เทศกาลกินเจ 2566 ใกล้จะมาถึงแล้ว หลายๆคนก็อาจจะสงสัยว่าทำไม กินเจ มาจากไหน มีที่มาอย่างไร ทำไมถึงต้องล้างท้องก่อนช่วงเทศกาล แล้วต้องทานกี่วัน วันนี้ Hungry Hub จะขอพาไปทำความรู้จักกับเทศกาลนี้กันให้มากขึ้น ถ้าพร้อมแล้วมาติดตามไปพร้อมๆกันได้เลยครับ
เทศกาลกินเจ 2566 คืออะไร?
เทศกาลกินเจ คือ เทศกาลที่สำคัญของคนไทยเชื่อสายจีน หากจะเรียกง่ายๆก็คือ เทศกาลถือศีลกินผักนั้นเอง ซึ่งก็เป็นความเชื่อที่ได้มีการปฏิบัติกันมาอย่างยาวนานกว่า 400 กว่าปี โดยก็มีตำนานเรื่องเล่าของชาวจีน และตำนานของพระพุทธศาสนา เข้ามาเกี่ยวข้องกับเทศกาลกินเจ หลากหลายตำนาน แต่ทั้งหมดแล้วล้วนเป้นการปฏิบัติเพื่อละเว้นการเบียดเบียนชีวิต และการรักษาศีล 8 ทั้งกาย วาจา และจิตใจ
สำหรับคำว่า เจ หรือ แจ (齋/斋) ที่เรามักจะเรียนกัน และ ที่เราเห็นอยู่บนธงที่ประดับตามเทศกาล มาจากคำว่า ฉี หรือ 齊 ที่มีความหมายว่าความสมบูรณ์ และก็ได้มีการเพิ่มเส้นที่ขีดไว้ตรงกลางของคำว่า ฉี จึงทำให้เกิดคำใหม่ที่แปลว่า ซื หรือ 示 ที่มีความหมายว่า สักการะ จึงกลายเป็นความหมายใหม่ที่แปลว่า การสักการะบูชา ที่สมบูรณ์ไปด้วย กาย วาจา และจิตใจ นั้นเอง
ตำนานเรื่องเราของเทศกาลกินเจ
เดิมทีแล้ว เทศกาลกินเจเป็นประเพณีของคนไทยเชื่อสายจีน ที่จะขึ้นในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอย่างที่บอกไว้ตอนช่วงต้นว่าเป็นการปฏิบัติที่ผสมผสานระหว่างความเชื่อของพระพุทธศาสนาและ ลัทธิเต๋าของประเทศจีนเข้าด้วยกัน ซึ่งก็จะมีตำนานเรื่องเล่าหลายตำนานมากมาย อาทิ
- ตำนานหงี่หั่วท้วง เป็นกลุ่มคนชาวจีนที่ในสมัยนั้นได้รวมตัวกันต่อต้านชาวแมนจู หรือ คนป่าเถื่อน ที่ได้มีการปฏิบัติหลักทางธรรมร่วมกับการใช้ชีวิตประจำวัน โดยชาวหงี่หั่วท้วง จะนุ่งห่มขาว ไม่รับประทานเนื้อ ซึ่งมีความเชื่อว่าจะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับตัวเอง เพื่อให้ต่อสู้ชนะชาวแมนจูได้ แต่สุดท้ายแล้วชาวหงี่หั่วท้วง ก็ไม่สามารถต้านทานการรุกรานของแมนจูได้ และคนกลุ่มนี้ก็ได้ต่อสู้จนหมดสิ้นไป จนกระทั่งเมื่อถึง 1 ค่ำ เดือน 9 ชาวจีนที่ยังคงอยู่รอดก็ได้พากันถือศีล กินเจ เพื่อเป็นการลำรึกให้กับกลุ่มหงี่หั่วท้วง
- ตำนานกินเพื่อเป็นการสักการะต่อพระราชาธิราชทั้ง 7 พระองค์ ซึ่งตำนานการกินเจเรื่องนี้ ก็เป็นความเชื่อของพุทธศาสนิกชน เป็นการบำเพ็ญศีลโดยการละเว้นอาหารคาว อาหารกลิ่นฉุน อาหารที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ เพื่อเป็นการถวายสักการะให้กับพระราชาธิราช หรือ ตัวแทนพระพุทธเจ้าในอดีตทั้ง 7 พระองค์ และพระโพธิสัตว์ 2 พระองค์ โดยการรักษาศีล 8 ทั้งกายวาจากและจิตใจ และละเว้นสิ่งมีชีวิต โดยการสักการะบูชาวิธีนี้ก็เปรียบเสมือนการทำบุญและรักษาศีลไปพร้อมๆกัน
เทศกาลกินเจ จัดขึ้นเมื่อไหร่?
สำหรับเทศกาลกินเจ จะจัดขึ้นทุกๆ วันขึ้น 1 ค่ำถึง 9 ค่ำ ตรงกับเดือน 9 หรือ เดือนกันยายนซึ่งตรงกับตามปฏิทินของประเทศจีน และ ตรงกับช่วงเดือน 11 หรือ เดือนตุลาคมของประเทศไทย ซึ่งใน เทศกาลกินเจปีนี้ก็จะเริ่มตั้งแต่ 14 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันล้างท้อง และจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 ตุลาคมไปจนถึง 23 ตุลาคม 2566 เป็นเวลารวมกันทั้งหมด 10 วันนั้นเอง
การกินเจ ทำไปเพื่ออะไร?
- สร้างสุขภาพที่ดี การกินเจก็เปรียบเสมือนกับการทาน อาหารเพื่อสุขภาพ แต่เป็นการงดเนื้อสัตว์ โดยนอกจากนี้อาหารเจยังถือว่าเป็นอาหารชีวจิต หรือ อาหารชั้นเดียว ซึ่งเป้นอาหารที่ไม่ได้มีผ่านขั้นตอนปรุงแต่งมากนัก อาทิ ข้าวกล้องที่กระเทาะเปลือกเฉยๆ ไม่มีการขัดสี ซึ่งการทานอาหารประเภทนี้จะช่วยสร้างความสมดุลในร่างกาย ขับล้างสารพิษ หรือ ดีท็อกซ์ลำไส้ไปในตัว รวมไปถึงการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
- สร้างบุญ สร้างกุศล การกินเจ ก็เปรียบเสมือนกับการทำจิตใจให้สบาย ผุดผ่อง เพราะการทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ก็คือการไม่ไปเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีนๆ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีกับชีวิตของเรา
- ละเว้นกรรม การที่เราทานเนื้อสัตว์นั้น ก็เปรียบเสมือนกับการเบียดเบียนชีวิต รวมไปถึงความเชื่อในเรื่องของกฎแห่งกรรม ดังนั้นการที่เรางดทานเนื้อสัตว์ในช่วงกินเจ ก็เหมือนกับเป็นการช่วยชีวิตของสัตว์นับหลายชีวิตนั้นเอง
อาหารอะไรบ้างที่ไม่ควรทานในช่วง กินเจ?
นอกจากการทำจิตใจให้ผ่องใสแล้ว อาหารก็ถือว่าเป้นสิ่งสำคัญสำหรับเทศกาลกินเจ ถือแม้ว่าเราจะรู้กันอยู่แล้วว่า เนื้อสัตว์ เป็นอาหารที่ไม่ควรรับประทานแต่รู้หรือไม่ว่ายังมีอาหารประเภทอื่นๆ ที่หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่าอะไรบ้างที่ไม่ควรรับประทาน ในเทศกาลกินเจ ซึ่งก็ขอแยกออกมาเป็น 5 ประเภท ดังนี้
1.ผักที่มีกลิ่นฉุน
คนที่พึ่งจะเริ่มทานเจอาจจะสงสัยว่า ทำไมผักประเภทนี้ถึงไม่สามารถทานได้ ทั้งๆที่เป็นอาหารที่ไม่ใช้เนื้อสัตว์ คำตอบก็คือ อาหารกลิ่นฉุนจะไปทำลายระบบธาตุ ซึ่งเป็นความเชื่อของลัทธิเต๋า ซึ่งก็จะมีผัก 5 ประเภทดังนี้
- กระเทียม เพราะการที่เราทานกระเทียมหรือใส่ลงไปในอาหารจะไปทำลายธาตุไฟ หรือ ไม่ดีต่อระบบการทำงานของหัวใจ อาจจะทำให้การทำงานหัวใจผิดปกติ
- ผักประเภทหอม ไม่ว่าจะเป็นหอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอม ผักชี (ยกเว้นผักชีฝรั่ง) ห้ามรับประทานเลยละ เพราะว่าทางแพทย์แผนจีนให้คำแนะนำว่า พืชประเภทนี้จะส่งผลกับ ธาตุน้ำ หรือ ไตในร่างกาย ซึ่งอาจจะทำให้ระบบการทำงานของไตผิดปกติ
- หลักเกียว หรือ หอมยอย อีกชื่อหนึ่งเรียกว่า กระเทียมโทนจีน นอกจากกระเทียมจะทำลายระบบธาตุไฟแล้ว หอมชนิดนี้ยังส่งผลต่อ ธาตุดินในร่างกายเราอีกด้วย ซึ่งธาตุดินก็คือ ม้าม นั้นเอง ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ผู้ที่ชอบทานกระเทียมชนิดนี้ก็ไม่ควรรับประทานในช่วงกินเจเลยละครับ
- กุยช่าย ถึงแม้ว่าจะเป้นพืชที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่กลิ่นของกุยช่ายก็ส่งออกมาค่อนข้างแรง และอาจจะทำให้เกิดผลกระทบกับธาตุไม้ หรือ ตัว ที่อาจจะทำให้ตัวทำงานไม่เหมือนกับปกติ
- ใบยาสูบ สายสูบ สายดื่ม ไม่ว่าจะเป้น บุหรี่ ยาเส้น ก็ควรต้องงดในช่วงกินเจ เพราะว่าตามหลักการแล้ว ใบยาสูบจะไปทำลายธาตุโลหะ หรือ ปอดที่ส่งผลทำให้ปอดทำงานได้ผิดปกติ
2.นม เนย น้ำมัน ที่ทำมาจากสัตว์
แน่นอนว่านมที่เราดื่มกันปกติ น้ำมันที่ใช้ในการทำอาหาร หรือ เนื้อสัตว์ต่างๆ เป็นสิ่งที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิต ดังนั้นการที่เรารับประทานก็จะเท่ากับเป้นการเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตด้วยนั้นเอง
3.อาหารรสจัด
หลายคนที่ชอบอาหารรสจัดๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหารรสชาติเผ็ดจัด อาหารรสชาติหวานจัด อาหารรสชาติเปรี้ยวจัด หรือ อาหารรสชาติเค็มจัด ก็อาจจะต้องงดไปก่อน เพราะว่าตามวัฒนธรรมการทานอาหารของชาวจีน มักจะทานอาหารที่รสชาติรสไม่จัดจ้านมาก เพราะอาหารรสจัดไม่ดีต่อสุขภาพ ส่วนในเรื่องของความเชื่อการทานอาหารในลักษณะนี้จะทำให้ศีลไม่บริสุทธิ์
4.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ใน 9 วันที่อยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ ผู้ที่ถือศีล จะต้องงดเครื่องดื่ม หรือ สิ่งมึนเมาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบยร์ หรือ ไวน์ ด้วยเหตุผลเดียวกับการห้ามทาน หรือ สูบ อาหารที่มีส่วนประกอบของใบยาสูบนั้นเอง
5.ห้ามทานอาหาร โดยใช้ภาชนะร่วมกับผู้ที่ไม่ได้ทานเจ
หากต้องการจะถือศีลให้บริสุทธิ์จริงๆ ตามขั้นตอนที่ถูกต้องนอกจากการห้ามทาน อาหารต้องห้าม แล้วนั้นการรับประทานอาหารโดยใช้ภาชนะที่ไม่ได้แยกเฉพาะอาหารเจก็เป้นสิ่งที่ผิดด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นการรับประทานที่ถูกต้องก็คือ การเลือกใช้ภาชนะที่แยกสำหรับอาหารเจโดยเฉพาะ หรือ รับอาหารเจจากศาลเจ้าก็ได้เช่นเดียวกัน
สำหรับ เทศกาลกินเจ 2566 นี้นอกจากจะเป็นช่วงที่ดีสำหรับการรักษาศีล เพื่อทำให้จิตใจผ่องใส และ ยังทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นอีกด้วย แต่ผู้ที่เริ่มทานครั้งแรกก็อาจจะยังดูเป็นเรื่องที่ยากและท้าทาย นอกจากนี้การรักษาสุขภาพที่ดีนอกจากจะทำในช่วงกินเจแล้ว การดูแลสุขภาพด้วยการหมั่นออกกำลังกาย ทานอาหารและนอนหลับให้เพียงพอ ก็ช่วยให้สุขภาพร่างกายของเรากลับมาสดใสได้อีกด้วยเช่นเดียวกัน
สามารถติดตามโปรโมชั่น ที่ไม่ควรพลาดได้ที่ Facebook : Hungry Hub แอปจองมื้อพิเศษอันดับ 1 ของไทย