- เปิดความอร่อยจากอดีตสู่ปัจจุบัน กับร้านอาหารไทยพื้นบ้าน The Local by Oam Thong เพลิดเพลินใจไปกับการตกแต่งของร้าน ทั้งผ้าไทย งานจักสาน ภาพวาดจิตรกรรมลายไทย โอ่งโบราณ และสิ่งที่สะท้อนความเป็นไทยมากที่สุดคือ ชุดที่พนักงานสวมใส่จากผ้าม่อฮ่อม
- จุดเด่นของร้าน เน้นการเสิร์ฟอาหารไทยพื้นบ้าน และคงรสชาติไทยแท้แบบดั้งเดิมจากอาหารท้องถิ่นทั้งสี่ภาค พร้อมทั้งใช้วัตถุดิบพื้นเพของแต่ละจังหวัดโดยตรง
หากพูดถึงร้านอาหารไทยแท้ตำรับโบราณ บนเส้นถนนสุขุมวิท ที่มีเมนูหลากหลาย รสชาติถึงเครื่อง แน่นอนว่าหลาย ๆ ท่านคงนึกถึงร้านอาหาร The Local by Oam Thong ที่มีชื่อเสียงมานาน จนถึงขนาดได้ Michelin Guide เมื่อปี 2018 และ 2020
ตัวร้านประกอบไปด้วยบ้านสองชั้น 2 หลัง หลังแรกเป็นห้องสำหรับลูกค้า VIP เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว มีส่วนที่เป็นตู้โชว์รวบรวมเอาข้าวของเครื่องใช้เก่าโบราณ ตำราอาหารที่หาได้ยาก และคอลเล็คชั่นผ้าไหมสำหรับวางจำหน่ายจนดูคลับคล้ายกับพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม
ในส่วนของอาหารทางร้าน แต่ละเมนูนั้นถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความปราณีตและพิถีพิถัน ในทุก ๆ จานมีประวัติหรือเรื่องราวอยู่ในตัวมันเอง ซึ่งบางเมนูก็หาทานได้ยากนักในปัจจุบัน ส่วนวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงจะมีความดั้งเดิมและสดอยู่เสมอ อย่างเช่น กะปิ หรือพริกแกงทางร้านก็จะโขลกขึ้นมาเองกับมือในแบบฉบับโบราณ ไม่ได้หาซื้อตามท้องตลาดเหมือนร้านอาหารทั่ว ๆ ไป
อาทิ เมนู ของว่างรวมรส “รวมคำอร่อย” ของว่างเสิร์ฟในขันโตกขนาดเล็ก ที่เปรียบเสมือนรวมความอร่อยจากทั้ง 4 ภาคไว้ในสำรับเดียวกัน ประกอบไปด้วย อาหาร 5 อย่าง ได้แก่ ข้าวซอยไก่ ไก่ห่อใบเตย ข้าวตังหน้าตั้ง เมี่ยงบัวหลวง และทอดมันปลากราย
จานถัดมาเป็น เมี่ยงบัวหลวง ที่ใช้เครื่องเหมือนเมี่ยงคำ แต่แทนที่จะใช้ใบคะน้าหรือชะพลู ทางร้านใช้กลีบดอกบัวหลวงสีชมพูแทน (แนะนำให้รีบทานก่อนที่กลีบจะเหี่ยว) และ เนื้อย่างจิ้มแจ่ว เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวที่ถูกห่อด้วยใบตอง
เมนูประเภท แกง ของที่นี่ก็ดีงามไม่แพ้ประเภทอื่น ๆ เช่นกัน อย่างที่เราได้ลองวันนี้เป็น แกงเผ็ดเนื้อย่างใบชะมวง โดยนำเนื้อย่างที่จี่ไฟจนสุกปานกลาง นำมาคลุกเคล้าพริกแกง ทำให้รสชาติจะออกมาเผ็ด แต่กลมกล่อม และมีความอมเปรี้ยวนิด ๆ ด้วยใบชะมวง
ในส่วนของ เมนูประเภทปลา ปลาที่ร้านส่วนใหญ่จะเป็นปลาจากแม่น้ำและทะเลโดยตรง จากชาวประมงท้องถิ่น เป็นปลาที่มาจากแหล่งธรรมชาติ ที่นำมาปรุงรส และยังสามารถทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ ปลากระพงทอดที่ถูกโรยด้วยเครื่องยำ ทานคู่กันแล้วจะได้ความกรอบจากตัวปลา แต่แฝงไว้ด้วยรสชาติเผ็ดร้อนของเหล่าเครื่องยำ
ต่อกันด้วยอีกหนึ่งวัตถุดิบแห่งท้องทะเล ที่ถ้าไม่ทาน ถือว่ามาไม่ถึง นั่นก็คือ เนื้อปู โดยทางร้านจัดเนื้อปูมาให้แบบเต็มที่เน้น ๆ เมนูที่อยากแนะนำให้ทุกท่านได้ลองกันก็คือ เนื้อปูผัดผงกะหรี่ และ เนื้อปูผัดกะปิ ที่มีรสชาติ หอมเคย
กุ้งแม่น้ำย่าง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 3 แบบ ได้แก่ น้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำยำ และพแนง โดยทางร้านปรุงเนื้อกุ้งได้ความสุกกำลังดี ตัวเนื้อยังมีความฉ่ำ สด เด้ง รสชาติหวานตามแบบที่ควรจะเป็น
ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง ข้าวฟ่างเปียก ที่ทางร้านนำไปต้มกับใบเตย เสร็จแล้วราดหน้าด้วยกะทิ ทับทิมกรอบ ทางร้านจะใช้แห้วแบบ 100% ไม่ผสมแป้ง สีแดงที่เห็นคือสีที่เกิดจากการนำไปแช่ในน้ำแดง ตัวน้ำกะทิจะมีกลิ่นหอมจาง ๆ ที่ได้จากการอบควันเทียน และ บัวลอยสามสี โดยทั้งสามสีนี้มาจาก เผือก ฟักทอง และใบเตย ทานคู่กับมะพร้าวอ่อน เป็นของหวานที่เหมาะแก่การปิดท้ายมื้อได้อย่างลงตัว
The Local by Oam Thong ถือว่าเป็นร้านอาหารที่มีแนวคิดที่ต้องการนำเสนออาหารไทยพื้นบ้านรสชาติต้นตำรับ ที่สำคัญคือมีการรวบรวมเอาอาหารหลายเมนูโบราณที่ปัจจุบันรับประทานได้ยาก แต่ละเมนูล้วนมีที่มาที่ไป ทั้งยังสอดแทรกไปด้วยองค์ความรู้ในการปรุงอาหารของบรรพบุรุษไทยเราเอาไว้ด้วย
นี่จึงถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของมื้ออร่อยที่ผ่านการปรุงด้วยความพิถีพิถัน บางจานที่ดูง่ายและคุ้นเคย แต่กลับซับซ้อนด้วยรสชาติที่ชวนให้หลงใหลติดใจจนไม่อาจลืม ในขณะที่บางจานเมื่อชิมแล้วกลับชวนให้นึกย้อนถึงวัยเด็กที่ได้กินอาหารรสมือแม่ ซึ่งทุกความสุขนี้เราสามารถรับรู้ได้ในทุกคำที่ส่งเข้าปาก
และสำหรับใครที่ต้องการตามรอยไปทาน สามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ผ่านทาง link นี้ได้เลยครับ
อิ่มอร่อยกับร้านอาหารระดับตำนานอย่าง The Local By Oamthong ไปแล้ว แวะฟินต่อให้สุดกับ บุฟเฟ่ต์ 15 ร้าน อิ่มไม่อั้น ต้อนรับหยุดยาว! หรือใครต้องการของหวาน ก็แวะไปชิม ชุดน้ำชายามบ่าย Heritage Afternoon Tea Set ที่ Paii ได้เช่นเดียวกัน