เพิ่มการมองเห็นและความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า เพียงค้นหาร้านอาหารบน Google ก็สามารถจองร้านอาหารได้ทันทีผ่านเมนู Find a table บน Google Profile ของร้าน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และการเข้าถึงการจอง Package ของ Hungry Hub ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เมื่อค้นหาร้านอาหารและเลื่อนขึ้นจะพบกับข้อมูลของร้าน/โรงแรม และจะเจอคำว่า "Find a table" หลังจากนั้นสามารถกดที่ hungryhub.com ระบบจะนำไปสู่หน้าหลักของเว็บไซต์ hungryhub.com จากนั้นสามารถทำการจองได้เลย
Hungry Hub Partner Portal Dashboard เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้พันธมิตรร้านอาหารจัดการการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พันธมิตรสามารถเข้าสู่ระบบด้วยอีเมลและรหัสผ่านที่ลงทะเบียนไว้เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ในส่วนของ "การจอง" ผู้ใช้งานสามารถดู จัดการ และแก้ไขรายละเอียดการจองได้ เช่น การปรับเปลี่ยนวันที่ เวลา หรือจำนวนผู้เข้าร่วม สำหรับการจัดการที่นั่ง สามารถเข้าไปที่ส่วน "การจัดสรรที่นั่ง" เพื่อกำหนดจำนวนที่นั่งสำหรับลูกค้า Hungry Hub และอัปเดตความพร้อมใช้งานได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ พันธมิตรยังสามารถบล็อกวันที่หรือช่วงเวลาที่ไม่ต้องการรับการจองผ่านส่วน "การตั้งค่า" เพื่อการจัดการตารางเวลาได้อย่างยืดหยุ่น
สำหรับการจัดการแพ็กเกจ สามารถเข้าไปที่ส่วน "แพ็กเกจและโปรโมชั่น" เพื่ออัปเดตรายละเอียดเมนู ราคา และเงื่อนไขของแพ็กเกจที่มีอยู่ หรือสร้างข้อเสนอใหม่ได้ ส่วนข้อมูลด้านการเงิน เช่น รายงานรายได้ ค่าคอมมิชชั่น และสรุปการชำระเงิน สามารถเข้าถึงได้ที่แท็บ "การเงิน" ซึ่งพันธมิตรสามารถดาวน์โหลดข้อมูลการเงินที่ละเอียดได้อีกด้วย นอกจากนี้ หากพบปัญหาทางเทคนิค สามารถใช้ส่วน "ช่วยเหลือ" เพื่อส่งคำร้อง หรือใช้แชทสดเพื่อรับความช่วยเหลือได้ทันที
สำหรับการเรียนรู้เพิ่มเติม ส่วน "ทรัพยากร" มีบทแนะนำ คู่มือการใช้งาน และเอกสารการฝึกอบรมเพื่อช่วยให้พันธมิตรใช้งาน Dashboard ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังสามารถส่งความคิดเห็นได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มหรือพูดคุยกับผู้จัดการบัญชีของ Hungry Hub โดยเฉพาะ Dashboard ที่ทรงพลังนี้ช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น เพิ่มคุณภาพการบริการลูกค้า และยกระดับประสิทธิภาพของร้านอาหารให้ดียิ่งขึ้น
วิธีการเข้าสู่ระบบ: ร้านอาหารจะได้รับลิงก์เข้าสู่ Dashboard และ ชื่อผู้ใช้ พร้อมรหัสผ่าน จาก Hungry Hub สำหรับเข้าสู่ระบบ (เลือก จดจำรหัสผู้ใช้ เพื่อเข้าสู่ระบบอัตโนมัติในครั้งต่อไป)
ลิงก์เข้าสู่ Dashboard: https://partners.hungryhub.com/login
หน้าเข้าสู่ระบบ
หน้าแรก: เมื่อร้านอาหารทำการเข้าสู่ระบบสำเร็จ จะพบกับ หน้าสรุปรวมการจองแบบคร่าวๆ หน้านี้จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับ ยอดจอง จำนวนลูกค้า และรายได้ แบ่งเป็นยอดของเดือนปัจจุบัน เดือนที่แล้ว และสองเดือนที่แล้ว
หน้าแรกหลังเข้าสู่ระบบ
วิธีดาวน์โหลดรีพอร์ทอยู่ด้านล่าง
เมื่อกดปุ่ม การจอง ที่แถบเมนูด้านข้าง จะพบกับข้อมูลการจองทั้งหมดที่เกิดขึ้น ประกอบไปด้วย:
วิธีดาวน์โหลดรายงานการจอง
หากท่านหารายงานการจองไม่เจอ สามารถดาวน์โหลดจากระบบหลังบ้านของเราได้เลย
ในส่วนนี้ จะอธิบายถึงสถานะการจองของลูกค้า วิธีการเปลี่ยนสถานะการจอง ที่ร้านจะต้องกดในกรณีต่างๆ
** หากมีลูกค้าจองเข้ามาในระบบ ร้านจะได้รับ การแจ้งเตือนผ่าน SMS และ Email ที่กำหนดไว้
สถานะของลูกค้า จะมีดังนี้ ถึงแล้ว / ยกเลิก / และไม่มาใช้บริการ
จำลองสถานการณ์ ที่จะเกิดขึ้นในเหตุการณ์ต่างๆ ร้านจะต้องทำดังต่อไปนี้
สำหรับร้านอาหารใหม่ ทาง Hungry Hub จะทำการส่ง Test Booking จำลองสถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการจอง ร้านจะต้องลองกดปุ่มแอคชั่นต่างๆให้ครบทุกสถาณการณ์ เพื่อทำความเข้าใจและถือเป็นการลองใช้จริง
การคำนวณคอมมิชชั่น
ระบบจะคำนวณค่าคอมมิชชั่นจาก การจองที่อยู่ในสถานะ Arrived (ถึงแล้ว) และ การจองที่ยังอยู่ในสถานะ Pending Arrival (กำลังมา) โดยทางร้านจะต้องแก้ไขสถานะการจอง ภายใน 24 ชั่วโมง นับจากเวลาที่ลูกค้าไปทาน
ลูกค้ากลุ่มใหญ่ หมายถึง การจองที่ลูกค้าที่จองเข้ามา มากกว่าจำนวนที่นั่งสูงสุดต่อ 1 การจอง ส่งผลให้ไม่สามารถจองแบบปกติได้ ลูกค้าต้องกรอกฟอร์มเข้ามาเพื่อรอร้านอาหารพิจารณายืนยัน
หากร้านอาหารต้องการแก้สถานะเป็นการ ยกเลิก ในกรณีที่ทางร้านเมนูหมด หรือไม่สามารถรับลูกค้า Booking นี้ได้ ทางร้านต้องปฏิบัติตามดังนี้:
* ทุกการจอง ร้านสามารถแก้ไขข้อมูลได้ ภายใน 24 ชั่วโมง แรกนับจากที่ลูกค้าไปทาน เช่น ลูกค้าทาน 19.00 วันที่ 27 ร้านจะแก้ไขสถานะได้ถึง 19.00 ของวันที่ 28
– ในหน้าแก้ไขการจอง จะมีวันที่และเวลา ที่ลูกค้าสร้างการจองนั้นขึ้นมา แสดงให้เห็นในรายละเอียดการจอง
ใช้ในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถจองได้ด้วยตัวเองจริงๆ และต้องการความช่วยเหลือให้ร้านทำการจองให้ ทำได้โดยกดเข้าไปที่หมวดหมู่ "การจอง" ด้านซ้ายมือ จากนั้นกดปุ่ม "สร้างการจอง" ในช่องตัวเลือกแอคชั่น จากนั้นใส่รายละเอียด ชื่อ เบอร์โทร จำนวนคน วันที่ เวลา และแพ็คเกจ จากนั้นกดสร้าง จะได้หมายเลขการจองขึ้นมา ถือว่าการจองสำเร็จ
สำหรับแพ็คเกจ All You Can Eat
- ลูกค้าจะต้องตรวจสอบราคาสำหรับเด็กในรายละเอียดแพ็กเกจ เนื่องจากอาจแตกต่างกันไปตามเกณฑ์ของแต่ละร้าน หรือในบางร้านอาจไม่มีราคาเด็กเนื่องจากทางร้านอาจขายราคาเดียว
สำหรับแพ็คเกจ Party Pack
- โดยปกติแล้วหากเป็นแพคเกจนี้ เด็กสามารถทานร่วมกับผู้ใหญ่ได้ โดยจำนวนผู้ใหญ่+เด็ก จะต้องไม่เกินจำนวนคนเข้าใช้บริการสูงสุดของแพคเกจ เช่น Sharing Set สำหรับ 4 คน > หากมีผู้ใหญ่ 3 เด็ก 1 สามารถทานร่วมในแพคเกจได้ แต่หากมีผู้ใหญ่ 4 เด็ก 1 รวมกันเป็น 5 คน เด็กจะต้องสั่ง a la carte แยกเพิ่มเติมที่หน้าร้าน เนื่องจากจำนวนคนเข้าใช้บริการสูงกว่าจำนวนคนของแพคเกจที่กำหนดไว้
Hungry Hub Promo Code คือ โค้ดส่วนลดเงินสดของลูกค้า Hungry Hub ลูกค้าจะใช้โค้ดนี้ระหว่างการทำการจอง
ลูกค้ากรอก Promo Code ในระหว่างทำการจองด้วยตนเอง
กรณีที่มีส่วนต่างหลังจากใช้ Promo Code ลดราคาแล้ว ลูกค้าจะต้องชำระส่วนต่างผ่านระบบของ Hungry Hub เพื่อยืนยันการจองก่อนไปรับประทานอาหาร
รูปแบบการชำระเงินเกี่ยวกับการจอง
1. การจองของลูกค้าที่จะต้องชำระเงินที่หน้าร้านหรือโรงแรมตอนเข้าใช้บริการ
โดยทางร้าน/โรงแรมจะต้องเรียกเก็บเงินกับลูกค้าตอนที่ลูกค้าเข้าใช้บริการ
ลูกค้าทำการจองโดยไม่ได้ใช้ Promo Code หรือส่วนลดใดใด เป็นการจองที่ลูกค้าต้องการที่จะไปชำระเงินที่หน้าร้าน/โรงแรมตอนที่เข้าใช้บริการ ซึ่งการจองในระบบจะขึ้นโชว์ว่า "จ่ายที่ร้าน/Due" พร้อมกับแสดงยอดรวมทั้งหมดที่ลูกค้าจะต้องชำระ
2. การจองที่ลูกค้าชำระเงินผ่านระบบ Hungry Hub แล้วเรียบร้อย
โดยทางร้าน/โรงแรมไม่ต้องเรียกเก็บกับลูกค้าตอนที่ลูกค้าเข้าใช้บริการที่ร้าน/โรงแรม
กรณีที่ 1: ลูกค้าทำการจองโดยใช้โค้ดส่วนลด ซึ่งส่วนลดดังกล่าวของลูกค้าอาจมาจากการแลกคะแนนสะสมหรือการซื้อ Gift Card จากทาง Hungry Hub โดยหากลูกค้าทำการใช้ส่วนลด ระบบจะเรียกเก็บเงินส่วนต่างกับลูกค้าล่วงหน้าทันที เพราะฉะนั้นการจองดังกล่าวเป็นการชำระเงินล่วงหน้าแล้ว 100% ทางร้านจึงไม่ต้องเรียกเก็บเงินกับลูกค้าตอนที่เข้าใช้บริการ (ระบบจะโชว์การจองดังรูปภาพด้านล่างนี้)
กรณีที่ 2: ร้านมีการเรียกเก็บเงิน 100% ล่วงหน้าก่อนทำการจองอยู่แล้ว หรือมีการเปิดใช้ฟีเจอร์ที่เป็น Option to PayNow ทำให้ลูกค้าทำการชำระล่วงหน้าได้ เพราะฉะนั้นแล้วการจองรูปแบบนี้ทางร้านไม่ต้องเรียกเก็บเงินกับลูกค้าตอนเข้าใช้บริการเช่นกัน (ระบบจะโชว์การจองดังรูปภาพด้านล่างนี้)
ในส่วนของ สัดส่วนจำนวนที่นั่ง ที่ร้านเปิดให้ลูกค้า Hungry Hub สามารถจองได้ ดูได้ที่ สัดส่วน/จำนวนที่นั่ง บนแถบเมนู โดยจะแสดงเป็นตารางตามวันที่ ในตาราง แนวนอนคือชั่วโมง จะแสดงทุก 1 ชั่วโมง และแนวตั้งคือ นาที จะแสดงทุก 15 นาที
การบล็อกร้านอาหาร คือ การปิดที่นั่ง ไม่ให้ทำการจองเข้ามาเพิ่มได้ โดยใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น เช่น ที่นั่งในร้านเต็ม, วัตถุดิบหมด, พนักงานไม่เพียงพอ เป็นต้น ร้านสามารถโดยเลือกปิด ทั้งวัน หรือ ปิดตามช่วงเวลาได้ (จำกัดการปิดที่นั่งได้ครั้งละ 1 วันเท่านั้น) ทั้งนี้การจองที่ถูกจองเข้ามาก่อน ที่ร้านจะปิดในช่วงเวลานั้นๆ ร้านอาหารจะต้องรับลูกค้าตามปกติ
โดยกรณีที่หากทางร้านต้องการปิดรับการจองล่วงหน้า เช่น ทางร้านมีลูกค้าปิดเหมาร้านล่วงหน้า หรือในช่วงของวันเทศกาลแล้วมีการจองเต็มที่หน้าร้านแล้ว หรือทางร้านมีแผนที่จะปิดปรับปรุงร้าน กรณีนี้ทางร้านสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ Line ID: @hhforbusiness เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการร้านค้า ดำเนินการปิดให้ โดยทางเจ้าหน้าที่เราจะทำการในทุกวันระหว่างเวลา 10.00-19.00 (หากทางร้านแจ้งมานอกเวลาทำการ ทางเจ้าหน้าที่เราจะดำเนินการให้ในวันถัดไป)
กรณีที่ร้านต้องการดูว่าแพคเกจไหนบ้างของทางร้านที่ตอนนี้กำลังขึ้นขายบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชัน Hungry Hub ทางร้านสามารถดูได้โดยกดเข้าไปที่ Package ที่อยู่แถบด้านซ้าย จากนั้นระบบจะขึ้นโชว์เหมือนในรูปภาพด้านบน จากนั้นด้านซ้ายมือจะมีสถานะของแพคเกจขึ้น โดยหากแพคเกจยังขึ้นขายตามปกติ สถานะจะเป็น "Active (สีเขียว)" แต่หากแพคเกจไม่ได้ขึ้นขายแล้วหรือหมดอายุไปแล้ว จะขึ้นสถานะว่า "Inactive (สีเทา)"
กรณีที่ร้านต้องการพิมพ์ใบเมนูของแพคเกจนั้นๆ เพื่อนำไปให้บริการลูกค้าเวลาเข้าใช้บริการหน้าร้าน ทางร้านสามารถกดปุ่ม "Print Menu" ที่อยู่ด้านขวา โดยไฟล์ที่พิมพ์จะเป็นไฟล์ pdf. เสมอ
กรณีที่ร้านต้องการอัปเดตหรือเปลี่ยนข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับร้าน สามารถกดเข้าไปที่ "Account Management/การจัดการบัญชี" จากนั้นให้กดไปที่ "Store/ร้านค้า" ระบบจะโชว์เหมือนภาพด้านบน ซึ่งส่วนแรกจะเป็นการจัดการเกี่ยวกับชื่อร้าน, ชื่อร้านในรูปแบบที่กระชับเวลาส่ง sms ให้ลูกค้า, เบอร์โทรของร้าน, เวลาทำการของร้าน, และคำอธิบายเกี่ยวกับร้าน
จากนั้นในส่วนที่ 2 จะเป็นการเปลี่ยนโลโก้ของร้าน และการอัปเดตรูปภาพสำหรับรูปหน้าปกของร้าน การจัดเรียงลำดับรูปภาพที่จะแสดงโชว์หน้าเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าเห็น รวมไปถึงการจัดการอัลบั้มของร้านว่าต้องการลบหรือเพิ่มรูปภาพใดบ้าง
และส่วนที่ 3 ซึ่งเป็นส่วนสุดท้าย จะเป็นการให้ร้านสามารถติดแท็กของร้านได้เอง ซึ่งแท็กจะมีความสำคัญเกี่ยวกับเปิดการมองเห็นเมื่อลูกค้าทำการค้นหาร้านที่ต้องการเข้าใช้บริการ โดยหมวดหมู่ของแท็กจะมีทั้งหมด 4 หมวดหมู่ ได้แก่ ประเภทอาหาร, รูปแบบการรับประทานอาหาร, สถานที่ตั้ง, และสิ่งอำนวนความสะดวก
ตัวอย่างอีเมลล์ที่ส่ง report จากระบบของ Hungry Hub
หากทางร้านไม่ได้รับอีเมลล์จากระบบของ Hungry Hub สามารถดึง report ได้ด้วยตนเองที่ลิงก์นี้
วิธีการอ่านไฟล์ Report Dine-in
Dine-in Reservation Report
หลังจากที่ทำการตรวจสอบ report เรียบแล้วหากข้อมูลไม่ตรง ทางร้านสามารถแก้ไขข้อมูลดังนี้
If you find any information mismatched, false or inaccurate, you may edit the details by :
สำหรับการแก้ไข No Show หรือจำนวนลูกค้าที่มาเข้าพักหรือใช้บริการ สามารถแก้ไขในระบบได้เองภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเวลาที่ลูกค้าทำการจอง หากไม่สามารถแก้ไขได้ภายใน 24 ชั่วโมงให้แจ้งทีมมาที่ Line id : @hhforbusiness
You must change the status of a booking or number of pax within 24 hours of the reservation date. If failed to do so, please contact us through Line id : @hhforbusiness
พาร์ทเนอร์จะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ส่ง report ทุกวันที่ 1 (12:00) ของเดือนถัดไป หรือช้าที่สุดคือวันที่ 2 เราส่งใบแจ้งหนี้ทุกวันที่ 3 ของเดือนถัดไป หากไม่แจ้งตามกำหนด ถือว่าทางร้านยอมรับค่าคอมมิชชั่นที่เกิดขึ้น
You must submit the modified report (of that month) before the 1st of the next month or latest by 2nd of the next month. If failed to do so, Hungry Hub will assume that you accept the commissions charged that month.
ในกรณีที่ร้านต้องการส่งไฟล์แก้ไขสถานะไม่แสดงตัว หรือการแก้ไขจำนวนต่างๆ ทาง Hungry Hub ขอสงวนสิทธิ์ไม่แก้ไขข้อมูลทั้งสิ้นด้วยนโยบายแก้ไขสถานะภายใน 24 ชั่วโมง
Hungry Hub retains the right to not change all information with a policy to modify the status within 24 hours in the event that the restaurant desires to provide a file to modify the status of No Show or any amendments to the amount.
พาร์ทเนอร์สามารถส่งเมลล์แจ้งแก้ไขยอดเดือนที่แล้วได้ที่ finance@hungryhub.com วันที่ 1-2 เท่านั้น
You may submit the modified report at finance@hungryhub.com only on 1st or 2nd of the month.
เราจะส่งใบแจ้งหนี้ผ่านทางอีเมล ทุกวันที่ 3 หรือ 4 ของเดือน
เมื่อทำการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ให้ท่านส่งหลักฐานมาที่อีเมล finance@hungryhub.com เท่านั้น
เมื่อเราทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เราจะส่งใบกำกับภาษี / ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการอนุมัติจากกรมสรรพากรให้ทางอีเมล
สำหรับ Promo code & Prepayment ที่ทางลูกค้านำมาใช้กับทางร้านอาหารพาร์ทเนอร์ ร้านอาหารสามารถรวบรวมยอดทั้งหมด และออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินคืนจากทาง Hungry Hub มีวิธีดังนี้ :
ตัวอย่างบิลขอเงินคืน
Hungry Hub เราต้องการร่วมงานและโตไปนานๆกับร้านอาหาร เราช่วยออกแบบโปรโมชั่นและให้คำแนะนำในการเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหาร จากประสบการณ์ร่วมงานกับร้านอาหารมากมายหลายประเภท หากคุณต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา สามารถติดต่อผ่าน ช่องทาง Support ของเราได้เลย
Application integration: ฮังกรี้ฮับร่วมมือกับแอปพลิเคชั่นที่สาม ซึ่งออกแบบให้ทำงานร่วมกัน ลูกค้าสามารถทำการจองร้านอาหารหรือโรงแรมเข้ามาผ่านแอปพลิเคชั่นที่สามและทางร้านสามารถตรวจสอบการจองผ่านระบบฮังกรี้ฮับได้เหมือนเดิม
ทางร้านสามารถตรวจสอบการจองจากเว็ปไซต์ระบบหลังบ้านของทางฮังกรี้ฮับ ซึ่งจะอธิบายถึงสถานะการจองของลูกค้า วิธีการเปลี่ยนสถานะการจอง หรือข้อมูลทั้งหมดของการจองที่ร้านจะต้องกดหรือแก้ไขในกรณีต่างๆ
*หากมีลูกค้าจองเข้ามาในระบบ ร้านจะได้รับ การแจ้งเตือนผ่าน SMS และ Email หรือ แอปพลิเคชั่น Hungry Hub Partner ที่กำหนดไว้
ในส่วนของข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดบัญชี ทางร้านสามารถตรวจสอบวิธีการอ่าน Report เพื่อตรวจสอบข้อมูลการจองลูกค้าที่ลูกค้าทำการจองเข้ามาและใช้บริการได้ดังนี้
หากทางร้านพบปัญหาในการจองหรือต้องการติดต่อทางฮังกรี้ฮับสามารถติดต่อได้ที่:
Copyright © 2025 Hungry Hub by AppServation Co., Ltd. All right reserved.
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก การตั้งค่าคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดย เปิด/ปิด คุกกี้แต่ละประเภทสามารถขอได้ ยกเว้นคุกกี้ที่จำเป็น
ยอมรับทั้งหมดประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้