สำหรับร้านอาหารพาร์ทเนอร์ Hungry Hub

ข้อมูลสำคัญและคำถามที่พบบ่อยสำหรับร้านอาหารพาร์ทเนอร์ Hungry Hub เรื่องการบริการลูกค้าและการเงิน และอื่นๆ
FAQ Accordion with Search
How to Book Hungry Hub’s offer on “Reserve with Google” จองฮังกรี้ฮับผ่านกูเกิล

เพิ่มการมองเห็นและความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า เพียงค้นหาร้านอาหารบน Google ก็สามารถจองร้านอาหารได้ทันทีผ่านเมนู Find a table บน Google Profile ของร้าน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และการเข้าถึงการจอง Package ของ Hungry Hub ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


หน้าจอการจองร้านอาหารผ่าน Reserve with Google

เมื่อค้นหาร้านอาหารและเลื่อนขึ้นจะพบกับข้อมูลของร้าน/โรงแรม และจะเจอคำว่า "Find a table" หลังจากนั้นสามารถกดที่ hungryhub.com ระบบจะนำไปสู่หน้าหลักของเว็บไซต์ hungryhub.com จากนั้นสามารถทำการจองได้เลย


ปุ่ม Find a table บน Google Profile เพื่อจองผ่าน Hungry Hub
วิธีการใช้งานระบบหลังบ้านสำหรับร้านอาหาร

Hungry Hub Partner Portal Dashboard เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้พันธมิตรร้านอาหารจัดการการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พันธมิตรสามารถเข้าสู่ระบบด้วยอีเมลและรหัสผ่านที่ลงทะเบียนไว้เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ในส่วนของ "การจอง" ผู้ใช้งานสามารถดู จัดการ และแก้ไขรายละเอียดการจองได้ เช่น การปรับเปลี่ยนวันที่ เวลา หรือจำนวนผู้เข้าร่วม สำหรับการจัดการที่นั่ง สามารถเข้าไปที่ส่วน "การจัดสรรที่นั่ง" เพื่อกำหนดจำนวนที่นั่งสำหรับลูกค้า Hungry Hub และอัปเดตความพร้อมใช้งานได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ พันธมิตรยังสามารถบล็อกวันที่หรือช่วงเวลาที่ไม่ต้องการรับการจองผ่านส่วน "การตั้งค่า" เพื่อการจัดการตารางเวลาได้อย่างยืดหยุ่น

สำหรับการจัดการแพ็กเกจ สามารถเข้าไปที่ส่วน "แพ็กเกจและโปรโมชั่น" เพื่ออัปเดตรายละเอียดเมนู ราคา และเงื่อนไขของแพ็กเกจที่มีอยู่ หรือสร้างข้อเสนอใหม่ได้ ส่วนข้อมูลด้านการเงิน เช่น รายงานรายได้ ค่าคอมมิชชั่น และสรุปการชำระเงิน สามารถเข้าถึงได้ที่แท็บ "การเงิน" ซึ่งพันธมิตรสามารถดาวน์โหลดข้อมูลการเงินที่ละเอียดได้อีกด้วย นอกจากนี้ หากพบปัญหาทางเทคนิค สามารถใช้ส่วน "ช่วยเหลือ" เพื่อส่งคำร้อง หรือใช้แชทสดเพื่อรับความช่วยเหลือได้ทันที

สำหรับการเรียนรู้เพิ่มเติม ส่วน "ทรัพยากร" มีบทแนะนำ คู่มือการใช้งาน และเอกสารการฝึกอบรมเพื่อช่วยให้พันธมิตรใช้งาน Dashboard ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังสามารถส่งความคิดเห็นได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มหรือพูดคุยกับผู้จัดการบัญชีของ Hungry Hub โดยเฉพาะ Dashboard ที่ทรงพลังนี้ช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น เพิ่มคุณภาพการบริการลูกค้า และยกระดับประสิทธิภาพของร้านอาหารให้ดียิ่งขึ้น

คู่มือการใช้งานระบบหลังบ้านบนแอปพลิเคชัน
วิธีการเข้าสู่ระบบร้าน และ หน้าแรก

วิธีการเข้าสู่ระบบ: ร้านอาหารจะได้รับลิงก์เข้าสู่ Dashboard และ ชื่อผู้ใช้ พร้อมรหัสผ่าน จาก Hungry Hub สำหรับเข้าสู่ระบบ (เลือก จดจำรหัสผู้ใช้ เพื่อเข้าสู่ระบบอัตโนมัติในครั้งต่อไป)

ลิงก์เข้าสู่ Dashboard: https://partners.hungryhub.com/login


หน้าเข้าสู่ระบบ

หน้าเข้าสู่ระบบ Hungry Hub Partner Portal


หน้าแรก: เมื่อร้านอาหารทำการเข้าสู่ระบบสำเร็จ จะพบกับ หน้าสรุปรวมการจองแบบคร่าวๆ หน้านี้จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับ ยอดจอง จำนวนลูกค้า และรายได้ แบ่งเป็นยอดของเดือนปัจจุบัน เดือนที่แล้ว และสองเดือนที่แล้ว


หน้าแรกหลังเข้าสู่ระบบ

หน้าแรกหลังเข้าสู่ระบบ แสดงสรุปยอดจอง
รวมข้อมูลเกี่ยวกับการจองและการใช้ตัวกรอง

วิธีดาวน์โหลดรีพอร์ทอยู่ด้านล่าง

ภาพรวมหน้าการจองในระบบ Hungry Hub Partner

เมื่อกดปุ่ม การจอง ที่แถบเมนูด้านข้าง จะพบกับข้อมูลการจองทั้งหมดที่เกิดขึ้น ประกอบไปด้วย:


  • 1. หมายเลขการจอง
    - เมื่อลูกค้าทำการจองสำเร็จ จะได้รับหมายเลขการจอง ผ่าน SMS และ Email เพื่อใช้แจ้งกับเจ้าหน้าที่หน้าร้านก่อนเข้าไปรับประทานอาหาร
    - หมายเลขการจองของแต่ละครั้ง จะไม่ซ้ำกัน

  • 2. และ 3. วันและเวลา ที่ลูกค้าจะไปทาน

  • 4. ชื่อลูกค้า
    - ทางร้านสามารถกดตรงชื่อลูกค้า จากนั้นระบบจะแสดงเบอร์มือถือและอีเมลล์ของลูกค้า

  • 5. Package details
    - รายละเอียดแพ็กเกจที่ลูกค้าจอง จะแสดงประเภทแพ็กเกจ ชื่อแพ็กเกจ และราคา/ท่าน

  • 6. จำนวนลูกค้าที่ไปทาน
    - ในกรณีที่มีเด็ก จะแสดงผลรวมจำนวนทั้งหมดด้านบน จากนั้นด้านล่างจะมีแจ้งว่าจำนวนผู้ใหญ่กี่ท่าน และจำนวนเด็กกี่ท่าน
    - สำหรับ ราคาเด็ก แพ็กเกจ All You Can Eat และ Party Pack จะคิดตามเงื่อนไขของ Hungry Hub ส่วน แพ็กเกจ Buffet Plus ยึดเงื่อนไขตามหน้าร้าน

  • 7. รายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงิน
    - หากขึ้นว่า "จ่ายที่ร้าน" แสดงว่าการจองนั้นลูกค้ายังไม่ได้ชำระเงิน เป็นการจองที่รอชำระหน้าร้าน
    - หากขึ้นว่า "ชำระล่วงหน้าแล้ว" แสดงว่าลูกค้าทำการชำระเงินสำหรับการจองนั้นแล้วเรียบร้อย ทางร้านไม่ต้องเรียกเก็บกับลูกค้าเมื่อลูกค้าเข้าใช้บริการที่ร้าน
    - สำหรับ เวาเชอร์ จะหมายถึง ส่วนลด ที่ทางเราเป็นคนรับผิดชอบในส่วนนี้ โดยจะเป็นการจ่ายให้กับทางร้าน

  • 8. คำขอพิเศษ
    - ความต้องการเพิ่มเติมของลูกค้า เช่น ขอโต๊ะริมกระจก ขอเค้กวันเกิด ในกรณีที่ร้านต้องการตอบคำขอพิเศษนี้ สามารถโทรหาลูกค้าได้เลย

  • 9. ตัวเลือกแอคชั่น
    - ปุ่มกดต่างๆ เช่น แก้ไขการจอง กดยืนยันว่าลูกค้ามาถึงแล้ว หรือ ลูกค้าไม่มา (ในฟังก์ชั่นนี้ จะอธิบายในหัวข้อ สถานะการจอง และ การแก้ไข)

  • 10. สถานะ
    - สถานะของลูกค้า เป็นลูกค้าที่กำลังจะมา / ยกเลิก / ไม่แสดงตัว เป็นต้น ในส่วนนี้จะมีผลต่อการคิดค่าคอมมิชชั่น (อ่านเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อ สถานะการจอง)




วิธีดาวน์โหลดรายงานการจอง

หากท่านหารายงานการจองไม่เจอ สามารถดาวน์โหลดจากระบบหลังบ้านของเราได้เลย


ปุ่ม Export สำหรับดาวน์โหลดรายงาน

หน้าต่างการ Export รายงานการจอง

  • ล็อกอินเข้าสู่ระบบหลังบ้าน
  • กดที่ Export
  • เลือกวันและเวลาที่ต้องการทำรายงานการจอง
  • พิมพ์อีเมลของท่าน จากนั้นกด Enter จะมีกรอบสีเทารอบๆชื่ออีเมล หากไม่กด ระบบจะไม่ส่งรายงานการจองให้
  • กด Submit และ เช็คอีเมลของท่าน (ระบบอาจจะใช้เวลาถึง 20 นาทีในการส่งรายงานการจอง)
สถานะการจองและการคำนวณคอมมิชชั่น
สถานะการจองในระบบ Hungry Hub

ในส่วนนี้ จะอธิบายถึงสถานะการจองของลูกค้า วิธีการเปลี่ยนสถานะการจอง ที่ร้านจะต้องกดในกรณีต่างๆ
** หากมีลูกค้าจองเข้ามาในระบบ ร้านจะได้รับ การแจ้งเตือนผ่าน SMS และ Email ที่กำหนดไว้


สถานะของลูกค้า จะมีดังนี้ ถึงแล้ว / ยกเลิก / และไม่มาใช้บริการ

  • – Arrived (ถึงแล้ว) คือ ลูกค้าที่มาใช้บริการแล้ว ในกรณีที่ลูกค้ามาถึงร้าน ตามเวลาที่จองไว้ ร้านอาหารต้องกดปุ่ม ถึงแล้ว ในช่องตัวเลือกแอคชั่น
    (เมื่อลูกค้าใช้บริการเสร็จแล้ว ร้านไม่ต้องกดปุ่มแอคชั่นใดๆต่อ สถานะถึงแล้วจะยังแสดงอยู่ เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลในการคำนวณคอมมิชชั่น)

  • – Cancel (ยกเลิก) คือ การจองที่ถูกยกเลิก โดยร้าน/ทีมงาน ในกรณีที่ลูกค้าต้องการให้ร้านยกเลิกให้ ร้านสารถกด แก้ไข เพื่อเปลี่ยนสถานะการจอง เป็นยกเลิกได้ โดยจะต้องใส่เหตุผลที่ทำการยกเลิกการจองนั้นด้วย เช่น ลูกค้าต้องการให้ยกเลิกให้

  • – Cancel (modified) คือ การจองที่ ได้ถูกยกเลิก เพราะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลการจองโดยลูกค้าก่อนถึงเวลาจอง เช่น เปลี่ยนแปลงเวลา วันที่ แพ็กเกจ เป็นต้น โดยลูกค้าท่านเดิมจะได้รับเลขการจองชุดใหม่มาแทน

  • – Cancel by user (ยกเลิก by user) คือ การจองที่ถูกยกเลิกก่อนถึงเวลาจองโดยลูกค้าดำเนินการกดยกเลิกด้วยตนเอง

  • – No show (ไม่แสดงตัว) คือ ลูกค้าที่ไม่แสดงตัว ภายในเวลา 30 นาที นับจากเวลาที่จองไว้ (ในกรณีที่ลูกค้าหายไปเลย ไม่ได้ติดต่อร้านเข้ามาทำการยกเลิกการจองเท่านั้น) ร้านอาหารจะต้องกดปุ่ม ไม่แสดงตัว ในช่องตัวเลือกแอคชั่น (ขอให้ร้านพิจารณาตามเหตุผลจริง เนื่องจาก สถานะ no show อาจส่งผลถึงลูกค้า ในการได้รับโปรโมชั่นต่างๆ ของ Hungry Hub ในอนาคต




จำลองสถานการณ์ ที่จะเกิดขึ้นในเหตุการณ์ต่างๆ ร้านจะต้องทำดังต่อไปนี้
สำหรับร้านอาหารใหม่ ทาง Hungry Hub จะทำการส่ง Test Booking จำลองสถานการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการจอง ร้านจะต้องลองกดปุ่มแอคชั่นต่างๆให้ครบทุกสถาณการณ์ เพื่อทำความเข้าใจและถือเป็นการลองใช้จริง


ตัวเลือก Action สำหรับการจอง

  • เหตุการณ์ที่ 1 : เมื่อลูกค้ามาถึงร้าน ตามวันและเวลาที่จอง
    – เมื่อลูกค้าถึงร้าน ลูกค้าจะแจ้งหมายเลขการจองที่หน้าร้าน
    – ร้านต้อง กดปุ่ม Arrived (สถานะจาก Pending Arrival จะถูกเปลี่ยนเป็น Arrived)

  • เหตุการณ์ที่ 2 : เมื่อลูกค้าไม่แสดงตัว ตามวันและเวลาที่จอง
    – เมื่อลูกค้าไม่แสดงตัว ร้านจะต้องกดปุ่ม No Show (สถานะจาก Pending Arrival จะถูกเปลี่ยนเป็น No Show)

การยกเลิกการจองโดยร้านอาหาร

การแก้ไขการจองโดยร้านอาหาร

  • เหตุการณ์ที่ 3 : เมื่อลูกค้าต้องการยกเลิก
    – เมื่อลูกค้าขอ Cancel ร้านจะต้องกดปุ่มแก้ไข
    – จากนั้นเลือกเปลี่ยนสถานะจาก Pending Arrival เป็น Cancel เพื่อทำการยกเลิก

  • เหตุการณ์ที่ 4 : เมื่อลูกค้าต้องการเปลี่ยนข้อมูล วัน เวลา
    - เช่น ลูกค้าจองไว้เวลา 18.00 แต่ต้องการเปลี่ยนเวลาเป็น 19.00
    - ร้านจะต้องกดปุ่มแก้ไข จากนั้นเลือกเปลี่ยนเวลาเป็น 19.00 หลังจากนั้นกดปุ่ม update




การคำนวณคอมมิชชั่น

ระบบจะคำนวณค่าคอมมิชชั่นจาก การจองที่อยู่ในสถานะ Arrived (ถึงแล้ว) และ การจองที่ยังอยู่ในสถานะ Pending Arrival (กำลังมา) โดยทางร้านจะต้องแก้ไขสถานะการจอง ภายใน 24 ชั่วโมง นับจากเวลาที่ลูกค้าไปทาน

การจองลูกค้ากลุ่มใหญ่

ลูกค้ากลุ่มใหญ่ หมายถึง การจองที่ลูกค้าที่จองเข้ามา มากกว่าจำนวนที่นั่งสูงสุดต่อ 1 การจอง ส่งผลให้ไม่สามารถจองแบบปกติได้ ลูกค้าต้องกรอกฟอร์มเข้ามาเพื่อรอร้านอาหารพิจารณายืนยัน


  • ร้านอาหารจะต้องคำนึงถึง ที่นั่งว่าง และความพร้อมด้านอื่นๆ ในการรับลูกค้ากลุ่มใหญ่ หลังจากนั้นจึง เลือกกดปุ่มยืนยัน หรือ ปฏิเสธ ทั้งนี้ ร้านอาหารสามารถ ติดต่อลูกค้าเพื่อเปลี่ยนแปลงวันและเวลา ตามความเหมาะสมได้ โดยต้องตกลงทั้งสองฝ่าย (ร้านและลูกค้า)

  • ในกรณีที่ ร้านกด ยืนยัน สถานะลูกค้าจะเปลี่ยนเป็น กำลังมา และลูกค้าจะได้รับ sms และ อีเมลยืนยันหมายเลขการจองทันที หลังจากนั้นร้านอาหาร สามารถติดต่อลูกค้า เพื่อขอรับมัดจำ และรับรายการอาหารล่วงหน้า จากลูกค้าได้ครับ

  • ในกรณีที่ร้านกด ไม่รับ ลูกค้าจะไม่ได้รับหมายเลขการจองใดๆ และสถานะการจอง จะถูกเปลี่ยนเป็น “Reject:”
การแก้ไขการจอง
หน้าต่างแก้ไขการจอง

ตัวเลือกสถานะการจองในหน้าแก้ไข


  • – ในกรณีที่ ลูกค้าต้องการ เปลี่ยนแปลงข้อมูลทุกอย่างของการจองนั้นๆ
    หากลูกค้าขอให้ร้าน เพิ่ม-ลด จำนวนคน เปลี่ยนแปลงเวลา เปลี่ยนแปลงแพ็คเกจ ร้านสามารถ กด แก้ไข ที่ช่อง ตัวเลือกแอคชั่น และทำการแก้ไขรายละเอียดได้เลย จากนั้น กดปรับปรุง เพื่ออัพเดทข้อมูล

  • – ในกรณีที่ร้านต้องการ เปลี่ยน สถานะ ของลูกค้า
    ร้านสามารถแก้ไขสถานะ เป็น กำลังมา / ถึงแล้ว / ไม่แสดงตัว โดย กดเลือกที่ สถานะ มุมขวาบนของหน้าแก้ไข

หากร้านอาหารต้องการแก้สถานะเป็นการ ยกเลิก ในกรณีที่ทางร้านเมนูหมด หรือไม่สามารถรับลูกค้า Booking นี้ได้ ทางร้านต้องปฏิบัติตามดังนี้:

  1. ร้านอาหารต้องโทรแจ้ง/สอบถามข้อมูลกับทางลูกค้าโดยตรง เพื่อรับทราบโดยร่วมกันถึงเหตุผลที่ต้องการยกเลิก Booking นี้
  2. เมื่อรับทราบร่วมกันแล้ว ให้ทางร้านแก้ไขสถานะเป็น ยกเลิก
  3. Hungry Hub จะมีการเก็บค่า Commission สำหรับ Booking ที่ทางร้านยกเลิก

* ทุกการจอง ร้านสามารถแก้ไขข้อมูลได้ ภายใน 24 ชั่วโมง แรกนับจากที่ลูกค้าไปทาน เช่น ลูกค้าทาน 19.00 วันที่ 27 ร้านจะแก้ไขสถานะได้ถึง 19.00 ของวันที่ 28


– ในหน้าแก้ไขการจอง จะมีวันที่และเวลา ที่ลูกค้าสร้างการจองนั้นขึ้นมา แสดงให้เห็นในรายละเอียดการจอง

การเพิ่มการจอง
ปุ่มสร้างการจองในระบบ Hungry Hub Partner


ใช้ในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถจองได้ด้วยตัวเองจริงๆ และต้องการความช่วยเหลือให้ร้านทำการจองให้ ทำได้โดยกดเข้าไปที่หมวดหมู่ "การจอง" ด้านซ้ายมือ จากนั้นกดปุ่ม "สร้างการจอง" ในช่องตัวเลือกแอคชั่น จากนั้นใส่รายละเอียด ชื่อ เบอร์โทร จำนวนคน วันที่ เวลา และแพ็คเกจ จากนั้นกดสร้าง จะได้หมายเลขการจองขึ้นมา ถือว่าการจองสำเร็จ

ราคาเด็ก

สำหรับแพ็คเกจ All You Can Eat
- ลูกค้าจะต้องตรวจสอบราคาสำหรับเด็กในรายละเอียดแพ็กเกจ เนื่องจากอาจแตกต่างกันไปตามเกณฑ์ของแต่ละร้าน หรือในบางร้านอาจไม่มีราคาเด็กเนื่องจากทางร้านอาจขายราคาเดียว



สำหรับแพ็คเกจ Party Pack
- โดยปกติแล้วหากเป็นแพคเกจนี้ เด็กสามารถทานร่วมกับผู้ใหญ่ได้ โดยจำนวนผู้ใหญ่+เด็ก จะต้องไม่เกินจำนวนคนเข้าใช้บริการสูงสุดของแพคเกจ เช่น Sharing Set สำหรับ 4 คน > หากมีผู้ใหญ่ 3 เด็ก 1 สามารถทานร่วมในแพคเกจได้ แต่หากมีผู้ใหญ่ 4 เด็ก 1 รวมกันเป็น 5 คน เด็กจะต้องสั่ง a la carte แยกเพิ่มเติมที่หน้าร้าน เนื่องจากจำนวนคนเข้าใช้บริการสูงกว่าจำนวนคนของแพคเกจที่กำหนดไว้

ลูกค้าจองโดยใช้โค้ดส่วนลด

Hungry Hub Promo Code คือ โค้ดส่วนลดเงินสดของลูกค้า Hungry Hub ลูกค้าจะใช้โค้ดนี้ระหว่างการทำการจอง

ลูกค้ากรอก Promo Code ในระหว่างทำการจองด้วยตนเอง
กรณีที่มีส่วนต่างหลังจากใช้ Promo Code ลดราคาแล้ว ลูกค้าจะต้องชำระส่วนต่างผ่านระบบของ Hungry Hub เพื่อยืนยันการจองก่อนไปรับประทานอาหาร




รูปแบบการชำระเงินเกี่ยวกับการจอง


1. การจองของลูกค้าที่จะต้องชำระเงินที่หน้าร้านหรือโรงแรมตอนเข้าใช้บริการ

โดยทางร้าน/โรงแรมจะต้องเรียกเก็บเงินกับลูกค้าตอนที่ลูกค้าเข้าใช้บริการ

ลูกค้าทำการจองโดยไม่ได้ใช้ Promo Code หรือส่วนลดใดใด เป็นการจองที่ลูกค้าต้องการที่จะไปชำระเงินที่หน้าร้าน/โรงแรมตอนที่เข้าใช้บริการ ซึ่งการจองในระบบจะขึ้นโชว์ว่า "จ่ายที่ร้าน/Due" พร้อมกับแสดงยอดรวมทั้งหมดที่ลูกค้าจะต้องชำระ


การจองแบบจ่ายที่ร้าน (Due)


2. การจองที่ลูกค้าชำระเงินผ่านระบบ Hungry Hub แล้วเรียบร้อย

โดยทางร้าน/โรงแรมไม่ต้องเรียกเก็บกับลูกค้าตอนที่ลูกค้าเข้าใช้บริการที่ร้าน/โรงแรม


กรณีที่ 1: ลูกค้าทำการจองโดยใช้โค้ดส่วนลด ซึ่งส่วนลดดังกล่าวของลูกค้าอาจมาจากการแลกคะแนนสะสมหรือการซื้อ Gift Card จากทาง Hungry Hub โดยหากลูกค้าทำการใช้ส่วนลด ระบบจะเรียกเก็บเงินส่วนต่างกับลูกค้าล่วงหน้าทันที เพราะฉะนั้นการจองดังกล่าวเป็นการชำระเงินล่วงหน้าแล้ว 100% ทางร้านจึงไม่ต้องเรียกเก็บเงินกับลูกค้าตอนที่เข้าใช้บริการ (ระบบจะโชว์การจองดังรูปภาพด้านล่างนี้)


การจองแบบชำระล่วงหน้าแล้วโดยใช้โค้ดส่วนลด


กรณีที่ 2: ร้านมีการเรียกเก็บเงิน 100% ล่วงหน้าก่อนทำการจองอยู่แล้ว หรือมีการเปิดใช้ฟีเจอร์ที่เป็น Option to PayNow ทำให้ลูกค้าทำการชำระล่วงหน้าได้ เพราะฉะนั้นแล้วการจองรูปแบบนี้ทางร้านไม่ต้องเรียกเก็บเงินกับลูกค้าตอนเข้าใช้บริการเช่นกัน (ระบบจะโชว์การจองดังรูปภาพด้านล่างนี้)


การจองแบบชำระเงินล่วงหน้าแล้ว
สัดส่วน/จำนวนที่นั่ง
ตารางสัดส่วนจำนวนที่นั่งในระบบ Hungry Hub Partner


ในส่วนของ สัดส่วนจำนวนที่นั่ง ที่ร้านเปิดให้ลูกค้า Hungry Hub สามารถจองได้ ดูได้ที่ สัดส่วน/จำนวนที่นั่ง บนแถบเมนู โดยจะแสดงเป็นตารางตามวันที่ ในตาราง แนวนอนคือชั่วโมง จะแสดงทุก 1 ชั่วโมง และแนวตั้งคือ นาที จะแสดงทุก 15 นาที


  • สีเหลี่ยมสีเขียว หมายถึง ช่วงเวลาที่จองได้

  • สีเหลี่ยมสีเทา หมายถึง ช่วงเวลาที่จองไม่ได้

  • ตัวเลขในสี่เหลี่ยม หมายถึง สัดส่วนจำนวนที่นั่ง ตามที่ร้านเปิด (แต่ละร้านสัดส่วนไม่เท่ากัน)
    – ตัวเลขฝั่งซ้าย คือ จำนวนที่นั่งที่ถูกจองไปแล้ว
    – ตัวเลขฝั่งขวา คือ ที่นั่งที่ยังเหลืออยู่/ที่สามารถจองได้
การบล็อกร้านอาหาร
หน้าจอการบล็อกร้านอาหาร

ตัวเลือกการบล็อกแบบทั้งวันหรือตามช่วงเวลา


การบล็อกร้านอาหาร คือ การปิดที่นั่ง ไม่ให้ทำการจองเข้ามาเพิ่มได้ โดยใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น เช่น ที่นั่งในร้านเต็ม, วัตถุดิบหมด, พนักงานไม่เพียงพอ เป็นต้น ร้านสามารถโดยเลือกปิด ทั้งวัน หรือ ปิดตามช่วงเวลาได้ (จำกัดการปิดที่นั่งได้ครั้งละ 1 วันเท่านั้น) ทั้งนี้การจองที่ถูกจองเข้ามาก่อน ที่ร้านจะปิดในช่วงเวลานั้นๆ ร้านอาหารจะต้องรับลูกค้าตามปกติ


โดยกรณีที่หากทางร้านต้องการปิดรับการจองล่วงหน้า เช่น ทางร้านมีลูกค้าปิดเหมาร้านล่วงหน้า หรือในช่วงของวันเทศกาลแล้วมีการจองเต็มที่หน้าร้านแล้ว หรือทางร้านมีแผนที่จะปิดปรับปรุงร้าน กรณีนี้ทางร้านสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ Line ID: @hhforbusiness เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการร้านค้า ดำเนินการปิดให้ โดยทางเจ้าหน้าที่เราจะทำการในทุกวันระหว่างเวลา 10.00-19.00 (หากทางร้านแจ้งมานอกเวลาทำการ ทางเจ้าหน้าที่เราจะดำเนินการให้ในวันถัดไป)

ออนไลน์แพคเกจและการพิมพ์ไฟล์เมนู
หน้าจอแพ็กเกจในระบบ Hungry Hub Partner


กรณีที่ร้านต้องการดูว่าแพคเกจไหนบ้างของทางร้านที่ตอนนี้กำลังขึ้นขายบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชัน Hungry Hub ทางร้านสามารถดูได้โดยกดเข้าไปที่ Package ที่อยู่แถบด้านซ้าย จากนั้นระบบจะขึ้นโชว์เหมือนในรูปภาพด้านบน จากนั้นด้านซ้ายมือจะมีสถานะของแพคเกจขึ้น โดยหากแพคเกจยังขึ้นขายตามปกติ สถานะจะเป็น "Active (สีเขียว)" แต่หากแพคเกจไม่ได้ขึ้นขายแล้วหรือหมดอายุไปแล้ว จะขึ้นสถานะว่า "Inactive (สีเทา)"



กรณีที่ร้านต้องการพิมพ์ใบเมนูของแพคเกจนั้นๆ เพื่อนำไปให้บริการลูกค้าเวลาเข้าใช้บริการหน้าร้าน ทางร้านสามารถกดปุ่ม "Print Menu" ที่อยู่ด้านขวา โดยไฟล์ที่พิมพ์จะเป็นไฟล์ pdf. เสมอ

การจัดการข้อมูลและบัญชีใช้งานของร้าน
การจัดการข้อมูลทั่วไปของร้าน

กรณีที่ร้านต้องการอัปเดตหรือเปลี่ยนข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับร้าน สามารถกดเข้าไปที่ "Account Management/การจัดการบัญชี" จากนั้นให้กดไปที่ "Store/ร้านค้า" ระบบจะโชว์เหมือนภาพด้านบน ซึ่งส่วนแรกจะเป็นการจัดการเกี่ยวกับชื่อร้าน, ชื่อร้านในรูปแบบที่กระชับเวลาส่ง sms ให้ลูกค้า, เบอร์โทรของร้าน, เวลาทำการของร้าน, และคำอธิบายเกี่ยวกับร้าน



การจัดการโลโก้และรูปภาพร้าน

จากนั้นในส่วนที่ 2 จะเป็นการเปลี่ยนโลโก้ของร้าน และการอัปเดตรูปภาพสำหรับรูปหน้าปกของร้าน การจัดเรียงลำดับรูปภาพที่จะแสดงโชว์หน้าเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าเห็น รวมไปถึงการจัดการอัลบั้มของร้านว่าต้องการลบหรือเพิ่มรูปภาพใดบ้าง



การจัดการแท็กของร้านอาหาร

และส่วนที่ 3 ซึ่งเป็นส่วนสุดท้าย จะเป็นการให้ร้านสามารถติดแท็กของร้านได้เอง ซึ่งแท็กจะมีความสำคัญเกี่ยวกับเปิดการมองเห็นเมื่อลูกค้าทำการค้นหาร้านที่ต้องการเข้าใช้บริการ โดยหมวดหมู่ของแท็กจะมีทั้งหมด 4 หมวดหมู่ ได้แก่ ประเภทอาหาร, รูปแบบการรับประทานอาหาร, สถานที่ตั้ง, และสิ่งอำนวนความสะดวก

รายงานการจองทั้งหมด

ตัวอย่างอีเมลล์ที่ส่ง report จากระบบของ Hungry Hub

ตัวอย่างอีเมลรายงานการจองจาก Hungry Hub

หากทางร้านไม่ได้รับอีเมลล์จากระบบของ Hungry Hub สามารถดึง report ได้ด้วยตนเองที่ลิงก์นี้



วิธีการอ่านไฟล์ Report Dine-in

  • Booking ID เลขการจอง
  • Dining date วันที่จองไปใช้บริการ
  • Status สถานะของลูกค้า
  • Status for commission สถานะในการคิดค่าคอมมิชชั่น
    • Arrived (ถึงแล้ว) = commission คิดค่าคอมมิชชั่น
    • Pending Arrival (กำลังมา) = commission คิดค่าคอมมิชชั่น
    • Cancel (ยกเลิก) = no commission ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น
    • No Show (ไม่แสดงตัว) = no commission ไม่คิดค่าคอมมิชชั่น
  • Total Package price (amount) ยอดขายสุทธิ
  • Service Type ประเภทการจอง Dine in or delivery
  • Pre-payment amount ยอดการชำระล่วงหน้าเข้ามาที่ Hungry Hub
  • Promo Code by Hungry Hub รหัสโค้ดของลูกค้าที่ใส่เข้ามา
  • Promo Code amount by Hungry Hub มูลค่าของเวาเชอร์

Dine-in Reservation Report

  • Booking ID
  • Dining date
  • Status of the booking
  • Status for commission
    • Arrived (ถึงแล้ว) = commission charged
    • Pending Arrival (กำลังมา) = commission charged
    • Cancel (ยกเลิก) = no commission charged
    • No Show (ไม่แสดงตัว) = no commission charged
  • Total Package price (amount)
  • Service Type is the type of a booking whether it is Dine-in or delivery
  • Pre-payment amount is the amount paid before the reservation is confirmed
  • Promo Code by Hungry Hub
  • Promo Code amount by Hungry Hub




หลังจากที่ทำการตรวจสอบ report เรียบแล้วหากข้อมูลไม่ตรง ทางร้านสามารถแก้ไขข้อมูลดังนี้

If you find any information mismatched, false or inaccurate, you may edit the details by :


สำหรับการแก้ไข No Show หรือจำนวนลูกค้าที่มาเข้าพักหรือใช้บริการ สามารถแก้ไขในระบบได้เองภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเวลาที่ลูกค้าทำการจอง หากไม่สามารถแก้ไขได้ภายใน 24 ชั่วโมงให้แจ้งทีมมาที่ Line id : @hhforbusiness
You must change the status of a booking or number of pax within 24 hours of the reservation date. If failed to do so, please contact us through Line id : @hhforbusiness


พาร์ทเนอร์จะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ส่ง report ทุกวันที่ 1 (12:00) ของเดือนถัดไป หรือช้าที่สุดคือวันที่ 2 เราส่งใบแจ้งหนี้ทุกวันที่ 3 ของเดือนถัดไป หากไม่แจ้งตามกำหนด ถือว่าทางร้านยอมรับค่าคอมมิชชั่นที่เกิดขึ้น
You must submit the modified report (of that month) before the 1st of the next month or latest by 2nd of the next month. If failed to do so, Hungry Hub will assume that you accept the commissions charged that month.


ในกรณีที่ร้านต้องการส่งไฟล์แก้ไขสถานะไม่แสดงตัว หรือการแก้ไขจำนวนต่างๆ ทาง Hungry Hub ขอสงวนสิทธิ์ไม่แก้ไขข้อมูลทั้งสิ้นด้วยนโยบายแก้ไขสถานะภายใน 24 ชั่วโมง
Hungry Hub retains the right to not change all information with a policy to modify the status within 24 hours in the event that the restaurant desires to provide a file to modify the status of No Show or any amendments to the amount.


พาร์ทเนอร์สามารถส่งเมลล์แจ้งแก้ไขยอดเดือนที่แล้วได้ที่ finance@hungryhub.com วันที่ 1-2 เท่านั้น
You may submit the modified report at finance@hungryhub.com only on 1st or 2nd of the month.

ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน และการขอเงินคืนส่วนลด และเงินค่าอาหารที่ลูกค้าชำระล่วงหน้า

เราจะส่งใบแจ้งหนี้ผ่านทางอีเมล ทุกวันที่ 3 หรือ 4 ของเดือน
เมื่อทำการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ให้ท่านส่งหลักฐานมาที่อีเมล finance@hungryhub.com เท่านั้น
เมื่อเราทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เราจะส่งใบกำกับภาษี / ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับการอนุมัติจากกรมสรรพากรให้ทางอีเมล




สำหรับ Promo code & Prepayment ที่ทางลูกค้านำมาใช้กับทางร้านอาหารพาร์ทเนอร์ ร้านอาหารสามารถรวบรวมยอดทั้งหมด และออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินคืนจากทาง Hungry Hub มีวิธีดังนี้ :


  • หักจำนวนส่วนลด Promo code และ Prepayment ออกจากค่าคอมมิชชั่นที่จะต้องจ่ายให้กับ Hungry Hub ทางพาร์ทเนอร์ต้องวางใบแจ้งหนี้ยืนยันยอดกับ Hungry Hub ทุกครั้ง

  • ทาง Hungry Hub มีรอบการโอนเงินคืนร้านอาหารคือวันที่ 10 และ 20 ของทุกเดือนโดยต้องวางบิลให้เรียบร้อย ก่อนวันโอนเงิน 1 วัน ทั้งนี้ทางร้านต้องไม่มียอดค้างค่าคอมมิชชั่นของเดือนนั้นๆ

ภาพรวมการจัดการการเงิน


ตัวอย่างบิลขอเงินคืน

ตัวอย่างบิลขอเงินคืนจาก Hungry Hub
ต้องการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Hungry Hub

Hungry Hub เราต้องการร่วมงานและโตไปนานๆกับร้านอาหาร เราช่วยออกแบบโปรโมชั่นและให้คำแนะนำในการเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหาร จากประสบการณ์ร่วมงานกับร้านอาหารมากมายหลายประเภท หากคุณต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา สามารถติดต่อผ่าน ช่องทาง Support ของเราได้เลย


ประกาศการร่วมมือระหว่างฮังกรี้ฮับกับแอปพลิเคชั่นที่สาม

Application integration: ฮังกรี้ฮับร่วมมือกับแอปพลิเคชั่นที่สาม ซึ่งออกแบบให้ทำงานร่วมกัน ลูกค้าสามารถทำการจองร้านอาหารหรือโรงแรมเข้ามาผ่านแอปพลิเคชั่นที่สามและทางร้านสามารถตรวจสอบการจองผ่านระบบฮังกรี้ฮับได้เหมือนเดิม


1. สิทธิประโยชน์ของการร่วมกับแอปพลิเคชั่นที่สามที่ทางร้านจะได้รับ

  • สามารถเพิ่มการจองและเพิ่มยอดขายให้กับทางร้านได้มากยิ่งขึ้น
  • สามารถเข้าถึงลูกค้าวงกว้างมากกว่าเดิม

2. วิธีตรวจสอบและจัดการการจองจากแอปพลิเคชั่นที่สาม

ทางร้านสามารถตรวจสอบการจองจากเว็ปไซต์ระบบหลังบ้านของทางฮังกรี้ฮับ ซึ่งจะอธิบายถึงสถานะการจองของลูกค้า วิธีการเปลี่ยนสถานะการจอง หรือข้อมูลทั้งหมดของการจองที่ร้านจะต้องกดหรือแก้ไขในกรณีต่างๆ

*หากมีลูกค้าจองเข้ามาในระบบ ร้านจะได้รับ การแจ้งเตือนผ่าน SMS และ Email หรือ แอปพลิเคชั่น Hungry Hub Partner ที่กำหนดไว้


ตัวอย่างการจองจากแอปพลิเคชันที่สาม

3. ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน และการขอเงินคืนส่วนลด และเงินค่าอาหารที่ลูกค้าชำระล่วงหน้า

ในส่วนของข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดบัญชี ทางร้านสามารถตรวจสอบวิธีการอ่าน Report เพื่อตรวจสอบข้อมูลการจองลูกค้าที่ลูกค้าทำการจองเข้ามาและใช้บริการได้ดังนี้

  • วิธีการดึง Report: กรุณาตรวจสอบที่ข้อ "รวมข้อมูลเกี่ยวกับการจองและการใช้ตัวกรอง"
  • วิธีการอ่านไฟล์ Report: กรุณาตรวจสอบที่ข้อ "รายงานการจองทั้งหมด"
  • การส่งใบแจ้งหนี้ การขอเงินคืนและอื่นๆ: กรุณาตรวจสอบที่ข้อ "ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จรับเงิน และการขอเงินคืนส่วนลด และเงินค่าอาหารที่ลูกค้าชำระล่วงหน้า"

4. ติดต่อฮังกรี้ฮับได้อย่างไร ?

หากทางร้านพบปัญหาในการจองหรือต้องการติดต่อทางฮังกรี้ฮับสามารถติดต่อได้ที่:

  • LINE: @hhforbusiness 10:00 - 19:00 ของทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
  • LINE: @hhforbusiness , please contact during working hours 10:00 - 19:00 (Thailand local time GMT +7)

5. รายชื่อแพลตฟอร์มของแอปพลิเคชั่นที่สามที่ร่วมกับฮังกรี้ฮับ

ข้อกำหนดและเงื่อนไขสำหรับร้านอาหารและโรงแรม

Copyright © 2025 Hungry Hub by AppServation Co., Ltd. All right reserved.

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถเลือกตั้งค่าความยินยอมการใช้คุกกี้ได้ โดยคลิก การตั้งค่าคุกกี้ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดย เปิด/ปิด คุกกี้แต่ละประเภทสามารถขอได้ ยกเว้นคุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า