Sloth Sukiyaki ร้านบุฟเฟ่ต์บรรยากาศอบอุ่น มีตุ๊กตาน้องสล็อธสุดน่ารักมาคอยต้อนรับตั้งแต่หน้าประตู เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่รวมทุกอย่างที่สายกินต้องการ ไม่ว่าจะเป็นของคาว ของหวาน เครื่องดื่ม หรือน้ำจิ้มก็มีให้เลือกมากมาย อีกทั้งยังมีประเภทอาหารหลายสไตล์ให้เลือกกันตามใจชอบ เรียกได้ว่ามากินที่นี่นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังได้สนุกกับการเลือกของกินอีกด้วย ถ้าอยากรู้ว่า Sloth Sukiyaki มีความพิเศษที่น่าสนใจยังไง วันนี้ Hungry Hub จะพาไปดู!
รีวิว Sloth Sukiyaki บุฟเฟ่ต์รวมหมด ครบจบในที่เดียว
วิธีเดินทาง
สล็อธ สุกี้ยากี้ แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ เป็นสาขาแรก ร้านตั้งอยู่ในห้าง Jas Urban ชั้น 2 ตึกที่มีโรงหนัง SF อยู่ติดกับ The Charming Clinic เปิดตั้งแต่ 11 โมงถึง 4 ทุ่ม ใครที่จะเดินทางมาที่นี่สามารถนั่งรถเมล์สาย 145 มาลงใกล้ ๆ ห้าง Jas Urban หรือลงรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีศรีด่าน ทางออก 1 แล้วเดินต่อไปอีกนิดก็จะถึงร้าน
บรรยากาศ และ จุดเด่น
บรรยากาศของร้านนี้จะให้ฟีลฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในเกาหลี จุดเด่นของที่นี่คือการตกแต่งร้านด้วยน้องสล็อธสุดน่ารัก โดยตั้งแต่เปิดประตูร้านเข้ามาก็จะเจอต้นไม้ใบสีส้มที่ห้อยตุ๊กตาสล็อธไว้เต็มไปหมด แถมผนังร้านก็ยังตกแต่งด้วย รูปวาดสล็อธกำลังกินเมนูต่าง ๆ ของร้าน Sloth Sukiyaki เพิ่มความน่ารักและอบอุ่นให้กับร้าน
สำหรับเรื่องที่นั่งก็ไม่ต้องห่วงเลย ไม่ว่าคุณจะมากับแก๊งเล็ก แก๊งใหญ่ ครอบครัว แฟน หรือแม้แต่มาคนเดียว ที่นี่ก็มีที่นั่งดี ๆ รองรับคุณแน่นอน เพราะร้าน Sloth Sukiyaki มีที่นั่งทั้งแบบนั่ง 2 คน 4 คน 6 คน หรือจะมากกว่านั้นทางร้านก็จัดให้ได้ ร้านกว้างขวาง น่านั่ง เดินไปตักน้ำจิ้ม หรือกดเครื่องดื่มได้สบาย ที่นั่งเป็นเบาะนุ่ม ๆ มีหมอนอิงหลังแก้เมื่อย หรือจะเอามานั่งกอดแก้หนาวก็ยังได้
ขั้นตอนการสั่งอาหาร
Sloth Sukiyaki เป็นร้านสไตล์บุฟเฟ่ต์ที่สามารถกินได้ไม่อั้นในเวลา 2 ชั่วโมง ขั้นตอนการสั่งอาหารทั้งง่ายทั้งสะดวก มีแค่ 4 ขั้นตอนเท่านั้น
ขั้นตอนแรก คือ การเลือกแพ็กเกจราคาบุฟเฟ่ต์ เลือกได้ตั้งแต่ 549.-++ 849.-++ ไปจนถึง 1299.-++ ขั้นตอนต่อไป คือ การเลือกระหว่างหม้อชาบูกับกระทะสุกี้ยากี้ แต่สำหรับลูกค้าที่มา 4 คนขึ้นไป จะสามารถสั่งได้ทั้งคู่ ส่วนใครที่มาน้อยกว่า 4 คนก็ไม่ต้องกังวลไป เพียงแค่จ่ายค่าบริการเพิ่ม 100.- ก็สามารถสั่งได้ทั้งคู่เหมือนกันแล้ว ต่อมาจะเป็นขั้นตอนการสั่งอาหาร ทุกโต๊ะจะมีกริ่งให้กดเรียกพนักงาน ใครอยากกินเมนูไหนก็สั่งได้เลย มาถึงขั้นตอนสุดท้าย คือ การตักน้ำจิ้มและกดเครื่องดื่ม ที่ร้านจะมีน้ำจิ้มให้เลือกหลากหลาย สามารถปรุงได้ตามใจชอบ หรือถ้าใครปรุงไม่เป็น ร้านนี้ก็มีน้ำจิ้มเด็ด ๆ แนะนำหลายสูตรเลย แต่ถ้าใครไม่ชอบปรุงน้ำจิ้มเอง ทางร้านก็มีน้ำจิ้มสำเร็จรูปอย่างน้ำจิ้มแจ่ว น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มสุกี้ หรือน้ำจิ้มอื่น ๆ ให้เลือกเหมือนกัน และในส่วนของเครื่องดื่ม ร้านจะมีบาร์ให้กดเครื่องดื่มกันแบบจุใจ ทั้งน้ำอัดลม ชา และน้ำอื่น ๆ ใครเป็นสายไหนก็จัดได้ตามใจเลย
เมนูแนะนำที่ต้องไปตำตาม
ร้านนี้มีเสิร์ฟทั้งอาหารคาว อาหารหวาน รวมถึงเครื่องดื่มและน้ำจิ้ม ในหลากหลายสไตล์ ทั้งญี่ปุ่น จีน ไทย เกาหลี ยุโรป เรียกได้ว่าเป็นร้านบุฟเฟ่ต์นานาชาติเลยก็ว่าได้ นอกจากความหลากหลายของสัญชาติแล้ว ร้านนี้ก็ยังมีประเภทอาหารให้เลือกอีกเยอะ ทั้งชาบู สุกี้ อาหารทะเล ซาชิมิ และอาหารประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย บอกเลยว่าเป็นบุฟเฟ่ต์ที่รวมทุกอย่างครบจบในที่เดียว
1. Sloth Sukiyaki Roll
เปิดประเดิมเมนูแรกด้วยของคาวกับเมนู สล็อธ สุกี้ยากี้ โรล เมนูพิเศษของทางร้านที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ซูชิสอดไส้เนื้อผัดซอสสุกี้ยากี้แน่น ๆ โปะเนื้อวากิวเบิร์นไฟ แล้วราดซอสสูตรพิเศษของทางร้าน เวลากินให้เอาลงไปจุ่มไข่ดิบกินได้จนทั่ว เม็ดข้าวเหนียวนุ่ม ไส้เนื้อผัดชุ่มฉ่ำ เนื้อวากิวหอม ๆ ไข่ดิบเยิ้ม ๆ เพิ่มความนัว พอกินรวมกัน จะได้รสสัมผัสนุ่มละมุนกลมกล่อม เป็นการเปิดมิติใหม่ของการกิน เหมือนได้กินซูชิพร้อมชาบูในคำเดียว
2. ปลาไหลฟัวกราส์ซูชิ
มาต่อเมนูที่สองด้วยเมนูซูชิเช่นเคย กับเมนู ปลาไหลฟัวกราส์ซูชิ เป็นซูชิหน้าปลาไหลพันสาหร่าย ท็อปด้วยฟัวกราส์ ชิ้นพอดีคำ แล้วราดซอสแบบฉ่ำ ๆ ปลาไหลทำมาดี ไม่คาว กินคู่กับฟัวกราส์ที่มีความครีมมี่ เนื้อละมุน ตบท้ายด้วยซอสที่ราดมา ทำให้เมนูนี้รสชาติหวานเค็มหอมมันลงตัว เป็นอีกเมนูที่ต้องลองเลย!
3. วากิวด้ง
ถัดมาจะเป็นเมนู วากิวด้ง เมนูที่อยากให้ทุกคนได้ชิม ข้าวญี่ปุ่นเหนียวนุ่ม โปะด้วยเนื้อวากิวที่ปรุงรสมาอย่างพิถีพิถันเรียงตัวสวยงาม ตามด้วยไข่ดิบคุณภาพดี เวลากินให้ตีไข่ให้แตกแล้วคลุกไข่ให้ทั่วข้าว จะเพิ่มความอร่อยนัวขั้นสุด เป็นเมนูที่กินแล้วฟินจนต้องสั่งซ้ำแล้วซ้ำอีก
4. ทูน่าซาชิมิ
ต่อไปจะเป็นเมนูซาชิมิอย่าง ทูน่าซาชิมิ ทูน่าสด ๆ เนื้อนุ่มเด้ง รสชาติหวานละมุนลิ้น ไม่คาว กินเปล่า ๆ ก็อร่อย หรือจะจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้านของทางร้านก็จะยิ่งอร่อยขึ้นไปอีก แต่ถ้าใครอยากกินคู่กับน้ำจิ้มอย่างอื่นก็สามารถครีเอตได้ตามใจชอบเลย จะจิ้มน้ำจิ้มแจ่ว หรือน้ำจิ้มที่ปรุงเองก็ลุยโลด!
5. กุ้งแม่น้ำ
มาต่อกันที่เมนูอาหารทะเลไทยอย่าง กุ้งแม่น้ำ กุ้งตัวโต ๆ เนื้อแน่น ๆ รสชาติหวานอร่อย หัวกุ้งมีมันกุ้งมัน ๆ เยิ้ม ๆ กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ เผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม กลมกล่อมลงตัว หรือจะแกะกุ้งมาโปะข้าวสวยร้อน ๆ แล้วราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด เป็นเมนูข้าวหน้ากุ้งแกะที่กำลังอินเทรนด์อยู่ตอนนี้ก็อร่อยไม่แพ้กัน
6. หอยนางรมยักษ์เกาหลี
ยังอยู่กับเมนูอาหารทะเล แต่ครั้งนี้เป็นเมนูอาหารทะเลเกาหลีอย่าง หอยนางรมยักษ์เกาหลี ที่ทางร้านจะเสิร์ฟมาคู่กับน้ำพริกเผาและหอมเจียว บอกเลยว่าเด็ดมาก แนะนำให้กินทุกอย่างพร้อมกันในคำเดียว จะเพิ่มความฟินแบบคูณร้อย เพราะจะได้ทั้งความหวานสดเด้งของหอย ความเผ็ดมันกลมกล่อมของน้ำพริกเผา และความกรอบจากหอมเจียว เรียกได้ว่าอร่อยจบครบในคำเดียว
7. Bingsu Mango Tango
คราวนี้มาโซนของหวานกับเมนู บิงซู มะม่วงแทงโก้ กันบ้าง กินของคาวจนหนำใจแล้วก็ต้องตามด้วยของหวาน และเมนูนี้ก็เป็นของหวานที่ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะมันอร่อยมาก ย้ำ อร่อยมาก! เนื้อบิงซูเนียนละเอียด หวานกำลังดี ราดด้วยนมสูตรพิเศษของทางร้านที่หอมมันละมุนลงตัว กินคู่กับมะม่วงชิ้นพอดีคำ รสชาติหวานอมเปรี้ยว สดชื่น ตัดเลี่ยนได้ดี ปริมาณที่เสิร์ฟมาไม่เยอะเกิน ไม่น้อยเกิน ไม่ตัดกำลังแน่นอน
8. นมกล้วย + ไอติม Ben&Jerry's รส Chocolate Fudge Brownie
ยังอยู่กับเมนูของหวานอย่าง นมกล้วย + ไอติม Ben&Jerry’s รส Chocolate Fudge Brownie เมนูสุดครีเอต ที่ทางร้านแนะนำมาว่าอร่อยลงตัว เข้ากันแบบไม่น่าเชื่อ วิธีทำก็ง่ายมากแค่กดนมกล้วยให้เกือบเต็มแก้ว แล้วใส่ไอติม Ben&Jerry’s รส Chocolate Fudge Brownie ลงไป ก็จะได้เมนูช็อกโก้บานาน่าแสนอร่อยมากิน ไอติมช็อกโกแลตเข้มเข้นเข้ากับนมกล้วยหวานละมุน เป็นได้ทั้งของหวานและเครื่องดื่มไปในตัว เมนูสุดเก๋ที่อยากให้ทุกคนได้ลอง
นอกจากเมนูแนะนำทั้ง 8 เมนูแล้ว ร้าน Sloth Sukiyaki ก็ยังมีเมนูอีกมายมายให้ทุกคนได้ไปลองกินกัน โดยเฉพาะพวกเมนูเนื้อต่าง ๆ ทั้งวากิวสันคอ วากิวคารุบิ วากิวใบพาย หรือเนื้อริบอายออสเตรเลียที่คุณภาพเกินราคา นุ่มลิ้นละลายในปาก แต่ที่พลาดไม่ได้เลยคือโซนเครื่องดื่มกับน้ำจิ้มที่มีให้เลือกแบบจุใจ
โซนเครื่องดื่ม มีทั้งชานมสล็อธหวานน้อยกลมกล่อม กินคู่กับไข่มุกหนุบหนับตักไม่อั้น ฟินสุด ๆ นมกล้วยเกาหลีหวานละมุนหอมกล้วย ชามิกซ์เบอร์รี่หวานอมเปรี้ยว อร่อย สดชื่น พันช์เบอร์รี่ที่เปรี้ยวกว่าชามิกซ์เบอร์รี่เล็กน้อย กินแล้วตื่นแน่นอน ชาลิ้นจี่พีชรสชาติคล้ายปีโป้สีขาว ใครชอบกินปีโป้สีนี้ต้องจัดแล้ว ชาเขียวมัทฉะข้าวคั่วหอมกลิ่นชา อร่อย ตัดเลี่ยนได้ดี ตะไคร้ใบเตย น้ำสุดเก๋ที่อยากให้ทุกคนได้ชิม เก๊กฮวยหวานกำลังดี ลิปตันหวานเปรี้ยวลงตัว หรือจะเป็นน้ำอัดลมซ่า ๆ ก็มีนะ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์เรียบร้อย ไม่มีบวกเพิ่ม
โซนน้ำจิ้ม โซนนี้ก็เด็ดไม่แพ้กัน มีทั้งน้ำจิ้มสำเร็จรูปอย่างน้ำจิ้มซีฟู้ดจัดจ้าน รสแซ่บ น้ำจิ้มแจ่วรสเผ็ดเค็มนัวกำลังดี น้ำจิ้มสุกี้หอมงา และน้ำจิ้มอื่น ๆ และไฮไลท์ของโซนนี้คือการปรุงน้ำจิ้มเอง โดยทางร้านจะมีสูตรแนะนำให้ รับรองว่าอร่อยทุกสูตร แต่ที่อยากแนะนำเป็นพิเศษ คือ สูตรน้ำจิ้มไทเป ที่ทางเราลองแล้วติดใจมาก รสชาติเปรี้ยว มัน เผ็ด เค็มกำลังดี นัวมาก
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากไปลองกินร้าน Sloth Sukiyaki แบบคุ้ม ๆ กินได้จุใจในงบสบายกระเป๋า 1 แบงค์เทามีทอน สามารถจองผ่าน Hungry Hub ได้เลย มีให้เลือกถึง 2 โปรโมชั่น ทั้งโปร 666.- ที่จะได้กินบุฟเฟ่ต์ 2 ชั่วโมง บวกกุ้งแม่น้ำ วากิวเบิร์นไฟซูชิ ซาบะซาชิมิ ไข่หวานซูชิ ซาบะเบิร์นไฟซูชิ ยำสาหร่ายซูชิ ปูอัดซูชิ กุ้งวาซาบิดองซูชิ เพิ่มพิเศษเฉพาะลูกค้าที่จองผ่าน Hungry Hub หรือจะเป็นโปร 999.- ที่จะได้ฮามาจิซาชิมิ วากิวฟัวกราโรล ปูนิ่มโรล ฮามาจิหม่าล่าซูชิ และสล็อธ สุกี้ยากี้ โรล ที่เป็นเมนูแนะนำ เพิ่มพิเศษสำหรับ Hungry Hub ไม่ว่าจะโปรไหนก็อิ่มอร่อยคุ้มสุด ๆ อย่ารอช้า รีบสั่งจองเลย!
- โปรโมชั่น : Premium Plus Shabu Buffet ราคา 666.- NET
- โปรโมชั่น : Premium Plus Shabu Buffet ราคา 999.- NET
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่