ราง มาฮาล (Rang Mahal) ร้านอาหารอินเดียเหนือที่ตั้งชื่อเป็นภาษาฮินดีพร้อมความหมายที่แปลว่า “พระราชวังสีสันสวยงาม”ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 18 บนชั้น 26 ของ โรงแรม แรมแบรนดท์ เผยกลิ่นอายความเป็นอินเดียตั้งแต่วินาทีแรกที่เดินเข้าไป เริ่มต้นตั้งแต่พนักงานหน้าตาสวยคมคาย แต่งกายด้วยส่าหรีงดงามยืนต้อนรับสวัสดีทักทายอย่างเป็นกันเอง
พร้อมการตกแต่งร้านสุดหรูสไตล์อินเดียที่ทำให้คุณรู้สึกราวกับเป็นมหาราชาหรือมหารานีในชั่วพริบตา ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ พรมประดับผนัง เครื่องจานและแก้วน้ำสุดหรูที่ทำจากเงิน ซึ่งเป็นเอกลักษ์ของ ราง มาฮาล ที่ใครเห็นเป็นต้องชอบ
นอกจากนี้ราง มาฮาลยังจัดแบ่งพื้นที่อย่างลงตัว มีทั้งโซนริมหน้าต่างที่ให้คุณนั่งชิดติดกระจกใสบานใหญ่ พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศเมืองกรุงยามวิกาล และโรแมนติกยิ่งขึ้นด้วยไฟที่ตกกระทบทอดยาวรับผิวน้ำจากทะเลสาบของสวนเบญจกิติ
และหากมาเป็นครอบครัว ราง มาฮาลก็เตรียมพื้นที่ต้อนรับไว้อย่างอบอุ่นด้วยมุมทานข้าวพร้อมโซฟาหนานุ่มสุดหรูที่จัดสรรเป็นล็อก ให้ความรู้สึกส่วนตัว หรือจะจัดเลี้ยงก็ดูเข้าที เพราะมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะกับการปาร์ตี้สังสรรค์กับชาวก๊วนสุด ๆ
ส่วนเรื่องบริการ…แทบไม่ต้องพูดถึงเพราะดีทุกระดับประทับใจราวกับเป็นชาววังกันเลยทีเดียว
จานเด็ดแดนภารตะจาก ราง มาฮาล
ROGAN JOSH (โรแกน โจช)
เนื้อแกะอบเกรวี่ หัวหอม และเครื่องเทศ สูตรเด็ดจากราง มาฮาลที่ปรุงเนื้อแกะได้นุ่มละมุนจนแทบละลายในปาก ไม่มีกลิ่นคาว ทานคู่กับน้ำแกงเข้มข้นหอมเครื่องเทศอินเดีย รสชาติกลมกล่อมลงตัวดี
JHEENGA KADHAI (จิงก้า กะได๊)
แกงกุ้งสไตล์อินเดียเหนือที่นำกุ้งตัวอวบอ้วนอบในน้ำเกรวี่ มะเขือเทศ เมล็ดผักชี และพริกแห้ง เคล้ากลิ่นเครื่องเทศจาง ๆ เนื้อกุ้งสดกรอบ น้ำแกงเข้มข้นให้รสชาติเปรี้ยวด้วยมะเขือเทศแบบอ่อน ๆ แปลกใหม่แต่อร่อยมาก
TANDOORI JHEENGHA (ทันดูรี จิงก้า)
เมนูนี้คือสวรรค์ของคนรักกุ้ง ราง มาฮาลใช้กุ้งตัวโตหมักด้วยเครื่องเทศแล้วย่างในเตาทันดูร์ เนื้อกุ้งฉ่ำสดหวานกรอบสุด ๆ
MURGH “DUM” BRIYANI (มูรก์ ดัม บริยานี)
ข้าวหมกไก่อินเดีย จัดเสิร์ฟมาในหม้อสุดหรู กลิ่นเครื่องเทศหอมฟุ้งทันทีที่เปิดฝา เม็ดข้าวเรียงตัวสวยไม่แฉะ ไก่เนื้อนุ่มฉ่ำกำลังดี
PANEER MAKHANWALA (ปาเนียร์ ทิกก้า)
สำหรับใครที่ทานมังสวิรัติ ราง มาฮาลก็มีเมนูเด็ดมัดใจ เช่นชีสคอทเทจหั่นเต๋าในพูรีมะเขือเทศ รสชาติเปรี้ยวกำลังดีและมีความหอมของเครื่องเทศ ที่เพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมด้วยลูกซัด (ฟีนูกรีก) ทานคู่กับแป้งนานยิ่งฟิน
หมักย่างเคล้ากลิ่นเครื่องเทศสไตล์ราง มาฮาล
SALMON TIKKA (แซลมอน ทิกกา) และ PANEER TIKKA (ปาเนียร์ ทิกกา)
เริ่มต้นที่แซลมอนหมักเครื่องเทศย่างในเตาทันดูร์ เนื้อหวานฉ่ำ ไม่แห้ง และตามด้วย ปาเนียร์ ทิกกา หรือ คอทเทจชีสสดยัดไส้ด้วยนมโคยาพร้อมเครื่องเทศอินเดียโบราณ (คาร์ดามอม) ย่างในเตาทันดูร์ ที่ทำรสชาติได้ละมุนและไม่เปรี้ยวอย่างที่คิด
ออเดิร์ฟและเครื่องเคียงธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดา
SAMOSA (ซาโมซ่า)
เมนูสุดคลาสสิกประจำร้านอาหารอินเดีย แต่ที่ราง มาฮาลทำได้โดดเด่นกว่าที่อื่นคือการทอดที่ไม่อมน้ำมัน กลมกล่อม ไม่ฉุนพริกไทยและเครื่องเทศมากเกินไป กรอบกำลังดี เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มหวานตัดเลี่ยนได้ดี
NAN (นาน)
ราง มาฮาลจัดเสิร์ฟทั้งนานธรรมดา นานหมักเนย และนานกระเทียม แต่ที่อร่อยสุด ๆ จนต้องยกนิ้วให้คือนานกระเทียม เนื้อแป้งหนานุ่มกำลังดีและไม่เลี่ยน ได้กลิ่นกระเทียมพอหอมปากหอมคอแต่รสชาติถึงเครื่องกระเทียมเน้น ๆ
เครื่องดื่มดับกระหายและของหวานแบบฉบับราง มาฮาล
PASSION MULE
น้ำมะนาว เสาวรส ขิง ผสมกับ จิงเจอร์เอลสูตรเฉพาะของราง มาฮาล เปรี้ยวสดชื่น หวานกำลังดี มีกลิ่นเครื่องเทศอินเดียตัดอ่อน ๆ
KESARI RASMALAI (เคซารี่ ราสมาไล)
ตบท้ายกันที่พุดดิ้งนมผสมแครอทตกแต่งด้วยถั่ว รสชาติหวานมันจากนมกำลังดี ไม่มีกลิ่นแครอทให้ระคายใจ ใครไม่ชอบทานแครอทก็ทานได้สบาย
สรุป: ถ้าใครชื่นชอบอาหารอินเดีย ควรปักหมุดราง มาฮาลเป็นร้านโปรด เพราะรสชาติที่ปรุงได้กลมกล่อม จัดจ้านกำลังดี ไม่ฉุนเครื่องเทศจนเกินไป เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยทานหรืออยากลองทานอาหารอินเดียเป็นครั้งแรก จะฉลองกับคู่รักก็ฟิน จะกินกับคนในครอบครัวก็เหมาะ
สำหรับใครที่อยากตามรอย Mr.Hungry ไปทานร้าน ราง มาฮาล ก็ง่ายมากเพียงจองผ่านช่องทางนี้: จองร้านราง มาฮาล เริ่มต้นเพียง 850 บาทเท่านั้น แต่ได้ทานไม่อั้นตลอด 2 ชั่วโมงเลยนะ คุ้มสุด ๆ !
*สำหรับเมนู Tandoori Jheengha จะได้กุ้ง จำนวนจำกัดท่านละ 1-2 ตัว ตามแพ็กเกจที่เลือก
สามารถอ่านบทความอื่นที่น่าสนใจได้ที่ link