วันนี้ขอพาทุกคนไปสัมผัสกับ James Boulangerie IconSiam หากใครได้ไปเยือนตระเวนหาของกินไอคอนสยาม เชื่อได้เลยว่า ครัวซองต์เจมส์ จะต้องเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน ด้วยครัวซองต์สูตรเด็ด ที่คงแบบฉบับฝรั่งเศส หอมกรุ่นจากเตา แถมเป็นเมนูเด็ดที่คนต่อแถวคิวยาวที่สุด แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีเมนูอื่นๆ ที่หลายๆคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน จะมีอะไรบ้างไปติดตามกันได้เลย
รีวิว James Boulangerie ร้านครัวซองต์เจ้าดัง กับความอร่อยสไตล์ฝรั่งเศส
James Boulangerie เป็นร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศสสาขาที่สอง สาขาแรกจะอยู่ที่ราชพฤกษ์ โดยสำหรับสาขาใหม่จะตั้งอยู่บนชั้น 6 ของห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม (ICONSIAM) สามารถนั่ง BTS มาลงที่สถานีสะพานตากสินแล้วต่อเรือข้ามฟากมาลงที่ท่าเรือหน้าห้างได้เลย หรือถ้าใครมาด้วยรถไฟฟ้าเส้นสีทองก็สามารถมาลงได้ที่สถานีเจริญนคร ก็สามารถเข้าไอคอนสยามได้เช่นเดียวกัน
บรรยากาศของร้านก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระราชวังโตเกียวที่ในปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์แบบอาร์ตแกลเลอรีในกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศสอย่างปาเลส์ เดอ โตเกียว หรือ (Palais de Tokyo) โดย James Boulangerie ก็ได้มีการปรับปรุงใหม่ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงโทนสีขาว และความหรูหราไว้แบบต้นฉบับ
ที่นั่งภายในร้านก็จะมีทั้งหมด 2 โซนด้วยกัน ทั้งโซนด้านในที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งทานอาหารอยู่ในพิพิธภัณฑ์ พร้อมกับโซนบาร์ที่อยู่ข้างใน รวมไปถึงโซนที่นั่งแบบรูฟท็อป หรือ ที่นั่งด้านนอก สามารถชมวิวอันสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ว่าจะมาทานมื้อกลางวันกับเพื่อนๆ หรือ ดินเนอร์ยามเย็นก็ดีงามไม่แพ้กัน
เมนูอาหารที่ไม่ควรพลาดจาก James Boulangerie
แน่นอนว่าจุดเด่นของที่นี่ นอกจากในเรื่องของบรรยากาศแล้ว ในเรื่องอาหารและของหวานก็เป็นสิ่งหลักๆ ที่จะต้องชูโรง เพราะทุกเมนูดูแลโดย เชฟเจมส์-พชร เถกิงเกียรติ เชฟผู้ชนะจากรายการ Iron Chef Thailand หรือ เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ในช่วงปี 2563 อีกทั้งยังเป้นผู้สร้างปรากฎการณ์ครัวซองต์ให้โด่งดังในประเทศไทย โดยเฉพาะครัวซองต์ยักษ์ ที่ไม่ว่าจะเป็นนักรีวิวหรือคนทั่วไปก็ต่างติดใจ ต่อคิวกันยาวมาแล้วนับไม่ถ้วน
ส่วนใหญ่แล้วเมนูอาหารของที่นี่จะเป็นเมนูอาหารและเมนูของหวานสไตล์ฝรั่งเศส ที่มีให้เลือกว่า 30 เมนู แต่ละเมนูก็จะเป็นเมนูพรีเมี่ยมที่ยังคงเอกลักษณ์ของร้านขนมเอาไว้อย่างดี และที่สำคัญด้วยการดูแลและรังสรรค์โดยเชฟผู้มากความสามารถอย่างเชฟเจมส์ ทำให้มั่นใจได้เลยว่าอร่อย ถูกปากอย่างแน่นอน
1. Truffle Mushroom Soup With Garlic Cheese Croissant
เริ่มต้นกันด้วยเมนูแรก ซุปเห็ดทรัฟเฟิล พร้อมครัวซองต์ย่างชีสเนยกระเทียม เป็นเมนูสำหรับใครที่ชื่นชอบความหอมของเห็ดทรัฟเฟิล ด้วยเนื้อครีมที่มีรสชาติเข้มข้น ทานคู่กับครัวซองต์ซีสย่างกระเทียมสูตรลับเฉพาะ ที่มีความกรุบกรอบ ทานคู่กับซุปความหวาน มัน เข้ากันได้อย่างดี
2. Champignon Croissant
ครัวซองต์แชมปิญองซอสคาโบนาร่า ซึ่งคำว่าแชมปิญองในภาษาฝรั่งเศสแปลว่าเห็ด โดยเมนูนี้ก็เป้นเมนูที่เลือกใช้ครัวซองต์สไตล์คลาสสิก คู่กับเห็ดแชมปิญอง และเนยชูรสชาติขึ้นมาให้มีความหอมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็ยังเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งทอด มันฝรั่งแบบแผ่น และเบอรี่เป็นเครื่องเคียง ซึ่งจะช่วยล้างปากและทำให้รู้สึกสดชื่นหลังจากทานครัวซองต์เข้าไป
3. Assorted Grilled Sausage
ถ้าเกิดใครเป็นคนรักเมนูย่าง ทานง่ายๆ ก็ต้องขอแนะนำ ไส้กรอกสดรวมย่างนานาชนิด ซึ่งเป็นเมนูจานเด็ดที่รวมไส้กรอกหลากหลายสไตล์ ที่ใช้เครื่องปรุง และส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมกับการย่างแบบพิเศษที่ทำให้เนื้อมีความฉ่ำและนุ่ม แถมยังเสิร์ฟมาพร้อมกับกะหล่ำปลีแดงและบันบด เพื่อให้เข้ากับรสชาติของไส้กรอก
4. Cods Finger
ค็อด ฟิงเกอร์ เป็นเมนูปลาค็อดดำ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ของปลาที่อยู่ในแถบชายฝั่งอเมริกาเหนือไปจนถึงแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือว่าเป็นปลาน้ำลึกที่มีความหายาก แต่ก็กลายเป็นเมนูที่เต็มไปด้วยความกรุบกรอบ การทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับซอสทาร์ทาร์รสเปรี้ยว จึงได้ทั้งความนุ่มละลายในปาก ความกรอบกรอบ ความมัน และควงามเปรี้ยวของรสชาติที่ตัดได้อย่างเข้ากัน
5. Salmon Belly Croquettes
เมนูเรียกน้ำย่อยเบาๆ ต้องลอง คร็อกเก้สอดไส้ท้องปลาแซลมอน เมนูสไตล์ญี่ปุ่นที่ทอดมาแล้วมีความกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับซอสทาร์ทาร์ดิปปิ้ง และผักเครื่องเคียง ตัวคร็อกเก้มีความกรอบนอกนุ่มใน และซอสจะระเบิดความอร่อยเมื่อเข้าปาก จึงเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่คนรักแซลมอนไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
6. Sai-Oui Croissant Roll
ฟิวชั่นจาก 2 ขั้วโลกกันเลยทีเดียวระหว่าง ไส้อั่วและครัวซองต์ที่พันรอบ จึงทำให้เกิดเป็นเมนูฟิวชั่นที่ไม่มีที่ไหนเคยทำมาก่อนนั้นก็คือ ครัวซองต์พันไส้อั่วจิ้มน้ํา พริกหนุ่มแคปหมูเชียงใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าถึงแม้ว่าจะเป็นไส้อั๋วแต่ก็ยังคงความเป็น James เอาไว้ได้อย่างดี ทานคู่กับน้ำพริกหนุ่มและแคปหมูจากเชียงใหม่ กลายเป้นเมนูที่มีความมัน กรอบ ถึงเครื่อง
7. Fettuccine Seafood Kee-Mao
เฟตตูชินี่ผัดขี้เมาเจ้าสมุทร เมนูผัดขี้เมาที่ผสมผสานระหว่างสไตล์อิตาเลี่ยนกับผัดขี้เมารสชาติจัดจ้านถูกใจคนไทย ตัวเส้นเฟตตูชินี่มีความแบนและไม่อมน้ำมันมากจนเกินไป พร้อมกับวัตถุดิบอาหารทะเลชิ้นโตๆ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปลาแซลมอน และปลาหมึก
8. Australian and Japanese Striploin Steak
ใครชอบเนื้อที่นี่ก็มีเมนูเนื้ออย่างสเต๊กเนื้อสตริปลอยน์จากเนื้อสายพันธุ์ออสเตรเลียและสายพันธุ์ญี่ปุ่น โดนเนื้อจะมีระดับความสุกแบบมีเดียมแรร์ที่มีความนุ่มและชุ่มฉ่ำพอสมคร เสิร์ฟคู่กับซอสไวน์แดงที่เข้ากันได้เลยเลยทีเดียว
9. King Salmon Steak
สเต๊กปลาแซลมอนนิวซีแลนด์ เมนูเด็ดเอาใจทาสปลาส้มแบบสุดๆ ที่เลือกใช้ปลา King Salmon หรือ Chinook Salmon จากทะเลแปซิฟิกที่นำมาย่างให้หนังมีความกรอบ และเนื้อมีความนุ่ม ด้านในสุกกำลังพอดี พร้อมกับโรยท็อปปิ้งด้วยไข่ปลาแซลมอน และผักนานาชนิด จึงเป้นเมนูที่เห็นแล้วชวนน้ำลายสอไม่ใช่น้อยๆเลย
10. German Pork Hock
อะไรจะใหญ่โตอลังการได้ขนาดนี้!! กับเมนูขาหมูเยอรมัน ซึ่งขนาดของขาหมูก็ไซส์ใหญ่จุใจมากๆ ส่วนรสชาติไม่ต้องพูดถึงเพราะเนื้อหมูถูกนำไปหมักและทอดให้ผิวด้านนอกมีความกรอบ เนื้อมีความนุ่มละลายในปาก นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเครื่องเคียงกะหล่ำปลีแดงแตงกวาดอง มันฝรั่งบดผัดเนย และซอสสูตรพิเศษ ที่เป็นสูตรลับจากเชฟเจมส์ใครชอบขาหมูเยอรมัน บอกได้เลยว่าต้องห้ามพลาด
11. Duck Confit
ขาเป็ดเนื้อนุ่มตุ๋น เมนูสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ ที่นำไปตุ๋นในน้ำมันอย่างช้าๆ จนได้เนื้อขาเป็ดที่มีความนุ่ม เข้มข้น และอร่อย เสิร์ฟพร้อมครัวซองต์จิ๋ว มันฝรั่งหั่นเต๋าผัดกับเบคอน แอปเปิ้ลเขียว และผักย่าง ที่เพิ่มสีสันและความสดชื่นให้กับเมนูนี้ได้เป็นอย่างดี
12. James’ BBQ Ribs
ซี่โครงหมูบาร์บีคิวสูตรลับ แบบฉบับเชฟเจมส์ โดยส่วนตัวถือว่าเป้นเมนูที่อร่อยและเหมาะสำหรับที่เป็นสายซี่โครงหมูบาร์บีคิว ด้วยตัวเนื้อมีความร่วน นุ่ม ไม่ติดกระดูกพร้อมกับซอสบาร์บิคิวที่มีรสหวานและเค็ม ทำให้กลายเป็นเมนูที่แมทช์กับเนื้อซี่โครงได้เป็นอย่างดี
ปิดท้ายของคาว ต้องตามด้วยของหวาน
ของคาวจัดเต็มที่แล้ว คราวนี้ก็ถึงคิวของหวานและเครื่องดื่มกันบ้าง เพราะแน่นอนว่าที่ James Boulangerie เป็นร้านที่ขึ้นชื่อในด้านของครัวซองต์ เพราะถ้าไม่มีครัวซองต์ก็เหมือนขาดสิ่งสำคัญไป โดยที่นี่ก็จะมีเมนูครัวซองต์หลากสไตล์ให้ได้ลองทานกัน รวบไปถึงของหวาน ไม่ว่าจะเป็น
- Raspberry Paradiso Croissant ครัวซองต์ราสเบอรี่รสชาติเปรี้ยวหวาน หนึ่งในเมนูเด็ดที่เคยมีในร้าน แล้วหายไปรอบหนึ่งจนเรียกร้องให้กลับมาอีกครั้ง ด้วยความกรอบของตัวขนมปัง กับความเปรี้ยว อมหวานกำลังพอดีของราสเบอรี่จึงกลายเป็นความอร่อยที่ลงตัว
- Macadamia Caramel Croissant ครัวซองต์แมคคาเดเมียคาราเมล ที่แค่เห็นแล้วก็รู้สึกเลยว่าจัดเต็มจริงๆ ด้วยการใส่ แมคคาเดเมียราดคาราเมลแบบฉ่ำๆบนตัวครัวซองต์ทที่ขึ้นชั้นเนยมาอย่างดี ด้วยความหอมมัน และความหวานที่กำลังพอดี ใครที่เป้นคนรักเนยจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน
- Black Horse ครัวซองต์ม้าดํา ฟังชื่อแล้วอาจจะรู้สึกแปลกๆสักหน่อย แต่นี่เป้นครัวซองต์สูตรพิเศษที่มีเฉพาะสาขาไอคอนสยามเท่านั้น สาเหตุที่ครัวซองต์เป็นสีดำเพราะเป็นสีจาก Black Cocoa ส่วนไส้ข้างในจะเป็นมัทฉะ พร้อมกับถั่วแดง ที่มีความเข้มข้นสุดๆ ปิดท้ายด้วยการโรยผงมัทฉะ และหมวกซามูไร ใครสายชาเขียวต้องโดน
อีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจก้ต้องขอแนะนำ ครัวซองต์อัลมอนด์ + ซอฟต์ครีมเผินๆอาจจะคิดว่าเป็นเมนูซอฟต์ครีมธรรมดาๆที่มีครัวซองต์ด้านบน แต่ว่าเมนูนี้กลับมีอะไรที่มากกว่านั้น พอกัดคำแรกเข้าไปแล้วรู้สึกได้ถึงซอฟต์ครีมที่มีความนุ่ม หอมกลิ่นนม และผงอัลมอนด์เข้ากับครัวซองต์ที่มีรสชาติหวานมัน เพิ่มความสดชื่นแบบสุดๆ
วันไหนร้อนๆ ห้ามพลาดกับเครื่องดื่มหวานสดชื่น
Peach Passion Tropical Dream
หากของหวานยังไม่พอ หรือ วันไหนที่อากาศร้อนๆแล้วอยากจะเพิ่มความสดชื่น Peach Passion Tropical Dream ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี ด้วยลูกพีชและเสาวรสที่นำมาปั่นเข้าด้วยกันให้เนื้อมีความนุ่มละมุน เปรี้ยวหวานกำลังพอดี เหมาะสำหรับการทานหลังจากผ่านมื้อหนักๆ
- Gin Martini เครื่องดื่มค็อกเทลที่เป็นสัญลักษณืของความเรียบง่าย ด้วยส่วนผสม 3 ชนิด Dolin Dry Vermouth, Lemon Twist และ Olive จึงกลายเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติละเอียดอ่อน เหมาะสำหรับคนลุคคูลๆ
- Aperol Spritz อะเพอรอล สปริทส์ ค็อกเทลยอดฮิตจากอิตาลี่ ที่นิยมเสิร์ฟมาในแก้วไวน์ทรงสูง แนะนำว่าให้สั่งมาดื่มก่อนทานมื้อหนัก อะเพอรอล สปริทส์ จะช่วยเพิ่มความสดชื่น จากสมุนไพรนานาพันธุ์
- Mai Tai ค็อกเทลสไตล์ตาฮิติ ที่เน้นรสชาติของผลไม้ ใครไม่ได้เป้นสายดื่มแอลกอออล์หนักๆ ก็สามารถดื่มได้ ด้วยส่วนผสมของเหล้ารัมบาคาร์ดี้ ส้ม น้ำมะนาว Monin Orgeat Syrup และ Angostura Bitter จึงกลายเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับอากาศร้อนๆ ในบ้านเราได้เป้นอย่างดีเลยทีเดียว
และนี้ก็คือ รีวิว James Boulangerie ร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศสในไอคอนสยาม ถ้าเกิดใครที่อยากจะไปลองสัมผัสความอร่อยกับเมนูระดับเชฟกระทะเหล็ก ตัวร้านก็เปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม ลองชวนเพื่อนๆ ครอบครัว หรือ คนรู้ใจไปกันดู แต่ถ้าเกิดใครเคยไปแล้ว ก็อย่าลืมแชร์บอกต่อให้กับเพื่อนๆกันด้วยนะ
อ่านบทความอื่นๆที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่