หากใครที่กำลังมองหาบุฟเฟ่ต์โรงแรมหรูใจกลางสุขุมวิท ที่ขึ้นชื่อทั้งเรื่องความคุ้มค่า ความหลากหลาย และรสชาติระดับโลก วันนี้เราจะพาทุกคนไปที่ Atrium Restaurant The Landmark Bangkok หนึ่งในห้องอาหารที่คนรักบุฟเฟ่ต์ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่รวบรวมเมนูเด็ดจากทั่วโลกไว้ครบ ทั้งอาหารไทย ญี่ปุ่น ตะวันตก ซีฟู้ด ของหวาน และอีกมากมาย เสิร์ฟในบรรยากาศสุดหรูสไตล์ Art Deco ที่แค่เดินเข้ามาก็สัมผัสได้ถึงความพิเศษ แล้วที่นี่มีอะไรน่าสนใจบ้าง มาลองดูกันพร้อม ๆ กันเลย!


สำหรับ Atrium Restaurant เป็นห้องอาหารที่อยู่ชั้นล็อบบี้ ของโรงแรม The Landmark Bangkok เมื่อเข้ามาภายในร้านก็จะพบกับการตกแต่งสไตล์ Art Deco ที่ผสมผสานความโมเดิร์นกับกลิ่นอายไทยได้อย่างลงตัว ที่นี่มีทั้งหมด 7 Culinary Theatres ที่เชฟประจำแต่ละสเตชั่นจะรังสรรค์อาหารสดใหม่ให้เห็นกันตรงหน้า ทั้งอาหารตะวันตก ญี่ปุ่น เอเชีย ไทย และขนมหวาน ในบรรยากาศอันหรูหราที่หันหน้าสู่ถนนสุขุมวิท หนึ่งในถนนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก


เริ่มจาก Western Station ที่เน้นเมนูสเต็กและอาหารตะวันตก เนื้อชั้นดีที่ผ่านการย่างอย่างพิถีพิถัน เสิร์ฟพร้อมซอสสูตรเฉพาะที่ยกระดับทุกคำให้หอมกรุ่นและนุ่มละมุน ในขณะที่ Yum Station ก็ยกครัวไทยรสแซ่บมาไว้ตรงหน้า ทั้งยำไทยรสจัดจ้านที่เรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี หรือจะเดินต่อไปที่ Thai Station ซึ่งเป็นแหล่งรวมเมนูไทยแท้ต้นตำรับ ทั้งแกงเผ็ด ผัดรสเข้ม และอาหารโบราณที่หาทานได้ยาก



สำหรับคนรักอาหารทะเล Seafood Station จะไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเสิร์ฟความสดจากทะเลทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ในแบบที่ยกมาให้เลือกแบบจัดเต็ม ส่วน Japanese Station ก็โดดเด่นด้วยซูชิ ซาชิมิ และราเม็งที่คัดวัตถุดิบอย่างดีสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ Cold Station เหมาะกับคนที่ชอบชีสบอร์ดและสลัดสดกรอบหลายสไตล์ เสริมความสุขด้วยความสดชื่นและรสชาติที่ลงตัว และปิดท้ายมื้ออย่างสมบูรณ์แบบที่ Dessert Station กับขนมหวานหลากหลาย ทั้งเค้กนุ่มละมุน มูสรสเข้มข้น ขนมไทย และไอศกรีมที่ใครได้ลองก็ต้องติดใจ

นอกจากจะมีสเตชั่นให้ได้เลือกหลากหลาย ก็ยังมีแพ็กเกจที่ตอบโจทย์สายกินแบบจัดเต็ม เลือกอิ่มอร่อยแบบไม่อั้นได้ตั้งแต่มื้อกลางวันไปจนถึงดินเนอร์ ซึ่งสามารถจองได้ผ่าน Hungry Hub ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ต่อท่าน ไม่
- Lunch Buffet (Mon–Fri) ช่วงกลางวันเหมาะสำหรับผู้ที่อยากอิ่มแบบคุ้มค่า มีซูชิและซาชิมิสดใหม่ Miso Soup เข้มข้น เมนูพาสต้าอย่าง Carbonara, Bolognese, Pesto และ Western Food of The Day สลัดบาร์ที่หมุนเวียนผักสด Cold Cuts และชีสนานาชนิด พร้อม Seafood on Ice ทั้งกุ้งขาว หอยแมลงภู่จากนิวซีแลนด์ และหอยหวาน ปิดท้ายด้วยของหวานเช่น Apple Tatin, Choux Cream, Vanilla Crème Brûlée และ Chocolate Raspberry Mousse มื้อนี้ Hungry Hub จัดให้ในราคาพิเศษ พร้อมเสิร์ฟ Atrium House Wine 1 แก้วต่อท่าน
- Dinner Buffet + Free Flow Soft Drinks (Mon–Thu) ดินเนอร์วันธรรมดาที่จัดเต็มความหรู เริ่มต้นด้วย Oyster สดจากเกาหลี Rock Lobster ตัวโต กุ้งแม่น้ำ เนื้อปลาไทยสด ๆ เมนูพิเศษจากเชฟญี่ปุ่น เช่น Unagi Sushi, Ikura Sushi, Otakaki (ปลาไทย) และ Shrimp Tempura อาหารตะวันตกมีทั้ง Spaghetti Cheese Wheel, Pasta Meatball Massaman Curry, Grilled Duck Breast และ Slow Cooked Pork Cheek ส่วนไลน์ขนมหวานยกทัพ Tiramisu, Pecan Pie, Coconut Panna Cotta และ Mango Croquants อีกทั้งยังมี Atrium House Wine ฟรี 1 แก้ว
- Brunch Buffet + Free Flow Soft Drinks (Sat–Sun) บรั้นช์วันเสาร์-อาทิตย์ที่รวมทั้งอาหารเช้าและกลางวันอย่างลงตัว มี Seafood on Ice: Oyster, Rock Lobster, กุ้งแม่น้ำ, หอยหวาน, หอยแมลงภู่ พร้อม Seafood Dish อย่างปูทะเลนึ่ง กุ้งแม่น้ำเผา ซูชิและซาชิมิ Assorted Sushi, Wagyu Nigiri, Yakitori, Beef Shoyu Ramen, และเมนูพิเศษที่รวมทั้งซี่โครงแกะย่างบนเตาถ่านและหมูซี่โครงบาร์บีคิว เสิร์ฟ Atrium House Wine ฟรี 1 แก้ว
- Dinner Buffet + Free Flow Soft Drinks (Fri–Sun) ดินเนอร์วันศุกร์ถึงอาทิตย์ ที่เพิ่มความพรีเมียมอีกระดับด้วย Roasted Thai Wagyu Picanha, BBQ Grilled Rack of Lamb, BBQ Pork Spare Rib, เมนูไทยอย่าง Boat Noodles with Wagyu Beef, ส้มตำปูนิ่ม, ต้มยำกุ้งเสือ, ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ, เนื้อวากิวผัดใบชะคราม และซีฟู้ดสดแบบจัดเต็ม สำหรับสายหวานยังมีของหวานพรีเมียมให้เลือกมากมาย
สำหรับ Atrium เปิดบริการตั้งแต่เวลา 11:00 – 22:00 น. ตั้งอยู่ที่โรงแรม The Landmark Bangkok, 138 ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เดินทางง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีนานา เดินไม่กี่ก้าวก็ถึง หรือจะขับรถมาก็มีที่จอดพร้อมบริการ
ส่วนใครที่อยากเปลี่ยนมื้อพิเศษให้กลายเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจ ต้องชวนเพื่อนมาลองที่ Atrium Restaurant The Landmark Bangkok เพราะที่นี่คือหนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาด และถ้ายิ่งจองผ่าน Hungry Hub ก็มั่นใจได้ว่าจะได้รับดีลสุดคุ้มพร้อมแพ็กเกจพิเศษที่หาไม่ได้จากที่อื่นอีกด้วย
สามารถดูโปรโมชั่นและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ – Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่