนี้ก็คือ Akato BKK หรือ (Akato Omakase) โอมากาเสะลับๆ ที่ซ่อนอยู่ในย่านของ อรุณอมรินทร์ 41 ซึ่งนอกจากจะได้สัมผัมกับรสชาติของเมนูสุดพิเศษจากวัตถุดิบพรีเมียมหลากหลาย ราคาที่ว่าย่อมเยาว์จ่ายเริ่มต้นไม่ถึงหลักพัน ก็สามารถมาสัมผัสได้แบบไม่ยากเลย งั้นถ้ารู้แบบนี้แล้วอ่าลืมบอกเพื่อน คนรู้ใจ มาลองกันดู พร้อมกับโปรพิเศษที่มีที่เฉพาะ Hungry Hub เท่านั้น



