ท่านสามารถจองร้านอาหารได้ฟรี! ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ Hungry Hub

• การจองแบบทานที่ร้าน เช่น All-You-Can-Eat หรือ Party Pack

1. เลือกร้านที่ต้องการจอง
2. กด จองเลย แล้วเลือกจำนวนคนที่จะมาใช้บริการ
3. เลือก วันที่ เวลา และแพ็คเกจที่ต้องการจอง จากนั้นกด เลือก
4. หากท่านได้เข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลของท่านจะถูกกรอกเรียบร้อย
5. ท่านสามารถใช้โค้ดส่วนลด เป็นส่วนลดค่าบริการได้ (วิธีการใช้ Promo Code)

เมื่อการจองสำเร็จ ลูกค้าจะได้รับอีเมลและ SMS ยืนยันการจอง เมื่อถึงเวลาที่จองไว้ สามารถแสดงหมายเลขการจองที่ได้รับกับร้านอาหารเพื่อเข้ารับบริการได้เลย

• การจอง Staycation หรือ Xperience

1. เลือกโรงแรมที่คุณต้องการ
2. เลือกแพ็คเกจที่ต้องการ
3. เลือกจำนวนคน
4. เลือกวันที่ที่ต้องการพัก
5. กรอกข้อมูลส่วนตัว เช็คยอดชำระ และกดจองเป็นอันเสร็จสิ้น

Xperience คือแพ็กเกจที่รวมการพักที่โรงแรมหรือกิจกรรมกลางแจ้ง รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ขั้นตอนในการจองแพ็กเกจ Xperience:

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ของเรา www.hungryhub.com หรือดาวน์โหลดแอป Hungry Hub ที่รองรับทั้ง Android และ iOS
2. สำหรับอุปกรณ์ Android ดาวน์โหลดได้ที่ https://bit.ly/HHANDROIDSTORE
3. สำหรับอุปกรณ์ iOS ดาวน์โหลดได้ที่ https://apple.co/3ahuqpR

วิธีการจองแพ็กเกจ Xperience:

1. หากคุณมีโรงแรมที่ต้องการจองอยู่แล้ว กรุณาเข้าไปที่หน้าเว็บ Hungry Hub ด้านบนของหน้าเว็บจะมี "ช่องค้นหา" ซึ่งคุณสามารถกรอกชื่อโรงแรมที่ต้องการได้ หากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกโรงแรมไหน ให้คลิก "ดูเพิ่มเติม" ที่อยู่ขวามือของช่องค้นหา จากนั้นเลือก "ประเภทแพ็กเกจ" และเลือก "Xperience" ระบบจะแสดงรายชื่อโรงแรมทั้งหมดที่ร่วมรายการ

2. หลังจากที่คุณเลือกโรงแรมแล้ว ให้เลือกแพ็กเกจที่ตรงกับความต้องการ ระบุจำนวนผู้เข้าพัก และเลือกวันที่ต้องการเข้าพัก

3. กรุณากรอกข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล คุณยังสามารถระบุคำขอพิเศษสำหรับโรงแรมในช่อง "คำขอพิเศษ" ซึ่งเป็นตัวเลือกเพิ่มเติม จากนั้นเลือกวิธีการชำระเงินที่คุณต้องการ — ชำระเงินทันทีหรือเมื่อมาถึงโรงแรม (หากระบบแจ้งให้ชำระเงินทันที แสดงว่าโรงแรมนั้นต้องการการชำระเงินล่วงหน้า)

4. กดที่ปุ่ม "ยืนยันการจอง" ระบบจะออกหมายเลขการจอง (Booking ID) กรุณานำหมายเลขนี้ไปแสดงเมื่อเช็คอินหรือเมื่อมาถึงสถานที่

สำหรับแพ็กเกจ Hungry Hub คุณสามารถจองโต๊ะหรือห้องพักล่วงหน้าได้สูงสุด 90 วัน ก่อนวันที่ต้องการใช้บริการ

อย่างไรก็ตาม นโยบายการจองอาจแตกต่างกันไปตามร้านอาหารหรือโรงแรมแต่ละแห่ง ดังนั้น ควรตรวจสอบรายละเอียดการจองในเว็บไซต์หรือแอป Hungry Hub สำหรับแต่ละตัวเลือกก่อนทำการจอง

หากคุณต้องการจองล่วงหน้านานกว่านั้น หรือมีคำขอพิเศษใด ๆ แนะนำให้ ติดต่อร้านอาหารหรือโรงแรมโดยตรง เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม

การจองแบบ Last-Minute Booking หรือ การจองแบบกระชั้นชิด คือการจองล่วงหน้าน้อยกว่าเวลาที่ร้านหรือโรงแรมกำหนดไว้

• ร้านอาหาร (Dine In): ลูกค้าควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 15 นาที ก่อนเวลารับประทานอาหาร เพื่อให้ร้านสามารถตรวจสอบจำนวนโต๊ะว่างได้
• Xperience (โรงแรม / ที่พัก): ลูกค้าควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เพื่อให้โรงแรมมีเวลาจัดเตรียมห้องพักและบริการตามแพ็กเกจ

หากเป็นการจองแบบ Last-Minute สำหรับร้านอาหาร:

• ลูกค้าจะได้รับ หมายเลขการจอง เพื่อยืนยันกับร้าน
• สามารถเดินทางไปที่ร้านได้เลย แต่ อาจต้องรอคิว หากมีลูกค้าหน้าร้านจำนวนมาก

ส่วนสำหรับการจองที่พักแบบกระชั้นชิด ระบบจะพิจารณาความพร้อมของห้องพักในวันนั้น ซึ่งอาจไม่มีห้องว่างให้บริการ

เพียงแจ้งจำนวนคน วันที่ เวลา สถานที่ และประเภทอาหารที่ต้องการ ทาง Hungry Hub จะช่วยประสานงานร้านอาหารที่มีความเหมาะสม พร้อมช่วยให้คุณประหยัดเวลา คุมงบ และสร้างประสบการณ์มื้อพิเศษได้อย่างเต็มที่
Corporate Service – บริการผู้ช่วยสำหรับการจัดเลี้ยงขององค์กรตอบโจทย์ด้วยบริการที่ครอบคุมทั้งในรูปแบบบริการรับประทานที่ร้านและบัตรของขวัญ บัตรกำนัลสำหรับองค์กร ซึ่งจะให้บริการอำนวยความสะดวกในการจัดหา แนะนำ ต่อรองร้านอาหารหรือโรงแรม เพื่อให้ตรงกับความต้องการและงบประมาณของลูกค้าองค์กร บริการจัดเลี้ยงแบบองค์กรของเราแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

• Corporate Dine-in: จัดเลี้ยงที่ร้านอาหารตามงบและจำนวนที่แจ้งไว้
• Corporate Gift Card: บัตรกำนัลใช้แทนเงินสด สำหรับร้านอาหารที่ร่วมรายการกว่า 1,000 แห่ง ส่งเป็นของขวัญผ่านออนไลน์ได้

ลูกค้าสามารถ:

• จองผ่านเว็บไซต์ได้ตามปกติ
• หรือติดต่อทีมงานโดยตรงที่ support@hungryhub.com

หากท่านต้องการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขรายละเอียด ท่านสามารถดำเนินการได้ผ่าน 3 ช่องทางดังนี้:

• แก้ไขรายละเอียดการจอง หรือ Modify Booking หลังจากทำการจอง
• แก้ไขการจองผ่านอีเมลยืนยันการจอง
• แก้ไขการจองในบัญชีของลูกค้า ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน Hungry Hub

ขั้นตอนการแก้ไขการจองหลังจากทำการจอง

1. หลังจากทำการจอง ระบบจะพาไปที่หน้ายืนยันการจอง
2. กดที่ แก้ไขรายละเอียดการจอง หรือ Modify Booking
3. ดำเนินการแก้ไขรายละเอียดได้ทันที

ขั้นตอนการแก้ไขผ่านอีเมลยืนยันการจอง

1. เปิดอีเมลยืนยันการจองล่าสุดที่ได้รับจาก Hungry Hub
2. เลื่อนลงและคลิกปุ่ม เปลี่ยนแปลง/ยกเลิก
3. ดำเนินการแก้ไขตามที่ต้องการ

ขั้นตอนการแก้ไขผ่านเว็บไซต์หรือแอป

1. เข้าสู่โปรไฟล์ > การจองที่กำลังจะเกิดขึ้น > แก้ไขการจอง
2. ดำเนินการแก้ไขรายละเอียดได้ทันที

หากลูกค้าไม่สามารถทำการจองได้ กรุณาตรวจสอบเบื้องต้นดังนี้:

• ตรวจสอบข้อความที่ปรากฏในแอปหรือเว็บไซต์ ซึ่งจะอธิบายเหตุผลที่ไม่สามารถทำการจองได้
• เวลาที่เลือกอาจไม่มีโต๊ะว่าง ระบบจะเสนอช่วงเวลาถัดไปที่สามารถจองได้
• ตรวจสอบว่าเลือกเวลาถูกต้อง เช่น am หรือ pm
• ตรวจสอบว่าอยู่ในช่วงเวลาที่ร้านเปิดให้บริการและรองรับการจอง
• บางร้านมีข้อกำหนดจำนวนคนขั้นต่ำ เช่น ต้องจองตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ไม่สามารถจองสำหรับ 1 ท่านได้
• หากมีการจองซ้ำในช่วงเวลาเดียวกันหรือห่างกันไม่ถึง 1 ชั่วโมง ระบบจะไม่อนุญาตให้จองซ้ำ

เหตุผลที่มีการกำหนดขั้นต่ำการจองสำหรับ 2 ที่นั่งขึ้นไป มักเกิดจากข้อจำกัดของร้านอาหาร ซึ่งอาจรวมถึง:

• รูปแบบรายการอาหารไม่เหมาะสำหรับการรับประทานคนเดียว เช่น เซตสำหรับแบ่งกันทาน
• มีเพียงโต๊ะขนาดใหญ่ไว้ให้บริการ ซึ่งไม่เหมาะกับลูกค้าท่านเดียว
• การจองสำหรับ 1 ท่าน อาจทำให้ร้านสูญเสียโอกาสในการขายในช่วงเวลานั้น

ทั้งนี้ นโยบายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละร้าน โปรดตรวจสอบรายละเอียดในหน้าร้านอาหารก่อนทำการจอง

ท่านสามารถตรวจสอบช่วงเวลาที่ว่างได้ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของ Hungry Hub ด้วยวิธีดังนี้:

1. ไปที่ร้านอาหารที่ท่านต้องการเช็ค
2. กดที่ จองทันที
3. เลือกจำนวนผู้ใช้บริการ
4. ระบบจะแสดงวันที่ที่มีโต๊ะว่าง (สังเกตจากปุ่มสีเขียวใต้วันที่)
5. ระบบจะแสดงช่วงเวลาที่สามารถจองได้

ลูกค้าควรจองให้เท่ากับจำนวนคนที่ไปใช้บริการจริง เนื่องจากที่นั่งมีจำนวนจำกัด หากลูกค้าจองแล้วไม่ไปตามเวลาที่จองไว้ อาจทำให้ลูกค้าท่านอื่นเสียสิทธิ์ในการจองได้ ทั้งนี้หากลูกค้าจองแล้วพบว่าจำนวนที่นั่งมีการเปลี่ยนแปลง สามารถแก้ไขได้จากลิงก์ที่ได้รับในอีเมลยืนยันการจองหรือ SMS ง่ายๆ ได้ด้วยตนเอง
แต่หากเป็นกรณีที่ลูกค้าทำการชำระเงินล่วงหน้าแล้ว ลูกค้าจะไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงจำนวนคนในการจองได้ กรณีนี้ลูกค้าจะต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ Hungry Hub เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขให้ และลูกค้าจะต้องชำระเงินส่วนต่างสำหรับจำนวนคนที่เพิ่มกับเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าทันที

หากลูกค้าทำการจองไว้กับ Hungry Hub และเป็นการจองที่ชำระเงินหน้าร้าน ท่านสามารถยกเลิกการจองได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งลูกค้าสามารถยกเลิกการจองได้ง่ายๆ โดยกดที่ปุ่ม Cancel Booking จากอีเมล์ยืนยันการจองหรือ SMS ได้เลย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

แต่หากเป็นการจองที่ได้ทำการชำระล่วงหน้าไปแล้ว ไม่สามารถยกเลิกเพื่อรับเงินคืนได้ในทุกกรณี ซึ่งหากลูกค้าไม่สะดวกเข้าใช้บริการตามวันที่จองไว้ ลูกค้าสามารถทำการเลื่อนได้ด้วยตนเองหรือสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของทางเราดำเนินการเลื่อนให้

กรณีที่ลูกค้าทำการยกเลิกการจองโดยไม่ได้ตั้งใจ ลูกค้าสามารถจองใหม่อีกครั้งได้ด้วยตนเองหรือสามารถติดต่อ Hungry Hub ให้แก้ไขการจองกลับมา โดยติดต่อเราผ่านทาง Support 

ท่านสามารถทำการจอง Hungry Hub หลายครั้งในวันที่เดียวกันได้ แต่การจองแต่ละครั้งจะต้องชำระเงินล่วงหน้า (pre-payment) หากท่านไม่ทำการชำระเงินล่วงหน้า ท่านจะไม่สามารถทำการจองหลายรายการในวันที่เดียวกันได้ นโยบายนี้มีไว้เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่นและเพื่อความพร้อมของบริการ หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเรา

ลูกค้าต้องทำการจอง 1 ครั้ง ต่อ 1 คืน หากลูกค้าต้องการจอง 2 คืน จะต้องทำการจอง 2 ครั้ง โดยเลือกวันที่ต่างกัน หลังจากทำการจองสำเร็จแล้ว ลูกค้าสามารถนำหมายเลขการจอง (Booking ID) ไปแจ้งกับโรงแรมหรือแจ้งให้ Hungry Hub ทราบ เพื่อให้ทางเราประสานงานแจ้งกับโรงแรมให้รับทราบ

ตอนนี้การจองผ่าน Hungry Hub ไม่สามารถเลือกที่นั่งเฉพาะได้ ที่นั่งจะถูกจัดสรรโดยร้านอาหารตามความพร้อม แต่ท่านสามารถระบุคำขอพิเศษเกี่ยวกับที่นั่ง (เช่น ขอที่นั่งติดหน้าต่าง หรือที่นั่งส่วนตัว) ในช่อง "คำขอพิเศษ" ระหว่างการจอง ร้านอาหารจะพยายามจัดให้ตามคำขอของท่าน แต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะได้ที่นั่งตามที่ต้องการ