เชื่อได้เลยว่า ทุกคนกำลังคิดว่าการไปทาน Fine Dining จะต้องคีพลุคให้ดูดีตลอดเวลา แต่วันนี้เราจะพาไป รีวิว Vikarn Bangkok ร้านอาหารไทย ที่ฉีกกฎเกณฑ์แบบเดิมๆ ให้กลกายเป้น Fun Dining ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยชื่อเมนู รสชาติอาหาร บรรยากาศ ที่เหมาะสำหรับชวนเพื่อนออกไปปาร์ตี้ด้วยกัน แล้วจะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง ไปติดตามพร้อมกันเลย
สำหรับร้าน Vikarn Bangkok (วิกาล) เป็นร้านอาหารไทยน้องใหม่ในย่านถนนจันทน์ ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 โดยเป็นร้านที่ดูแลโดย คุณปราง หรือ คุณปรางค์บุญ แสงอำพันธ์ ซึ่งเป็นผู้ที่ชื่นชอบการทานอาหารแนว Fine Dining และออกไป Party เป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว จึงทำให้เกิดเป็นร้านอาหารวิกาลขึ้นมา
สำหรับการเดินทางมายังร้านนั้น สามารถขับรถยนต์ส่วนตัวผ่านเส้นถนนสาธุประดิษฐ์ แล้วมาจอดรถได้ที่ศาลเจ้าแซ่ซิ้ม แล้วเดินไปที่ซอย 4 ซึ่งห่างจากตัวร้านประมาณ 100 เมตร เท่านั้น เมื่อมาถึงที่หน้าร้านแล้วก็จะพบกับทางเข้าที่ดูมีความลึกลับ และเมื่อเดินไปไม่กี่ก้าวก็จะพบกับประตูที่เหมือนเชื้อเชิญ ให้ก้าวเข้าไปสู่โลกใบใหม่ที่อยู่หลังประตูบานนั้น
บรรยากาศข้างในร้าน Vikarn จะเน้นไปทางโทนสีดำและสีแดง โดยมีคอนเซปต์ที่ชัดเจนอย่าง Bangkok Nightlife ซึ่งเปรียบเสมือนการเดินทางมาที่ร้าน เป็นดั่งช่วงเวลาที่สนุกของชีวิตในยามค่ำคืน เพราะนอกจากจะครบรสในด้านของความหรูหราในแบบฉบับร้านอาหาร Fine Dining ยังเต็มไปด้วยสีสันจากบรรยากาศรอบๆด้าน อีกด้วยเช่นเดียวกัน
ใครที่มาคนเดียว แล้วรู้สึกว่าเหงาใจ อยากจะหาคนคุยด้วยข้างๆ ภายในโซนบาร์ของชั้น 1 ก็จะมีที่นั่งทานอาหาร โดยนอกจากจะมีที่นั่งให้ได้นั่งกว่า 8 ที่ ยังได้ชมการทำอาหารของเชฟแบบสดๆ หรือ Live Cooking ตรงนั้นเลย และที่สำคัญใครที่อยากรู้เรื่องอาหาร วัตถุดิบ ก็สามารถพูดคุยกับเชฟตรงนั้นได้อย่างเต็มที่ แถมมีเซอร์วิสที่จะสร้างความบันเทิงแบบสุดๆ
มาดูในฝั่งของเมนูอาหารของที่นี่กันบ้าง เมนูของร้าน Vikarn จะเป็นคอร์สอาหารในแบบฉบับ Fun Dining ที่จะมีทั้งอาหารไทย และสัญชาติอื่นๆ มารังสรรค์ให้เต็มไปด้วยความสนุกสนานด้วยการหยิบชื่อเพลงดังที่ติดกระแสไวรัล มาตั้งเป็นชื่อเมนูอาหาร และทุกครั้งที่มีการเสิร์ฟมาถึงโต๊ะพนักงานก็จะมีการเต้นและร้องเพลงโชว์ สนุกสนานกันไปตามธีมหลักของร้าน
เริ่มต้นกันด้วย _____ฮวกเอาไปฝากป้า ป้าไปนาเลยห้อยไว้หน้าอั้ว หรือ เมนูห่อหมกปลา เมนูทานง่ายๆ ในคำเดียวแต่อัดแน่นไปด้วยปลากะมงพร้าวจากสุราษฎร์ธานี นำไปนิึ่งกับพริกแกงห่อหมก เพสโต้ครีมชีส ท็อปปิ้งด้วยเจลไข่แดงพร้อมคาเวียร์ จึงกลายเป็นการผสมผสานของอาหารไทยที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีให้ทันสมัยและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ไปกันต่อ _____มันเป็นนักสู้ ไอ้เขียวเป็นนักซิ่ง หรือ ข้าวหมูแดง เมนูนี้ลืมภาพจำเก่าๆไปได้เลย เพราะเมนูนี้เป็นการดัดแปลงเมนูจานเดี่ยวให้ออกมา ในรูปแบบ Fun Dining สุดหรู ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมจากขอนแก่นอย่าง “หมูภูเม็ง” นำไปหมักและรมควันกว่า 48 ชั่วโมง ราดซอสหมูแดงที่ผสมผสานด้วยเนย และโรยปิดท้ายด้วยข้าวตังกรอบที่นำไปเบิร์นให้หอม และสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยเมื่อต้องทานข้าวหมูแดงก็ต้องมีซอสซีอิ้ว ก่อนที่จะล้างปากด้วยยำแตงโมเหลือง
หิวเมื่อไหร่ ก็แวะมา แต่ถ้าคิดถึงแซนวิชเบคอนหอมๆ ที่วิกาลก้มีให้ได้ลองด้วย ซึ่งเบคอนที่นำมาใช้นั้นก็ได้เลือกใช้ หมูดอยตุง จากภาคเหนือของประเทศไทย รำไปอบให้กรอบและทานด้วยเมเปิ้ลไซรัป ตรงกลางจะเป็นไอศกรีมกระทิและมิโซะ ที่ถูกนำไปรมควัน ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยขนมปังบริออชที่ใช้เนยและเนื้อขนมปังจากฝรั่งเศส และพระเอกของเราคาเวียร์จากหัวหิน
เมนูนี้ยกให้เป็นอันดับ 1 ที่ถ้าเกิดใครได้มาที่นี่จะลองสั่งเป็นอันดับต้นๆ นั้นก็คือ ข้าวกุ้งซอสต้มข่า ซึ่งเป็นเมนูที่ชนะในรายการทำอาหารชื่อดังอย่าง Iron Chef Thailand โดยจะเสิร์ฟในรูปแบบ Pre-Main Course โดยที่มาของเมนูนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูที่เราเห็นได้ตามร้านข้าวแกง แต่ตัวต้มข่าจะนำไปเคี่ยวเป็นซอสพร้อมใส่มันกุ้งและหัวกุ้งลงไป และเพิ่มความแซ่บด้วยพริกขิง ใบมะกรูดมายองเนส ข้าวสันป่าตองจากเชียงใหม่ และ เครื่องเคียงยำต้นหอม
__หนีบอีปิอีปิอีปิอีปิอีปิ เจ็บหลาย เห็นแบบนี้อย่าพึ่งคิดไปไกล เพราะว่านี้คือ อูด้งขนมจีนแกงปู เมนูฟิวชั่นที่เลือกใช้เส้นอูด้งเกาหลีนำไปผสมผสานกับแกงปูสูตรเด็ดจากชุมพร และตัวปูที่เลือกใช้นั้นก็จะเป็นปูขนมปัง โดยจะให้ไข่ปูและมันปูที่เยอะมากๆ ซึ่งก็จะให้ความรู้สึกครีมมี่และเข้มข้นแบบสุดๆ
หลังจากจัดหนักของคาวกันมาเยอะแล้ว ของหวาน แน่นอนว่าจะพลาดไปได้ยังไง! ซึ่งถ้าจะพูดถึงของหวานในแบบไทยๆ ก็ต้องยกให้ทับทิมกรอบ เป็นหนึ่งในนั้นเลย แต่ว่าคราวนี้ยกระดับให้หรูไปอีกขั้นด้วยการเลือกใช้บีทรูท ควบคู่กับน้ำกะทิจากครีมและครีมซีสรมควันที่มีรสชาติเค็มเหมือนกะทิ และส่งต่อความหวานด้วยใบเตยซอเบ เหมาะสำหรับการทานปิดคอร์สได้ดีเลยทีเดียว
และนี้ก็คือ รีวิว Vikarn Bangkok ร้านอาหารไทยแบบฉบับ Fun Dining ที่จะฉีกภาพจำของร้านอาหารหรูแบบเดิมๆ ให้มีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านของบรรยากาศ ความเอ็นเตอร์เทน และอาหารที่เสิร์ฟมาแบบจุใจ ส่วนใครที่อยากจะสัมผัสกับประสบการณ์แบบนี้ ก็สามารถจองได้แล้วที่ Hungry Hub เพราะตอนนี้มีแพ็กเกจสุดพิเศษ เริ่มต้น 6 คอร์สเพียง 2,578 บาท เท่านั้น
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่
- แนะนำ 10 ร้าน Fine Dining กินคนเดียว อร่อยง่าย สบายใจ 2024
- รีวิว In the house Ari 5 บาร์ลับสุดชิล ไวบ์ดี มีดนตรีสดให้ฟัง
- 10 ร้านหรู Fine Dining อาหารไทย 2024 ติดดาวมิชลิน ต้องไปลอง!
- 20 ร้านบรรยากาศโรแมนติก บรรยากาศดี 2024 พาไปเดทกับคู่รัก ด้วยมื้อสุดพิเศษ