นาทีนี้ในวิภาวดี 20 หากใครจะหาร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลจัดร้านสักร้าน ในราคาสบายกระเป่า วันนี้ Hungry Hub จะพาไป รีวิว ณ คลองวาฬ (Na Klongwan) ร้านอาหารทะเลที่บินตรงมาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่มีเมนูสดใหม่ให้ได้ทานแบบจัดเต็ม ถูกใจใครหลายๆคนที่ไปทาน แต่ถ้าเกิดใครยังไม่เคยไปลอง วันนี้เราจะพาไปรู้จักกันให้มากขึ้น
รีวิว ณ คลองวาฬ บุฟเฟ่ต์อาหารทะเลสุดพรีเมียม ในย่านวิภาวดี 20
ณ คลองวาฬ หรือ Na Klongwan เป็นร้านอาหารทะเล ที่ตั้งอยู่ในซอยวิภาวดีรังสิต 20 เปิดตั้งแต่ 11 โมงถึง 3 ทุ่ม ซึ่งจุดเริ่มต้นเกิดจากเจ้าของร้านอย่างคุณกำไล บุญช่วย ชาวประมงผู้ทำอาชีพส่งออกปลา ในอ่าวมะนาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เติบโตมากับการประมงและที่บ้านก็ได้เปิดร้านอาหารใต้แบบพืิ้นบ้าน
เมื่อเวลาผ่านมาได้เข้ามาเรียนในกรุงเทพ ซึ่งคุณกำไลก็ได้ตระเวนไปทานร้านอาหารต่างๆ เพื่อค้นหารสชาติในแบบที่เคยทานที่บ้าน แต่ยังไม่มีร้านไหนที่ถูกใจ จนในภายหลังที่จบการศึกษาก็ได้มาเปิดร้านอาหารเมื่อช่วงปี 2560 ที่ วิภาวดีรังสิต 20 ในรูปแบบอลาคาส ก่อนที่จะมาเปิดแบบบุฟเฟ่ต์ให้ได้ทานในภายยหลัง
บรรยากาศภายในร้าน ณ คลองวาฬ ตกแต่งในรูปแบบให้มีความใกล้เคียงกับสไตล์ลอฟท์ มีโซนที่นั่งที่ค่อนข้างหลากหลายและกว้างขวาง ไม่ว่าจะจะเป็นโซนที่นั่งแบบเอ้าท์ดอร์ โซนที่นั่งด้านในแบบติดแอร์ โดยจะมีการติดตั้งกระจกแบบใสที่สามารถมองเห็นวิวด้านนอก ทำให้เวลานั่งรู้สึกไม่อึดอัด เหมาะสำหรับการมาทานกับเพื่อน ครอบครัว หรือ ชวนคนรู้ใจมาทาน
นอจจากนี้ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว หรือ อยากจะยกทีมมาจัดเลี้ยงภายในร้านก็ยังมีโซนที่นั่งที่เป็นแบบห้อง VIP ที่เป็นห้องอาหารเหมาะสำหรับการมาเลี้ยงฉลอง ด้วยรูปแบบของที่นั่งที่เป็นแบบโต๊ะกลม มีเก้าอี้ให้ได้นั่งค่อนข้างเยอะ การตกแต่งไปด้วยโคมไฟ เครื่องเสียงพร้อมแบบเสร็จสรรพ สายปาร์ตี้จะต้องถูกอกถูกใจอย่างแน่นอน
มาต่อกันด้วยเมนูของ ณ คลองวาฬกันบ้าง เมนูส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารทะเล รวมไปถึงอาหารใต้แบบพื้นบ้าน ที่เลือกใช้วัตถุดิบแบบสดใหม่ที่ส่งตรงมาจากทะเล โดยสามารถสั่งได้แบบบุฟเฟ่ต์ทานได้ไม่อั้น 2 ชั่วโมงเต็ม ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแม่น้ำ ต้มยำทะเลน้ำข้น ปลากระพงทอดน้ำปลา ใบเหลียงผัดไข่เป็นต้น
ซิกเนเจอร์ของที่นี่เมนูแรกเลยก็ต้องยกให้กุ้งแม่น้ำ ซึ่งเป็นกุ้งแม่น้ำแบบผ่าหลังที่มีไซส์ใหญ่แบบจุใจ เนื้อจะมีความแน่น มันเยิ้ม หอมกลิ่นเผาและกลิ่นของกุ้ง ยิ่งได้ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดบอกได้เลยว่าเด็ด และที่สำคัญเลยก็คือยังสามารถสั่งได้แบบไม่อั้นอีกด้วย
นอกจากกุ้งแม่น้ำที่เป็นทีเด็ดแล้ว ยังมีอาหารทะเลที่ส่งตรงมาจากทะเลมาให้ได้ลองกันอีกเพียบ ต่อกันด้วย หอยเชลล์ย่างเนย ที่เลือกใช้หอยเชลล์สีขาวเนื้อแน่นนำไปเคล้าด้วยเนยสด จากนั้นก็นำไปย่างบนเตาจนเนื้อหอยเปลี่ยนเป็นสีเหลืองชวนให้ทาน แถมกลิ่นของเนยก็ชวนให้เย้ายวนแบบสุดๆ
เอาใจสายดองกันบ้างกับแซลมอนดอง กุ้งดอง และก็ปูไข่ดอง สามสหายเมนูดองที่ทางร้านทำน้ำปลาดองสูตรพิเศษ ที่ทำขึ้นมาเองโดยเฉพาะ แล้วยิ่งมารวมตัวกันของวัตถุดิบแบบสดๆจากทะเล จึงทำให้กลายเป็นเมนูที่ถ้าใครชอบทานเมนูดองต้องไม่พลาดที่จะสั่งมาเลย
ปูนิ่มทอดกระเทียม เมนูทานง่าย เหมาะสำหรับทานเล่นๆ ระหว่างเม้าส์มอยกับเพื่อน ด้วยการนำปูนิ่มแบบสดๆ ไปทอดกับกระเทียมจนสีเหลืองกรอบ พอขึ้นมาปุ้บ ก็จะได้กลิ่นหอมจากกระเทียม และนอกจากนี้ยังสามารถทานได้แบบทั้งตัว ไม่จำเป็นต้องมานั่งแกะเปลือกแต่อย่างไร
ปิดท้ายกันด้วยกันทีอีกหนึ่งเมนูแนะนำ ที่โดนใจสายคนรักอาหารทะเลดดยเฉพาะ ก็ต้องยกให้ ปลากระพงทอดน้ำปลา ที่ไม่ต้องขับรถไปไกลก็ได้ทานใกล้ๆ ที่ลาดพร้าวกันแล้ว ซึ่งปลากระพงที่เสิร์ฟมานั้นขนาดก้ไม่ใช่เล็กๆ จานใหญ่กำลังพอดีแบบที่สามารถแบ่งทานกันได้ โดยตัวน้ำราดก็จะแยกใส่น้ำจิ้มมาให้ด้วย และถ้ายิ่งได้ทานกับข้าวสวยด้วยบอกเลยว่าอร่อยอย่าบอกใครเลย
จบกันไปแล้วกับช่วงพาทัวร์กับ รีวิว ณ คลองวาฬ ที่วันนี้ Hungry Hub พาทุกคนไปเปิดโลกกับร้านบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลและอาหารใต้ยอดฮิตที่นาทีนี้ ใครไม่ได้ไปเท่ากับพลาด เพราะนอกจากจะได้ลิ้มลองทั้งกุ้งแม่น้ำ ปลากระพง ปู แซลมอน และอีกมากมาย ยังได้มาสัมผัสกับบรรยากาศแบบสบายๆ ที่เหมาะสำหรับการมาทานในช่วงวันหิวๆ โดยเฉพาะ
รายชื่อเมนูบุฟเฟ่ต์อื่นๆที่แนะนำ ณ คลองวาฬ
- ใบเหลี่ยงผัดไข่
- ต้มยำทะเลน้ำข้น
- หอยนางรมทรงเครื่อง
- ปูถอดเสื้อ
- แกงส้มแป๊ะชะ
ใครอยากไปทานตอนนี้ ณ คลองวาฬ ก็กำลังมีโปรโมชั่นกับ Hungry Hub กับแพ็กเกจบุฟเฟ่ต์ที่ปรับราคาใหม่ เริ่มต้นเพียง 999 บาทเท่านั้น และที่สำคัญยังไม่มีบวกเพิ่ม แถมยังสามารถนั่งทานได้ 2 ชั่วโมงเต็ม แต่ถ้าอยากจะทานเมนูพรีเมียมมากขึ้นก็ยังมีแพ็กเกจ Premium Seafood Buffet ในราคา 1,234 บาท และ Special Seafood Buffet ซึ่งเป็นแพ็กเกจพิเศษ ที่จะเพิ่มเมนูพิเศษอย่างขาปูหิมะนิ่ง มันปูย่าง ยำกุ้งแม่น้ำ และอีกมากมายกว่า 10 รายการ ในราคา 1,999 บาท เท่านั้น
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย